คิด เป็นวิตกเจตสิก หรือ เป็นจิต?

 
lokiya
วันที่  7 ส.ค. 2564
หมายเลข  35298
อ่าน  549

วิตกเจตสิก กับ มโนทวารวชนะจิต เหมือนหรือต่างกันอย่างไร


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 7 ส.ค. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ประโยชน์ของการมีโอกาสได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ก็คือ ความเข้าใจถูก เห็นถูก เป็นการสะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย และสิ่งที่จะศึกษาให้เข้าใจนั้น ก็ไม่พ้นไปจากสภาพธรรมที่มีจริงๆ ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะกล่าวถึงเรื่องใดก็ตาม ก็ไม่พ้นไปจากธรรมเลย แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นธรรม จนกว่าจะได้ฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง

คิด เป็นสภาพธรรมที่มีจริงๆ ไม่พ้นไปจากสภาพธรรมที่เป็นนามธรรมได้แก่จิต และเจตสิกธรรมที่เกิดร่วมด้วย ที่เป็นไปทางใจ เพราะตามปกติแล้ว จิตเกิดขึ้นรู้อารมณ์ทาง ๕ ทวาร ทวารหนึ่งทวารใด แล้วต่อด้วยวิถีจิตทางใจ โดยมีภวังคจิตคั่น นี้คือความเป็นจริงของธรรม หรือแม้ไม่ได้เห็น ไม่ได้ยิน ไม่ได้กลิ่น ไม่ได้ลิ้มรส ไม่ได้ถูกต้องกระทบสัมผัส ก็คิดนึกได้ คิดถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เคยเห็นเคยได้ยิน เป็นต้น สภาพธรรมที่คิด มีจริง เรื่องที่คิดไม่มีจริง ไม่มีใครที่จะไปบังคับบัญชา ไม่ให้สภาพธรรมหนึ่งสภาพธรรมใดเกิดขึ้นเป็นไปได้เลย เพราะธรรมเกิดเพราะเหตุปัจจัย

วิตักกเจตสิก เป็นธรรมที่มีจริง เป็นเจตสิกประเภทหนึ่ง ที่ตรึกหรือจรดในอารมณ์ เกิดกับกุศลก็ได้ หรือ อกุศลก็ได้ ถ้าตรึกไปในทางที่เป็นกุศล ก็เป็นกุศลวิตก ในทางตรงกันข้าม ถ้าตรึกไปในทางอกุศล ก็เป็นอกุศลวิตก เป็นธรรมที่มีจริง ที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย และเกิดเองเพียงลำพังไม่ได้ ก็ต้องเกิดร่วมกับจิต และเจตสิกที่เกิดร่วมด้วย

มโนทวาราวัชชนจิต เป็นจิต ไม่ใช่เจตสิก มโนทวาราวัชชนจิต เป็นจิตที่เกิดขึ้นรำพึงถึงอารมณ์ทางใจ เป็นวิถีจิตแรกทางมโนทวาร ครับ


...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
lokiya
วันที่ 8 ส.ค. 2564

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ ขอเรียนถาม อ.khampan.a เพิ่มเติม

คิดเป็นจิต หรือ เป็นเจตสิก ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 8 ส.ค. 2564

เรียน ความคิดเห็นที่ ๒ ครับ

สำคัญที่ความเข้าใจตั้งแต่ต้นว่า จิต เมื่อเกิดขึ้น ก็ย่อมทำกิจหน้าที่รู้แจ้งซึ่งอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นจิตขณะใดก็ตาม แต่เมื่อกล่าวถึงขณะที่คิด กล่าวหมายรวมทั้งจิต และ เจตสิก ที่เกิดขึ้นเป็นไปทางมโนทวารหรือทางใจ ที่คิดนึกเรื่องราวต่างๆ ตามสัญญาที่ได้จำไว้ และ มีวิตักกเจตสิก ทำกิจหน้าที่ตรึกนึกถึงอารมณ์ในขณะนั้น ขณะที่คิด ดี ชัดเจนว่า ไม่ได้มีเฉพาะจิต ก็ต้องมีเจตสิกฝ่ายดีประการต่างๆ เกิดร่วมด้วย ทั้งศรัทธา สติ หิริ โอตตัปปะ เป็นต้น ในทางตรงกันข้าม ถ้าคิดไม่ดี ก็ไม่ได้มีเพียงจิต ก็ต้องมีเจตสิกฝ่ายไม่ดีประการต่างๆ ปรุงแต่งจิตในขณะนั้นด้วย เช่น ความโกรธ ความไม่พอใจ เป็นต้น ครับ

... ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
petsin.90
วันที่ 8 ส.ค. 2564

ขออนุโมทนาค่ะ อ.คำปั่น

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
lokiya
วันที่ 8 ส.ค. 2564

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chatchai.k
วันที่ 8 ส.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
เฉลิมพร
วันที่ 2 ต.ค. 2564

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ