มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์จริงหรือ ไหว้อะไรกัน
พระสถูป ที่แสดงยมกปาฏิหาริย์ ณ นครสาวัตถี ก่อนเสด็จขึ้นไปจำพรรษา ณ ดาวดึงส์พิภพ เพื่อทรงโปรดพระพุทธมารดา
ถาม ในเมืองไทย มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย เช่น เจ้าที่ พระภูมิ พระพรหมท่านเหล่านี้มีจริงหรือ ช่วยได้จริงหรือ ถ้าเป็นจริง ทำไมชาติเรา ไม่เจริญเท่านานาประเทศ (ซึ่งไม่ได้ดูหมอ เข้าทรง) คำถามมีต่อไปว่า ถ้าไม่ไหว้ ไม่เซ่น จะมีโทษไหม
ท่านอาจารย์ ถ้าจะถามเพียงว่า กำเนิดอื่น ภพอื่น ซึ่งเป็นเทพ ตามสถานที่ต่างๆ เจ้าที่ก็ดี พระภูมิก็ดี พระพรหมก็ดี ท่านเหล่านี้ มีจริงหรือ ก็จะทราบได้ว่า กำเนิดต่างๆ นอกจากกำเนิดของมนุษย์นั้น มีอยู่จริงตามควรแก่เหตุปัจจัยถ้าเป็นเทพ เทวดา ก็ต้องเป็นผลของกุศลกรรม ซึ่งทำให้เกิดเป็นเทวดาถ้าเกิดเป็นพรหม
แต่ที่ท่านถามว่า ในเมืองไทยมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายทำไมเข้าใจว่า เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คะ เทพ ศักดิ์สิทธิ์ อย่างไร พรหม ศักดิ์สิทธิ์ อย่างไร มนุษย์ ศักดิ์สิทธิ์ไหมคะ สามารถที่จะบันดาลให้คนอื่นเป็นอย่างไรเรียกว่าศักดิ์สิทธิ์หรือเปล่า ทำไมจึงกล่าวว่า ศักดิ์สิทธิ์ มีอะไร ทำให้คิดว่า ศักดิ์สิทธิ์ เพราะว่าทุกคน มีกรรมเป็นของตนเอง
ทำไมจึงกล่าวว่า เทวดา หรือพรหม ศักดิ์สิทธิ์ สำหรับข้อความที่ว่า ช่วยได้จริงหรือ ช่วยอย่างไรคะ ทุกคน มีกรรม เป็นของตนเอง ฉะนั้น สิ่งที่ท่านได้รับอยู่ ก็ย่อมเป็นไป ตามกรรม ของท่านเองถ้าท่านกระทำกรรมดี แม้ในมนุษย์โลก ก็ยังมีคนอุปถัมภ์ ช่วยเหลือท่าน
มีท่านผู้ฟัง ท่านหนึ่ง ได้เล่าถึงเรื่องจริงที่ได้เกิดขึ้น ให้ฟังว่าวันหนึ่ง ท่านขับรถไปกับลูกชายเล็กๆ แล้วรถก็เกิดตกไปข้างทางแต่ทันที ที่รถของท่าน ตกลงไปข้างทาง รถที่ขับมาข้างหลัง เป็นรถจี้ปที่มีอุปกรณ์ครบ พร้อมที่จะฉุดขึ้น รถที่ตามมานั้นก็จอดแล้วช่วยฉุดรถของท่านขึ้นมาจากข้างทางนั้นได้
บุญ เหมือนญาติสนิท ซึ่งจะติดตามคุ้มครองรักษาช่วยเหลือแก้ไขเหตุการณ์ต่างๆ ให้ปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ ได้และท่านผู้นั้น ก็ระลึกได้ว่า ถ้ามีผล จากอกุศลกรรม ก็คงต้องคอยไปอีกนาน กว่าจะมีผู้อื่นมาช่วยเหลือได้ ส่วนที่จะมีใครช่วยได้หรือไม่นั้น ก็แล้วแต่กุศลกรรมของท่านอีกถ้าท่านเป็นผู้ที่ได้กระทำกุศลกรรมไว้ แม้เป็นมนุษย์ ก็มีผู้ที่จะช่วยท่านได้ไม่จำเป็นต้องคิดถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นใดเลย
ส่วนข้อความ ที่ท่านสงสัยว่า ประเทศของเรา ทำไมไม่เจริญเท่านานาประเทศซึ่งไม่ได้ดูหมอ เข้าทรง แต่เขาเจริญรุ่งเรืองมากอันนี้ ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ ให้เห็นแล้วว่า ถ้าบุคคลใดมีความมั่นใจ ในกรรมของตนเองจริงๆ ก็ย่อมจะเจริญ เพราะกุศลกรรม ซึ่งทำให้ได้รับ กุศลวิบาก โดยที่ไม่จำเป็นต้อง เข้าทรง หรือว่า ดูหมอ