๑. ปโรสตชาดก คนมีปัญญาคนเดียวดีกว่าคนโง่เขลาตั้งร้อย
[เล่มที่ 56] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เอกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้า 390
๑๑. ปโรสตวรรค
๑. ปโรสตชาดก
คนมีปัญญาคนเดียวดีกว่าคนโง่เขลาตั้งร้อย
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 56]
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เอกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้า 390
๑๑. ปโรสตวรรค
๑. ปโรสตชาดก
คนมีปัญญาคนเดียวดีกว่าคนโง่เขลาตั้งร้อย
[๑๐๑] "คนโง่เขลามาประชุมกันแม้ตั้งร้อยคนขึ้นไป พวกเขาไม่มีปัญญา พึงเพ่งดูอยู่ตั้งร้อยปี ผู้ใดรู้แจ้งเนื้อความแห่งภาษิต ผู้นั้นเป็นบุรุษมีปัญญา คนเดียวเท่านั้นประเสริฐกว่า".
จบ ปโรสตชาดกที่ ๑
อรรถกถาปโรสตวรรคที่ ๑๑
อรรถกถาปโรสตชาดกที่ ๑
ชาดกเรื่องนี้ มีคาถา ความว่า.
"คนโง่เขลามาประชุมกันแม้ตั้งร้อยคนขึ้นไป พวกเขาไม่มีปัญญา พึงเพ่งดูอยู่ตั้งร้อยปี ผู้ใดรู้แจ้งเนื้อความแห่งภาษิต ผู้นั้นเป็นบุรุษมีปัญญา คนเดียวเท่านั้นประเสริฐกว่า" ดังนี้.
เหมือนกันกับปโรสหัสสชาดก โดยเนื้อเรื่อง โดยไวยากรณ์และโดยประชุมชาดก แต่ในชาดกนี้ มีแปลกเพียงบท ฌาเยยฺยุ
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เอกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้า 391
บทเดียวเท่านั้น คาถานั้น มีอรรถาธิบายว่า คนเหล่านั้นไม่มีปัญญา พึงเพ่ง พึงดู พึงใคร่ครวญแม้ตลอดร้อยปี แม้ว่าจะดูอยู่อย่างนี้ ก็ย่อมไม่เห็นเหตุหรือผล เหตุนั้น ผู้ใดรู้เนื้อความแห่งคำที่เรากล่าวไว้ได้ ผู้นั้นคนเดียวเท่านั้นมีปัญญา ประเสริฐกว่า ฉะนี้แล.
จบ อรรถกถาปโรสตชาดกที่ ๑