จะตายเมื่อไหร่ก็ได้

 
unnop.h
วันที่  11 ส.ค. 2564
หมายเลข  35381
อ่าน  992

* ความตายที่เราเข้าใจกัน ก็คือความตายโดยสมมติ เป็นการเปลี่ยนจากความเป็นบุคคลหนึ่งในภพชาติหนึ่ง ไปเป็นอีกบุคคลหนึ่งในอีกภพชาติหนึ่ง โดยมีกรรมเป็นปัจจัย

* ชีวิตก็คือจิตแต่ละขณะที่เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัย ทำกิจหน้าที่อย่างใดอย่างหนึ่งแล้วก็ดับไป และจิตขณะต่อไปก็เกิดขึ้นสืบต่อทันทีโดยไม่มีระหว่างคั่น ทำกิจหน้าที่ของจิตนั้นแล้วก็ดับไป

* จิตขณะแรกของแต่ละภพชาติ (ปฏิสนธิจิต) เกิดจากกรรมหนึ่งที่ได้กระทำไว้แล้วเป็นปัจจัย หลังจากนั้นชีวิตก็มีหลับกับตื่น สลับกันไป ก่อนที่จะตายจากโลกนี้ไป

* หลับ ก็คือจิต (ภวังคจิต) ที่เป็นผลของกรรมๆ เดียวกันกับกรรมที่ทำให้ปฏิสนธิจิตเกิด แต่ทำหน้าที่ดำรงภพชาติคือความเป็นบุคคลนี้ ซึ่งขณะหลับจะไม่เห็น ไม่ได้ยิน ไม่ได้กลิ่น ไม่ได้ลิ้มรส ไม่รู้สิ่งที่กระทบทางกาย หรือคิดนึกอะไรเลย

* ตื่น ก็คือจิตที่เกิดขึ้นรู้สิ่งที่ปรากฏทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ

* ตาย ก็คือจิต (จุติจิต) ที่เกิดจากกรรมๆ เดียวกันกับกรรมที่ทำให้ปฏิสนธิจิต และภวังคจิตเกิด แต่ทำหน้าที่เคลื่อนจากความเป็นบุคคลนี้

* ความตายหรือจุติจิต จะเกิดเมื่อไหร่ก็ได้ จะเกิดต่อจากจิตที่รู้สีทางตา รู้เสียงทางหู รู้กลิ่นทางจมูก รู้รสทางลิ้น รู้สภาพที่กระทบทางกาย หรือรู้สิ่งที่ปรากฏทางใจก็ได้ หรือเกิดต่อจากภวังคจิตที่เกิดสืบต่อจากนั้นก็ได้

* และเมื่อจุติจิตเกิดแล้วดับไป ปฏิสนธิจิตที่เกิดจากกรรมใหม่ ก็เกิดขึ้นสืบต่อทันทีไม่มีระหว่างคั่น เป็นบุคคลใหม่ในภพใหม่ (คือตายแล้วเกิดทันที) ตราบเท่าที่ยังมีเหตุปัจจัยคือยังมีกิเลสอยู่

* ดังนั้น ตั้งแต่เกิดจนตายจึงเป็นธรรมที่เกิดดับตามเหตุปัจจัย ไม่ใช่เราเลย จึงไม่ควรประมาท ที่จะฟังพระธรรม เจริญปัญญาและกุศลทุกประการในชีวิตที่เหลืออยู่ ซึ่งไม่รู้ว่าจะมากน้อยเพียงใด


โดย อ.อรรณพ หอมจันทร์

อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... คติธรรม


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
petsin.90
วันที่ 11 ส.ค. 2564

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
มังกรทอง
วันที่ 11 ส.ค. 2564

ตั้งแต่เกิดจนตายจึงเป็นธรรมที่เกิดดับตามเหตุปัจจัย ไม่ใช่เราเลย จึงไม่ควรประมาท ที่จะฟังพระธรรม เจริญปัญญาและกุศลทุกประการในชีวิตที่เหลืออยู่ ซึ่งไม่รู้ว่าจะมากน้อยเพียงใด

น้อมกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
chatchai.k
วันที่ 11 ส.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
เมตตา
วันที่ 12 ส.ค. 2564

กราบขอบพระคุณ และกราบยินดียิ่งในกุศลจิต ด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
เฉลิมพร
วันที่ 18 ส.ค. 2564

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
lack
วันที่ 7 ก.ย. 2564

สาธุ ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
Wisaka
วันที่ 27 ก.พ. 2567

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
Jarunee.A
วันที่ 8 ก.ย. 2567

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ