ปุถุชนหัวเราะด้วยมหากุศลจิตญานสัมปยุตต์ได้หรือไม่

 
lokiya
วันที่  16 ส.ค. 2564
หมายเลข  35471
อ่าน  432

.ปุถุชนหัวเราะด้วยมหากุศลจิตญานสัมปยุตต์ได้หรือไม่


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 16 ส.ค. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ปุถุชน สามารถหัวเราะ ยิ้มแย้ม ด้วยกุศลจิต ที่ประกอบด้วยปัญญา ได้ เป็นธรรมที่เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุปัจจัย ตามข้อความใน[เล่มที่ 76] พระอภิธรรมปิฎก ธรรมสังคณี เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ ๑๕๘ ดังนี้

จริงอยู่ ปุถุชน ย่อมหัวเราะด้วยจิต ๘ ดวง คือ

กุศลจิตสหรคต (ประกอบ) ด้วยโสมนัส ๔ ดวง

อกุศลสหรคต (ประกอบ) ด้วยโสมนัส ๔ ดวง


ข้อความบางตอนจากคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ มีดังนี้

สำหรับผู้ที่เป็นปุถุชนก็ยิ้มด้วยจิตที่ประกอบด้วยโสมนัสเวทนา ที่เป็นมหากุศลโสมนัส ๔ ดวง ได้แก่ มหากุศลญาณสัมปยุตต์ ๒ ดวง และ มหากุศลญาณวิปปยุตต์ ๒ ดวง และยิ้มด้วยโลภมูลจิตที่เกิดร่วมกับโสมนัสเวทนา ๔ ดวง คือ เกิดร่วมกับทิฏฐิคตสัมปยุตต์ ๒ ดวง ทิฏฐิคตวิปยุตต์ ๒ ดวง

ในวันหนึ่งๆ ที่ยิ้ม ให้ทราบว่า เพราะโสมนัสเวทนาเกิดกับกุศลจิตหรืออกุศลจิต เวลาที่กำลังเพลิดเพลินในธรรม ซาบซึ้งผ่องใส เบิกบานในกุศลที่กำลังประกอบ กำลังกระทำอยู่ หน้าตาจะปรากฏเป็นลักษณะที่ยิ้มแย้มได้ไหม ในขณะนั้นเป็นมหากุศลซึ่งเกิดร่วมกับโสมนัสเวทนา แล้วแต่ว่าจะเป็นญาณสัมปยุตต์หรือว่าญาณวิปปยุตต์



...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
lokiya
วันที่ 17 ส.ค. 2564

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
lokiya
วันที่ 17 ส.ค. 2564

ขอเรียนถาม อ.khampan ครับ

กรณีที่พระพุทธเจ้าและพระสาวกที่แย้มยิ้มกับเปรตที่ได้เสวยวิบากยังพอเข้าใจได้แต่
ผมยังนึกไม่ออกว่าจะปุถุชนจะหัวเราะด้วยกุศลจิตประกอบด้วยปัญญากุศลกรรมได้อย่างไร จะหัวเราะกับการให้ทานหรือ? การเว้นทุจริตหรือ? หรือหัวเราะกับคนที่แสดงธรรมอันงดงามในเบื้องต้นท่ามกลาง?

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
khampan.a
วันที่ 17 ส.ค. 2564

เรียน ความคิดเห็นที่ ๓ ครับ

แสดงถึงความเป็นจริงของสภาพธรรม ที่เมื่อเกิด ก็เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น ถ้าไม่สะสมปัญญามาเลย จะเป็นเหตุให้ปัญญาเกิดขึ้นได้ไหม? ก็ไม่ได้ แต่เมื่อเห็นประโยชน์ของพระธรรม เห็นประโยชน์ของความเข้าใจถูกเห็นถูก มีการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรม ก็เป็นเหตุให้ปัญญาค่อยๆ เจริญขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ทำอะไร ก็ไม่เป็นเครื่องกั้นให้ปัญญาเกิดขึ้นได้เลย ในขณะที่กุศลเกิด เป็นไปพร้อมกับความรู้สึกโสมนัส ก็สามารถทำให้เกิดกับแย้มยิ้มหรือหัวเราะ ด้วยความดีใจได้ในณะนั้น ไม่ว่าจะเป็นไปในความดีประเภทใดก็ตาม ถ้าไม่เกิด ก็ไม่รู้ แต่เมื่อมีเหตุปัจจัย ให้เกิด ก็ย่อมรู้ได้ ดังเช่นข้อความบางตอนจากคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่กระผมได้ยกขึ้นในตอนแรก ดังนี้

"ในวันหนึ่งๆ ที่ยิ้ม ให้ทราบว่า เพราะโสมนัสเวทนาเกิดกับกุศลจิตหรืออกุศลจิต เวลาที่กำลังเพลิดเพลินในธรรม ซาบซึ้งผ่องใส เบิกบานในกุศลที่กำลังประกอบ กำลังกระทำอยู่ หน้าตาจะปรากฏเป็นลักษณะที่ยิ้มแย้มได้ไหม ในขณะนั้นเป็นมหากุศลซึ่งเกิดร่วมกับโสมนัสเวทนา แล้วแต่ว่าจะเป็นญาณสัมปยุตต์หรือว่าญาณวิปปยุตต์"

...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ