๔. ฌานโสธนชาดก ว่าด้วยสุขเกิดจากสมาบัติ
[เล่มที่ 56] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เอกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้า 531
๔. ฌานโสธนชาดก
ว่าด้วยสุขเกิดจากสมาบัติ
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 56]
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เอกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้า 531
๔. ฌานโสธนชาดก
ว่าด้วยสุขเกิดจากสมาบัติ
[๑๓๔] "สัตว์เหล่าใดเป็นผู้มีสัญญา แม้สัตว์เหล่านั้นก็ชื่อว่า เป็นทุคตะ สัตว์เหล่าใดเป็นผู้ไม่มีสัญญา ถึงสัตว์เหล่านั้นก็ชื่อว่า เป็นทุคตะ ท่านจงละเว้นความเป็นสัญญีสัตว์และอสัญญีสัตว์ทั้งสองนี้เสีย สุขอันเกิดจากสมาบัตินั้น เป็นสุขที่ไม่มีกิเลสเครื่องยียวน".
จบ ฌานโสธนชาดกที่ ๔
อรรถกถาฌานโสธนชาดกที่ ๔
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภการที่พระธรรมเสนาบดีพยากรณ์ปัญหาที่พระองค์ตรัสถามโดยย่อได้อย่างพิสดาร ณ ประตูสังกัสนคร ตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า "เย สญฺญิโน" ดังนี้.
ต่อไปนี้เป็นเรื่องอดีต ในการพยากรณ์ปัญหานั้น.
ได้ยินว่า ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในพระนครพาราณสี พระโพธิสัตว์กำลังจะมรณภาพที่ชายป่า ถูกพวกอันเตวาสิกถาม ก็กล่าวว่า เนวสัญญีนาสัญญี
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เอกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้า 532
มีสัญญาก็ไม่ใช่ ไม่มีสัญญาก็ไม่ใช่ ฯลฯ (เหมือนกับเรื่องในปโรสหัสสชาดก) พวกดาบสไม่ยอมเชื่อถ้อยคำของอันเตวาสิกผู้ใหญ่ พระโพธิสัตว์จึงมาแต่พรหมชั้นอาภัสสระ ยืนอยู่ในอากาศ กล่าวคาถานี้ ความว่า.
"สัตว์เหล่าใดเป็นผู้มีสัญญา แม้สัตว์เหล่านั้นก็ชื่อว่า เป็นทุคตะ สัตว์เหล่าใดเป็นผู้ไม่มีสัญญา ถึงสัตว์เหล่านั้นก็ชื่อว่า เป็นทุคตะ ท่านจงละเว้นความเป็นสัญญีสัตว์และอสัญญีสัตว์ทั้งสองนี้เสีย สุขอันเกิดจากสมาบัตินั้น เป็นสุขที่ไม่มีกิเลสเครื่องยียวน" ดังนี้.
ในบรรดาบทเหล่านั้น ด้วยบทว่า เย สญฺิโน นี้ ท่านแสดงถึงหมู่สัตว์ที่มีจิตที่เหลือ เว้นท่านผู้ได้เนวสัญญานาสัญญายตนฌาน.
บทว่า เตปิ ทุคฺคตา ความว่า เพราะไม่ได้สมาบัตินั้น แม้ชนเหล่านั้นจึงยังเป็นผู้ชื่อว่า ทุคตะ.
ด้วยบทว่า เยปิ อสญฺิโน นี้ ท่านแสดงถึงอจิตตกสัตว์ผู้เกิดในอสัญญีภพ.
บทว่า เตปิ ทุคฺคตา ความว่า ถึงแม้สัตว์เหล่านั้น ก็ยังคงเป็นทุคตะอยู่เหมือนกัน เพราะยังไม่ได้สมาบัตินี้นั้นแหละ.
บทว่า เอตํ อุภยํ วิวชฺชย ความว่า พระโพธิสัตว์ให้โอวาทแก่อันเตวาสิกต่อไปว่า เธอจงเว้นเสีย ละเสีย แม้ทั้งสองอย่างนั้น
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เอกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้า 533
คือสัญญีภาวะและอสัญญีภาวะ.
บทว่า ตํ สมาปตฺติสุขํ อนงฺคณํ ความว่า ความสุขในฌานนั้น คือที่ถึงการนับว่าเป็นสุข โดยเป็นธรรมชาติสงบระงับของท่านผู้ได้เนวสัญญานาสัญญายตนสมาบัติ เป็นอนังคณะ คือปราศจากโทษ แม้เพราะความที่แห่งจิตมีอารมณ์แน่วแน่ มีกำลังเป็นสภาพ ความสุขนั้น ก็ชื่อว่า เป็นของไม่มีกิเลสเครื่องยียวน.
พระโพธิสัตว์แสดงธรรมสรรเลริญคุณของอันเตวาสิกด้วยประการฉะนี้แล้ว ก็ได้กลับคืนไปยังพรหมโลก คราวนั้นดาบสที่เหลือต่างพากันเชื่อฟังอันเตวาสิกผู้ใหญ่.
พระศาลดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ตรัสประชุมชาดกว่า อันเตวาสิกผู้ใหญ่ในครั้งนั้น ได้มาเป็นพระสารีบุตร ส่วนท้าวมหาพรหม (๑) ได้มาเป็นเราตถาคต ฉะนี้แล.
จบ อรรถกถาฌานโสธนชาดกที่ ๔
(๑) หมายเอาพรหมผู้เป็นใหญ่ในอาภัสรภูมิ ไม่ใช่ท้าวมหาพรหมในปฐมฌานภูมิ.