ปุถุชนหัวเราะด้วยมหากุศลจิตญานสัมปยุตต์ได้หรือไม่
.ปุถุชนหัวเราะด้วยมหากุศลจิตญานสัมปยุตต์ได้หรือไม่
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ปุถุชน สามารถหัวเราะ ยิ้มแย้ม ด้วยกุศลจิต ที่ประกอบด้วยปัญญา ได้ เป็นธรรมที่เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุปัจจัย ตามข้อความใน[เล่มที่ 76] พระอภิธรรมปิฎก ธรรมสังคณี เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ ๑๕๘ ดังนี้
จริงอยู่ ปุถุชน ย่อมหัวเราะด้วยจิต ๘ ดวง คือ
กุศลจิตสหรคต (ประกอบ) ด้วยโสมนัส ๔ ดวง
อกุศลสหรคต (ประกอบ) ด้วยโสมนัส ๔ ดวง
ข้อความบางตอนจากคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ มีดังนี้
สำหรับผู้ที่เป็นปุถุชนก็ยิ้มด้วยจิตที่ประกอบด้วยโสมนัสเวทนา ที่เป็นมหากุศลโสมนัส ๔ ดวง ได้แก่ มหากุศลญาณสัมปยุตต์ ๒ ดวง และ มหากุศลญาณวิปปยุตต์ ๒ ดวง และยิ้มด้วยโลภมูลจิตที่เกิดร่วมกับโสมนัสเวทนา ๔ ดวง คือ เกิดร่วมกับทิฏฐิคตสัมปยุตต์ ๒ ดวง ทิฏฐิคตวิปยุตต์ ๒ ดวง
ในวันหนึ่งๆ ที่ยิ้ม ให้ทราบว่า เพราะโสมนัสเวทนาเกิดกับกุศลจิตหรืออกุศลจิต เวลาที่กำลังเพลิดเพลินในธรรม ซาบซึ้งผ่องใส เบิกบานในกุศลที่กำลังประกอบ กำลังกระทำอยู่ หน้าตาจะปรากฏเป็นลักษณะที่ยิ้มแย้มได้ไหม ในขณะนั้นเป็นมหากุศลซึ่งเกิดร่วมกับโสมนัสเวทนา แล้วแต่ว่าจะเป็นญาณสัมปยุตต์หรือว่าญาณวิปปยุตต์
...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...
ขอเรียนถาม อ.khampan ครับ
กรณีที่พระพุทธเจ้าและพระสาวกที่แย้มยิ้มกับเปรตที่ได้เสวยวิบากยังพอเข้าใจได้แต่
ผมยังนึกไม่ออกว่าจะปุถุชนจะหัวเราะด้วยกุศลจิตประกอบด้วยปัญญากุศลกรรมได้อย่างไร จะหัวเราะกับการให้ทานหรือ? การเว้นทุจริตหรือ? หรือหัวเราะกับคนที่แสดงธรรมอันงดงามในเบื้องต้นท่ามกลาง?
เรียน ความคิดเห็นที่ ๓ ครับ
แสดงถึงความเป็นจริงของสภาพธรรม ที่เมื่อเกิด ก็เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น ถ้าไม่สะสมปัญญามาเลย จะเป็นเหตุให้ปัญญาเกิดขึ้นได้ไหม? ก็ไม่ได้ แต่เมื่อเห็นประโยชน์ของพระธรรม เห็นประโยชน์ของความเข้าใจถูกเห็นถูก มีการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรม ก็เป็นเหตุให้ปัญญาค่อยๆ เจริญขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ทำอะไร ก็ไม่เป็นเครื่องกั้นให้ปัญญาเกิดขึ้นได้เลย ในขณะที่กุศลเกิด เป็นไปพร้อมกับความรู้สึกโสมนัส ก็สามารถทำให้เกิดกับแย้มยิ้มหรือหัวเราะ ด้วยความดีใจได้ในณะนั้น ไม่ว่าจะเป็นไปในความดีประเภทใดก็ตาม ถ้าไม่เกิด ก็ไม่รู้ แต่เมื่อมีเหตุปัจจัย ให้เกิด ก็ย่อมรู้ได้ ดังเช่นข้อความบางตอนจากคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่กระผมได้ยกขึ้นในตอนแรก ดังนี้
"ในวันหนึ่งๆ ที่ยิ้ม ให้ทราบว่า เพราะโสมนัสเวทนาเกิดกับกุศลจิตหรืออกุศลจิต เวลาที่กำลังเพลิดเพลินในธรรม ซาบซึ้งผ่องใส เบิกบานในกุศลที่กำลังประกอบ กำลังกระทำอยู่ หน้าตาจะปรากฏเป็นลักษณะที่ยิ้มแย้มได้ไหม ในขณะนั้นเป็นมหากุศลซึ่งเกิดร่วมกับโสมนัสเวทนา แล้วแต่ว่าจะเป็นญาณสัมปยุตต์หรือว่าญาณวิปปยุตต์"
...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...