พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

๗. กลัณฑุกชาดก ว่าด้วยมรรยาทส่อสกุล

 
บ้านธัมมะ
วันที่  20 ส.ค. 2564
หมายเลข  35530
อ่าน  394

[เล่มที่ 56] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เอกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้า 498

๗. กลัณฑุกชาดก

ว่าด้วยมรรยาทส่อสกุล


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 56]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 10 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เอกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้า 498

๗. กลัณฑุกชาดก

ว่าด้วยมรรยาทส่อสกุล

[๑๒๗] "สกุลของเจ้าไม่ใช่สกุลสูง เราผู้เที่ยวอยู่ในป่าก็ยังรู้ได้ นายของเจ้าทราบแน่แล้ว ก็พึงจับเจ้าไป ดูราเจ้ากลัณฑุกะ เจ้าจงดื่มนมเสียเถิด".

จบ กลัณฑุกชาดกที่ ๗

อรรถกถากลัณฑุกชาดกที่ ๗

พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภภิกษุผู้มักโอ้อวดรูปหนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า "เต เทสา ตานิ วตฺถูนิ" ดังนี้.

เรื่องแม้ทั้งสองในชาดกนั้น ก็เช่นเดียวกันกับกฏาหกชาดกนั้นแหละ แต่ในชาดกนี้ ทาสของพาราณสีเศรษฐีผู้นี้มีชื่อว่า กลัณฑุกะ ในเวลาที่เขาหนีไปครอบครองธิดาของปัจจันตเศรษฐีอยู่ด้วยบริวารเป็นอันมาก พาราณสีเศรษฐีแม้จะให้คนเที่ยวสืบหา ก็ไม่รู้ที่ที่เขาไป จึงส่งนกแขกเต้าผู้อยู่กับตนไปว่า ไปเถิด ไปสืบหากลัณฑุกะให้ทีเถิด ลูกนกแขกเต้าเที่ยวไปเรื่อยๆ จนถึงนครนั้น ในกาลนั้น กลัณฑุกะประสงค์จะเล่นน้ำ ให้คนถือเอาดอกไม้ของหอมเครื่องลูบไล้กับขาทนียะและโภชนียะเป็น

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 10 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เอกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้า 499

อันมากไปสู่แม่น้ำ นั่งเรือกับเศรษฐีธิดาเล่นน้ำอยู่ ก็ในประเทศถิ่นฐานนั้น เมื่อเจ้านายใหญ่โตเล่นกีฬาในน้ำจะดื่มนมสดแกล้มด้วยเภสัชที่มีรสเข้ม เพราะเหตุนั้น เมื่อพวกนั้นเล่นน้ำตลอดวัน ความหนาวก็ไม่เบียดเบียนได้ แต่กลัณฑุกะนี้ ถือถ้วยนมสดบ้วนปาก แล้วถ่มนมสดนั้นทิ้งเสีย แม้เมื่อจะถ่มทิ้ง ก็ไม่ถ่มลงในน้ำ ถ่มลงบนหัวของเศรษฐีธิดาอีกด้วย ฝ่ายลูกนกแขกเต้า บินถึงฝั่งแม่น้ำ ก็เกาะอยู่ที่กิ่งมะเดื่อกิ่งหนึ่ง ค้นดู ก็จำกลัณฑุกะได้ เห็นกำลังถ่มรดศีรษะธิดาเศรษฐีอยู่ ก็กล่าวว่า แนะเจ้าทาส กลัณฑุกะชาติชั่ว จงสำนึกถึงชาติกำเนิด แลพื้นเพของตนบ้างเถิด อย่าเอานมสดมาล้างปากแล้วถ่มรดศีรษะเศรษฐีธิดา ผู้สมบูรณ์ด้วยชาติ จำเริญด้วยความสุขเลย ช่างไม่รู้ประมาณตนเลยนะ แล้วกล่าวคาถานี้ ความว่า.

"สกุลของเจ้าไม่ใช่สกุลสูง เราผู้เที่ยวอยู่ในป่าก็ยังรู้ได้ นายของเจ้าทราบแน่แล้ว ก็พึงจับเจ้าไป ดูราเจ้ากลัณฑุกะ เจ้าจงดื่มน้ำนมเสียเถิด" ดังนี้.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ประเทศเหล่านั้น พื้นที่เหล่านั้น ดังนี้ ลูกนกแขกเต้ากล่าวหมายถึงท้องแห่งมารดา ในข้อนี้มี อธิบายดังนี้ว่า เจ้าอยู่ประดิษฐานอยู่แล้วในประเทศเหล่าใด ประเทศเหล่านั้นมิใช่เป็นท้องของอิสรชน มีธิดากษัตริย์เป็นต้นดอก ที่แท้เจ้าอยู่แล้ว เจริญเติบโตแล้วในท้องนางทาสีต่างหาก.

 
  ข้อความที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 10 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เอกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้า 500

ด้วยบทว่า อหญฺจ วนโคจโร นี้ นกแขกเต้าแสดงความว่า ถึงเราจะเป็นสัตว์ดิรัจฉาน ก็ยังรู้ความนี้เลย.

บทว่า อนุวิจฺจ โข ตํ คณฺเหยฺยุํ ความว่า เมื่อเราไปบอกกล่าวถึงการประพฤติมารยาทอันเลวทรามอย่างนี้แล้ว พวกเจ้านายของเจ้าพิจารณาดูรู้แล้ว พึงจับเจ้าไป คือเกาะกุมตัวเจ้าไปเฆี่ยน และทำการตีตราเครื่องหมายทาสเป็นแน่ เพราะเหตุนั้น เจ้าจงประมาณตัว ดื่มนมสดไม่ถ่มรดศีรษะของธิดาท่านเศรษฐี นกแขกเต้าเรียกเขาโดยชื่อว่า กลัณฑุกะ.

ฝ่ายกลัณฑุกะเล่าก็จำลูกนกแขกเต้าได้ ด้วยความกลัวว่า มันพึงเผยเรื่องของเรา จึงเชิญว่า มาเถิดนาย ท่านมาเมื่อไรเล่า แม้นกแขกเต้าเล่าก็รู้ว่า เจ้านี่ไม่ได้เรียกเราด้วยความปรารถนาดี แต่มีความประสงค์จะบิดคอเราให้ตาย จึงกล่าวว่า เราไม่มีธุระกับเจ้า ดังนี้แล้ว โดดจากที่นั้นไปสู่พระนครพาราณสี เล่าเรื่องราวตามที่ตนเห็นมาให้ท่านเศรษฐีฟังโดยพิสดาร ท่านเศรษฐีคิดว่า มันทำไม่สมควรเลย จึงลงอาชญาแก่เขา นำตนมาสู่พระนครพาราณสีตามเดิม แล้วใช้สอยอย่างทาสสืบไป.

พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประชุมชาดกว่า กลัณฑุกะในครั้งนั้น ได้มาเป็นภิกษุนี้ ส่วนพาราณสีเศรษฐี ได้มาเป็นเราตถาคต ฉะนี้แล.

จบ อรรถกถากลัณฑุกะชาดกที่ ๗