อยากสอบถามเกี่ยวกับคุณธรรมค่ะ

 
wr_ya
วันที่  18 ส.ค. 2564
หมายเลข  35510
อ่าน  528

อยากทราบว่า คนมีคุณธรรมมีลักษณะอย่างไรบ้างคะ ถ้าหากว่ามีคนที่มีจิตใจเมตตา ชอบช่วยเหลือผู้อื่น แต่จิตใจขุ่นมัว ถือว่าเป็นผู้มีคุณธรรมไหมคะ

ขอบพระคุณค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 18 ส.ค. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

คำว่าคุณธรรม ความดี ในพระพุทธศาสนาและในสัจจะความจริง มีคุณความดี มากมาย ครับ เพราะฉะนั้น เริ่มที่เข้าใจว่า มีคุความดี เพราะมีจิต และมีธรรมที่ปรุงแต่งจิต คือ เจตสิก เจตสิกที่ดี ไม่ใช่เราตัวเราที่ดี แต่เป็นธรรมที่ดีเกิด เช่น ปัญญา ก็ทำให้จิตดี จิตมีความเข้าใจถูก ก็เป็นคุณธรรมอย่างหนึ่ง ขณะที่เมตตาเกิด ก็เป็นจิตดี ขณะที่เจตสิกไม่ดีเกิดกับจิต เช่น โทสเจตสิกเกิด จิตก็ไม่ดี เป็นจิตที่เป็นโทสะ จิตขุ่นมัว ก็ไม่มีคุณธรรมในขณะนั้น เพราะฉะนั้น คุณธรรม ความดี เมื่อพิจารณาจึงเป็นจิตที่เกิดขึ้น ทีละขณะจิต ขณะใด จิตดีเกิด ก็ดีขณะนั้น ขณะใดจิตไม่ดีเกิด ก็ไม่ดีในขณะนั้น แต่ที่สำคัญมีคำว่า ปุถุชน ผู้หนาด้วยกิเลส เพราะฉะนั้น โดยมาก มักมีจิตไม่ดีเกิดขึ้น เพราะมีกิเลสมากนั่นเอง นี่คือเป็นผู้ตรงว่าไม่ดีมาก ครับ

“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ขึ้นชื่อว่ากิเลสทั้งหลาย ย่อมเป็นสภาพหยาบ, ถ้ากิเลสเหล่านี้ มีรูปร่าง อันใครๆ พึงสามารถจะเก็บไว้ในที่บางแห่ง ได้ไซร้ จักรวาลก็แคบเกินไป พรหมโลกก็ต่ำเกินไป, โอกาสของกิเลสเหล่านั้น ไม่พึงมี (ให้บรรจุ) เลย”

(ข้อความตอนหนึ่งจาก...พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท)

ท่านอาจารย์สุจินต์ พูดไว้น่าคิดว่า ดีเท่าไหร่ก็ยังไม่พอ เพราะ ดีของปุถุชน ก็ยังหวั่นไหว เพราะไม่ใช่ความดีที่มีกำลังที่จะถึงการดับกิเลสได้ ดีสูงสุด คือ ผู้ที่ไม่มีกิเลส ดับกิเลสหมดสิ้นแล้ว ครับ และที่น่าพิจารณา คือ ความดี ที่ประเสริฐ และบริสุทธิ์ คือ ดีด้วยปัญญา ที่เกิดจากการศึกษาพระธรรม เพราะปัญญาที่เกิดขึ้น จะค่อยๆ ละกิเลส ที่เป็นการสมมติว่าเป็นคนชั่วไปทีละน้อย จนถึง ดับกิเลสที่สุด ละ ความชั่วได้หมดสิ้น ครับ การศึกษาพระธรรม จึงเป็นการค่อยๆ เป็นคนดี ทีละน้อย ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 18 ส.ค. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขณะที่เมตตา ความเป็นมิตรเป็นเพื่อน เกิดขึ้นเป็นไป ขณะนั้น ธรรมที่เป็นคุณ ธรรมฝ่ายดีเกิดขึ้น เป็นคุณธรรม แต่ถ้าเกิดความขุ่นเคืองใจ ไม่พอใจ นั่น ไม่ใช่เมตตา ไม่ใช่คุณธรรม แต่เป็นธรรมที่เป็นอกุศล แสดงให้เห็นถึงความเป็นจริงของสภาพธรรมที่มีจริงๆ ที่เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น กุศลเป็น กุศล อกุศลเป็นอกุศล โดยไม่ปะปนกัน

พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้ดีแล้วเท่านั้นที่จะเป็นที่พึ่งที่แท้จริง เกื้อกูลให้ผู้ที่ได้ฟังได้ศึกษา เกิดความเข้าใจถูกเห็นถูกเป็นของตนเอง คุณความดีหรือ คุณธรรม ก็จะค่อยๆ เจริญขึ้น ขัดเกลาความไม่ดีที่มีมากเป็นอย่างยิ่ง ตามระดับขั้นของปัญญาที่ค่อยๆ เจริญขึ้น ครับ

...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
เฉลิมพร
วันที่ 18 ส.ค. 2564

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
chatchai.k
วันที่ 18 ส.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ