พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

๑. อินทสมานโคตตชาดก ว่าด้วยการสมาคมกับสัตบุรุษ

 
บ้านธัมมะ
วันที่  21 ส.ค. 2564
หมายเลข  35575
อ่าน  467

[เล่มที่ 57] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 76

๒. สันถววรรค

๑. อินทสมานโคตตชาดก

ว่าด้วยการสมาคมกับสัตบุรุษ


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 57]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 10 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 76

๒. สันถววรรค

๑. อินทสมานโคตตชาดก

ว่าด้วยการสมาคมกับสัตบุรุษ

[๑๗๑] บุคคลไม่พึงทำความสนิทสนมกับบุรุษชั่วช้า ท่านผู้เป็นอริยะรู้ประโยชน์อยู่ ไม่พึงทำความสนิทสนมกับอนารยชน เพราะอนารยชนนั้น แม้อยู่ร่วมกันเป็นเวลานาน ก็ย่อมทำบาปกรรมดุจช้างผู้ทําลายล้างดาบสชื่ออินทสมานโคตรฉะนั้.

[๑๗๒] บุคคลพึงรู้บุคคลใดว่า ผู้นี้เช่นเดียวกับเรา โดยศีล ปัญญา และสุตะ พึงทำไมตรีกับบุคคลนั้นนั่นแล เพราะการสมาคมกับสัตบุรุษนํามาซึ่งความสุขแท้.

จบ อินทสมานโคตตชาดกที่ ๑

อรรถกถาสันถววรรคที่ ๒

อรรถกถาอินทสมานโคตตชาดกที่ ๑

พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวันทรงปรารภภิกษุว่ายากรูปหนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนานี้มีคำเริ่มต้นว่า

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 10 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 77

น สนฺถวํ กาปุริเสน กยิรา ดังนี้.

เรื่องภิกษุว่ายากนั้น จักมีแจ้งในคิชฌชาดกนวกนิบาต.

พระศาสดาตรัสกะภิกษุนั้นว่า ดูก่อนภิกษุแม้เมื่อก่อนเธอก็ไม่เชื่อฟังคำของบัณฑิตทั้งหลาย เพราะเธอเป็นผู้ว่ายาก จึงเหลวแหลกเพราะเท้าช้างตกมัน แล้วทรงนำเรื่องในอดีตมาตรัสเล่า

ในอดีตกาลครั้งเมื่อพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในกรุงพาราณสี พระโพธิสัตว์เกิดในตระกูลพราหมณ์ ครั้นเจริญวัยละฆราวาส ออกบวชเป็นฤาษี เป็นครูของเหล่าฤาษี ๕๐๐ อาศัยอยู่ในหิมวันตประเทศ. ในครั้งนั้นบรรดาดาบสเหล่านั้น ได้มีดาบสชื่ออินทสมานโคตร เป็นผู้ว่ายากไม่เชื่อฟัง. ดาบสนั้นเลี้ยงลูกช้างไว้เชือกหนึ่ง. พระโพธิสัตว์ได้ทราบข่าว จึงเรียกดาบสนั้นมาถามว่า เขาว่าเธอเลี้ยงลูกช้างไว้จริงหรือ. ดาบสตอบว่าจริงขอรับอาจารย์ ข้าพเจ้าเลี้ยงลูกช้างไว้เชือกหนึ่งแม่มันตาย. พระโพธิสัตว์พูดเตือนว่า ขึ้นชื่อว่าช้าง เมื่อเติบโตมักฆ่าคนเลี้ยง. เธออย่าเลี้ยงลูกช้างนั้นเลย. ดาบสกล่าวว่า ท่านอาจารย์ ข้าพเจ้าไม่อาจทิ้งมันได้. พระโพธิสัตว์กล่าวว่า ถ้าเช่นนั้นเธอจักได้รู้เอง. ดาบสเลี้ยงดูช้างนั้น ต่อมามันมีร่างกายใหญ่โต. คราวหนึ่งพวกฤาษีพากันไปในที่ไกลเพื่อหารากไม้ และผลาผลในป่า แล้วพักอยู่ ณ ที่นั้น ๒ - ๓ วัน.

 
  ข้อความที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 10 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 78

ช้างก็ตกมันรื้อบรรณศาลาเสียกระจุยกระจาย ทำลายหม้อน้ำดื่ม โยนแผ่นหินทิ้ง ถอนแผ่นกระดานแขวนทิ้ง แล้วเข้าไปยังที่ซ่อนแห่งหนึ่งยืนคอยมองดูทางมาของดาบส ด้วยหวังว่า จักฆ่าดาบสนั้นแล้วไป. ดาบสอินทสมานโคตรหาอาหารไว้ให้ช้าง เดินมาก่อนดาบสทั้งหมด ครั้นเห็นช้างนั้น จึงเข้าไปหามันตามความรู้สึกที่เป็นปกติ. ครั้นแล้วช้างนั้นออกจากที่ซ่อนเอางวงจับฟาดลงกับพื้น เอาเท้าเหยียบศีรษะขยี้ให้ถึงความตาย แล้วแผดเสียงดังเข้าป่าไป. พวกดาบสที่เหลือจึงแจ้งข่าวนั้นให้พระโพธิสัตว์ทราบ. พระโพธิสัตว์กล่าวว่า ไม่ควรทำความคลุกคลีกับคนชั่ว แล้วกล่าวคาถานี้ว่า :-

บุคคลไม่พึงทำความสนิทสนมกับคนชั่ว ท่านผู้เป็นอริยะ รู้ประโยชน์อยู่ไม่พึงทำความสนิทสนมกับอนารยชน เพราะอนารยชนนั้น แม้อยู่ร่วมกันเป็นเวลานาน ก็ย่อมทำความชั่วดุจช้างผู้ทำลายดาบสอินทสมานโคตรฉะนั้น

บุคคลพึงรู้บุคคลใดว่า ผู้นี้เช่นเดียวกับเรา ด้วยศีล ด้วยปัญญา และแม้ด้วยสุตะ พึงทำไมตรีกับบุคคลผู้นั้นนั่นแหละ เพราะการสมาคมกับสัตบุรุษนำมาซึ่งความสุขแท้.

ในบทเหล่านั้น บทว่า น สนฺถวํ กาปุริเสน กยิรา ความว่า บุคคลไม่พึงทำความสนิทสนมด้วยอำนาจตัณหา หรือความสนิท

 
  ข้อความที่ 4  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 10 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 79

สนมด้วยความเป็นมิตร กับคนมักโกรธที่น่าชัง. บทว่า อริโย ในบทว่า อริโยนริเยน ปชานมตฺถํ ได้แก่ อริยะ ๔ จำพวก คือ อาจารอริยะ ได้แก่อริยะในทางมารยาท ๑ ลิงคอริยะ อริยะใน ทางเพศ ๑ ทัสสนอริยะ อริยะในทางความเห็น ๑ ปฏิเวธอริยะ อริยะในทางรู้แจ้งแทงตลอด ๑. บรรดาอริยะเหล่านั้น อาจารอริยะท่านประสงค์เอาในที่นี้. อธิบายว่า บุคคลผู้เป็นอริยะรู้จักประโยชน์ คือรู้จักผล ฉลาดในประโยชน์และมิใช่ประโยชน์ ดำรงอยู่ในอาจาระ ไม่พึงทำความสนิทสนมด้วยอำนาจตัณหาหรือความสนิทสนมด้วยความเป็นมิตร กับคนที่มิใช่อริยะ คือคนทุศีลไม่มียางอาย. ถามว่า เพราะเหตุไร. ตอบว่า เพราะคนที่มิใช่อริยะนั้น แม้อยู่ร่วมกันนาน ก็มิได้คำนึงถึงการอยู่ร่วมกันนั้น ย่อมกระทำความชั่ว คือกระทำกรรมอันลามกเท่านั้น. ถามว่า เหมือนอะไร. ตอบว่า เหมือนช้างฆ่าอินทสมานโคตรดาบสใดกระทำความชั่ว. ในบทเป็นต้นว่า ยเทว ปญฺา สทิโส มมํ ความว่า พึงรู้จักบุคคลใดว่า ผู้นี้เหมือนเราโดยศีลเป็นต้น พึงกระทำไมตรีกับบุคคลนั้นเท่านั้น การสมาคมกับด้วยสัตบุรุษย่อมนำความสุขมาให้.

พระโพธิสัตว์สอนหมู่ฤาษีว่า ธรรมดาคนเราไม่ควรเป็น ผู้สอนยาก ควรศึกษาให้ดีแล้วให้จัดการเผาศพอินทสมานโคตรดาบส เจริญพรหมวิหาร ได้เข้าถึงพรหมโลก.

 
  ข้อความที่ 5  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 10 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 80

พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้วทรงประชุมชาดก. อินทสมานโคตรในครั้งนั้น ได้เป็นภิกษุสอนยากนี้ในครั้งนี้. ส่วนครูประจำคณะได้เป็นเราตถาคตนี้แล.

จบ อรรถกถาอินทสมานโคตรชาดกที่ ๑