พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

๒. มิตตวินทกชาดก ว่าด้วยจักรบดศีรษะ

 
บ้านธัมมะ
วันที่  15 ส.ค. 2564
หมายเลข  35459
อ่าน  385

[เล่มที่ 56] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เอกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้า 280

๒. มิตตวินทกชาดก

ว่าด้วยจักรบดศีรษะ


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 56]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 10 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เอกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้า 280

๒. มิตตวินทกชาดก

ว่าด้วยจักรบดศีรษะ

[๘๒] "ท่านเลยปราสาทแก้วผลึก ปราสาทเงินและปราสาทแก้วมณีมาแล้ว มาถูกจักรกรดสำเร็จด้วยหินพัดผันอยู่ ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็จักไม่พ้นจากจักรกรดตราบนั้น".

จบ มิตตวินทกชาดกที่ ๒

อรรถกถามิตตวินทกชาดกที่ ๒

พระบรมศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภภิกษุว่ายากรูปหนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า "อติกฺกมฺม รมณกํ" ดังนี้.

ก็เรื่องของชาดกนี้ เป็นเรื่องเกิดขึ้นครั้งศาสนาของพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า จักแจ่มแจ้งในมหามิตตวินทกชาดก หลักนิบาต ก็ในกาลนั้น พระโพธิสัตว์กล่าวคาถานี้ ความว่า.

"ท่านเลยปราสาทแก้วผลึก ปราสาทเงินและปราสาทแก้วมณีมาแล้ว มาถูกจักรกรดสำเร็จด้วยหินพัดผันอยู่ ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็จักไม่พ้นจากจักรกรดตราบนั้น" ดังนี้.

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 10 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เอกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้า 281

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า รมณกํ เป็นชื่อของแก้วผลึก ในกาลนั้น พระโพธิสัตว์แสดงว่า เจ้านั้นสิผ่านพ้นปราสาทแก้วผลึกไปเสียแล้ว.

บทว่า สทามตฺตญฺจ เป็นชื่อของเงิน พระโพธิสัตว์แสดงว่า เจ้านั้นสิผ่านปราสาทเงินไปเสียแล้ว.

บทว่า ทูภกํ เป็นชื่อของแก้วมณี พระโพธิสัตว์แสดงว่า เจ้านั้นสิผ่านปราสาทแก้วมณีไปเสียแล้ว.

บทว่า สฺวาสิ ตัดบทเป็น โส อสิ แปลว่า เจ้านั้นสิ.

บทว่า ปาสาณมาสีโน ความว่า ที่ชื่อว่า จักกรดนั้น สำเร็จด้วยหินก็มี สำเร็จด้วยแก้วมณีก็มี แต่จักรกรดอันที่เจ้าถูกมันขยี้บดทับนั้น สำเร็จด้วยหิน เพราะเหตุที่มาต้องจักรกรดสำเร็จด้วยหิน เมื่อควรจะกล่าวว่า ปาสาณาสีโน กลับกล่าวว่า ปาสาณมาสีโน โดยถือเอา ม อักษร ด้วยอำนาจพยัญชนะสนธิ มีอธิบาย ไว้อีกนัยหนึ่งว่า ทูนหัวจักรกรดหิน คือมาถูกจักรกรดนั้นพัดผัน ยืนอยู่.

บทว่า ยสฺมา ชีวํ น โมกฺขสิ ความว่า ทั้งๆ ที่ยังเป็นๆ อยู่ นั้นแหละ จักไม่พ้นไปจากจักรกรดได้ ต้องทูนมันไว้ จนกว่าบาปกรรมของเจ้าจะสิ้นไป.

พระโพธิสัตว์กล่าวคาถานี้แล้ว เสด็จไปสู่เทวสถานแห่งตนทันที ฝ่ายมิตตวินทุกะเล่า ก็ทูนจักรกรดไว้ เสวยทุกข์อย่างมหันต์ ครั้นบาปกรรมหมดไป ก็ไปตามยถากรรม.

 
  ข้อความที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 10 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เอกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้า 282

พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประชุมชาดกว่า มิตตวินทกะในครั้งนั้น ได้มาเป็นภิกษุว่ายากในครั้งนี้ ส่วนท้าวเทวราช ได้มาเป็นเราตถาคต ฉะนี้แล.

จบ อรรถกถามิตตวินทกชาดกที่ ๒