พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

๓. ปุณณปาติชาดก การกล่าวถ้อยคํา ที่ไม่จริง

 
บ้านธัมมะ
วันที่  15 ส.ค. 2564
หมายเลข  35430
อ่าน  490

[เล่มที่ 56] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เอกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้าที่ 75

๓. ปุณณปาติชาดก

การกล่าวถ้อยคํา ที่ไม่จริง


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 56]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 10 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เอกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้า 75

๓. ปุณณปาติชาดก

การกล่าวถ้อยคำ ที่ไม่จริง

[๕๓] "ไหสุราทั้งหลาย ยังเต็มอยู่ตามเดิม ถ้อยคำที่ท่านกล่าวนี้ ไม่เป็นจริง เราจึงรู้ด้วยเหตุนี้ว่า สุรานี้เป็นสุราไม่ดีแน่นอน".

จบ ปุณณปาติชาดกที่ ๓

อรรถกถาปุณณปาติชาดกที่ ๓

พระบรมศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภเหล้าเจือยาพิษ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า "ตเถว ปุณฺณปาติโย" ดังนี้.

สมัยหนึ่ง พวกนักเลงสุราในเมืองสาวัตถี ชุมนุมปรึกษากันว่า ทุนค่าซื้อสุราของพวกเราหมดแล้ว จักหาที่ไหนได้เล่า ขณะนั้น นักเลงกักขฬะคนหนึ่งกล่าวว่า อย่าไปคิดถึงเลย อุบายยังมีอยู่อย่างหนึ่ง พวกนักเลงพากันถามว่า อุบายอย่างไร นักเลงกักขฬะบอกว่า ท่านอนาถบิณฑิกะใส่แหวนหลายวง นุ่งผ้าเนื้อเกลี้ยง ไปเฝ้าในหลวง พวกเราเอายาเบื่อใส่ในไหสุรา พากันนั่งเตรียมการดื่ม เวลาท่านอนาถบิณฑิกะมา ก็เชิญท่านว่า เชิญ

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 10 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เอกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้า 76

ทางนี้ครับ ท่านมหาเศรษฐี แล้วให้ท่านดื่ม เมื่อสลบแล้ว ก็ริบแหวนกับผ้านุ่ง ทำทุนซื้อเหล้ากินได้ นักเลงเหล่านั้นรับรองว่า ดีจริงๆ ชวนกันทำอย่างนั้น เวลาท่านเศรษฐีเดินมา ก็เดินสวนทางไป พลางกล่าวว่า นายขอรับ เชิญมาทางนี้ก่อนเถิดครับ สุราในวงของพวกข้าพเจ้า น่าชื่นใจยิ่งนัก เชิญดื่มสักหน่อย ค่อยไปเถิดครับ ท่านอนาถบิณฑิกะเป็นโสดาบันอริยสาวก จักดื่มสุราได้อย่างไร แม้ถึงท่านจะไม่ต้องการ ก็คิดจักจับไหวพริบพวกนักเลงเหล่านั้น จึงเดินไปถึงที่ซึ่งจัดเป็นที่ดื่ม ชำเลืองดูกิริยาของพวกนั้น ก็ทราบว่า พวกนี้ปรุงสุรานี้ไว้ด้วยเหตุชื่อนี้ แล้วดำริต่อไปว่า ตั้งแต่บัดนี้ไป ต้องไล่พวกนี้ให้หนีไปจากที่นี้ ดังนี้ แล้วพูดว่า แนะเฮ้ย เจ้าพวกนักเลงสุราชั่วร้าย พวกเจ้าเอายาเบื่อใส่ในไหเหล้า แล้วคบคิดกัน ให้คนที่มาพากันดื่มสลบไสล แล้วก็ปล้นเขาเสียดังนี้ จัดตั้งวงดื่มนั่งรอคุยอวดแต่สุรานี้อย่างเดียว ใครๆ แม้สักคนเดียวก็ไม่กล้ายกเหล้านี้ขึ้นดื่ม ถ้าเหล้านี้ไม่ผสมยาเบื่อแล้วไซร้ พวกเจ้าต้องดื่มกันบ้างเป็นแน่ ท่านเศรษฐีขู่นักเลงเหล่านั้นให้หนีไปจากที่นั้น แล้วก็ไปบ้านของตน ได้คิดว่า จักต้องกราบทูลเหตุที่พวกนักเลงกระทำให้พระตถาคตทรงทราบ จึงไปสู่พระเชตวันมหาวิหาร กราบทูลพระศาสดาให้ทรงทราบ พระศาสดาตรัสว่า ดูก่อนคฤหบดี มิใช่แต่ในบัดนี้เท่านั้น ที่พวกนักเลงเหล่านั้นประสงค์จะหลอกลวงเธอ ถึงในครั้งก่อน ก็ได้มีประสงค์จะหลอกลวง

 
  ข้อความที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 10 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เอกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้า 77

บัณฑิตทั้งหลายมาแล้ว ท่านเศรษฐีกราบทูลอาราธนา จึงทรงนำเอาเรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้.

ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติในกรุงพาราณสี พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นพาราณสีเศรษฐี แม้ในครั้งนั้น พวกนักเลงเหล่านั้น ก็ปรึกษากันอย่างนี้แหละ ปรุงสุราไว้ เวลาท่านพาราณสีเศรษฐีเดินมา ก็เดินสวนทางชวนพูด ทำนองเดียวกันทีเดียว ท่านเศรษฐีแม้ไม่มีความประสงค์จะดื่ม ก็อยากจะจับเล่ห์เหลี่ยมพวกนั้น จึงไป ครั้นดูกิริยาของพวกนักเลงเหล่านั้นแล้ว ก็คิดว่า พวกนักเลงเหล่านี้มุ่งจะทำสิ่งนี้ เราต้องไล่มันไปจากที่นี่ แล้วกล่าวอย่างนี้ว่า พ่อนักเลงผู้เจริญทั้งหลาย ธรรมดาการที่จะดื่มสุราแล้วเข้าเฝ้าในหลวงไม่ควรเลย เราไปเฝ้าในหลวงแล้วจะมาใหม่ พวกท่านจงนั่งรออยู่ในที่นี่แหละ ครั้นไปเฝ้าในหลวงแล้วก็กลับมา พวกนักเลงทั้งหลายพากันกล่าวว่า เชิญทางนี้เถิดครับท่าน เศรษฐีไปที่นั้นแล้ว มองดูไหเหล้าที่ผสมยา แล้วพูดว่า พ่อนักเลงผู้เจริญทั้งหลาย การกระทำของพวกเจ้าไม่ถูกใจเราเลย ไหเหล้าของพวกเจ้ายังเต็มอยู่ตามเดิม พวกเจ้าคุยอวดสุราอย่างเดียว แต่ไม่ดื่มกันเลย ถ้าเหล้านี้ชื่นใจจริงๆ พวกเจ้าก็ต้องดื่มกันบ้าง แต่เหล้านี้พวกเจ้าต้องผสมยาพิษลงไปเป็นแน่ เมื่อจะทำลายมโนรถของพวกนักเลงเหล่านั้น จึงกล่าวคาถานี้ ใจความว่า.

 
  ข้อความที่ 4  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 10 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เอกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้า 78

"ไหเหล้าคงเต็มอยู่อย่างนั้นเอง ถ้อยคำที่ท่านกล่าว คงเป็นคำหลอกลวง เรารู้ทันว่าสุรานี้ไม่ดีแน่นอน" ดังนี้.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ตเถว ความว่า เวลาที่เราไป เห็นไหเหล้าเป็นอย่างใด แม้ในบัดนี้ ไหเหล้านี้ก็คงเต็มเปี่ยมอย่างนั้น.

บทว่า อญฺายํ วตฺตเต วตฺตเต กถา ความว่า ถ้อยคำสรรเสริญเหล้าของพวกเจ้า เป็นคำหลอกลวง คือเป็นคำไม่จริง ได้แก่เหลวทั้งเรื่อง เพราะถ้าสุรานี้ดีจริงๆ พวกเจ้าต้องดื่มกัน จะพึงเหลือเพียงค่อนไห แต่พวกเจ้าไม่ได้ดื่มกินแม้แต่คนเดียว.

บทว่า อการเกน ชานามิ ความว่า เพราะฉะนั้น เราจึงรู้ด้วยเหตุนี้.

บทว่า เนวายํ ภทฺทกา สุรา ความว่า สุรานี้ไม่ดีแน่นอน ต้องเป็นสุราผสมยาพิษ.

ท่านเศรษฐี ข่มขู่พวกนักเลง คุกคามไม่ให้คนเหล่านั้นทำอย่างนี้อีก แล้วปล่อยไป กระทำบุญมีให้ทานเป็นต้น ตลอดชีวิต แล้วก็ไปตามยถากรรม.

พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ตรัสประชุมชาดกว่า พวกนักเลงในครั้งนั้น ได้มาเป็นพวกนักเลงในครั้งนี้ ส่วนพาราณสีเศรษฐี ได้มาเป็นเราตถาคต ฉะนี้แล.

จบ อรรถกถาปุณณปาติชาดกที่ ๓