๓. วาโลทกชาดก ว่าด้วยน้ําหาง
[เล่มที่ 57] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 187
๓. วาโลทกชาดก
ว่าด้วยน้ำหาง
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 57]
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 187
๓. วาโลทกชาดก
ว่าด้วยน้ำหาง
[๒๑๕] (พระราชาตรัสถามว่า) ความเมาย่อมเกิดแก่ลาทั้งหลาย เพราะดื่มกินน้ำหางมีรสน้อยเป็นน้ำเลว แต่ความเมาย่อมไม่เกิดแก่ม้าสินธพ เพราะดื่มกินน้ำมีรสอร่อยประณีต.
[๒๑๖] ปกติ (พระโพธิสัตว์กราบทูลว่า) ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นจอมชนสัตว์ ผู้มีชาติอันเลวทรามดื่มกินน้ำมีรสน้อย อันรสนั้นถูกต้องแล้วย่อมเมา ส่วนสัตว์ผู้มีทำธุระให้สำเร็จได้ เกิดในตระกูลสูง ดื่มกินรสอันเลิศแล้ว ก็ไม่เมา.
จบ วาโลทกชาดกที่ ๓
อรรถกถาโลทกชาดกที่ ๓
พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหารทรงปรารภคนกินเดน ๕๐๐ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า วาโลทกํ อปฺปรสํ นิหีนํ ดังนี้.
ได้ยินว่าในกรุงสาวัตถีมีอุบาสก ๕๐๐ มอบความห่วงใย ในเรือนให้บุตรภรรยา แล้วเดินทางร่วมกันไปฟังพระธรรมเทศนา
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 188
ของพระศาสดา. ในอุบาสกเหล่านั้น บางพวกได้เป็นโสดาบัน บางพวกได้เป็นสกทาคามี บางพวกได้เป็นอนาคามี ไม่มีเป็นปุถุชนแม้แต่คนเดียว. ประชาชนแม้เมื่อนิมนต์พระศาสดาก็เชิญอุบาสกเหล่านั้นร่วมด้วย. แต่คนรับใช้ ๕๐๐ ทำหน้าที่ให้ไม้สีฟัน น้ำล้างหน้า ผ้า ของหอม และดอกไม้ของพวกเขา เป็นคนกินเดนอาศัยอยู่. คนรับใช้เหล่านั้นบริโภคอาหารเช้าแล้วก็พากันเข้านอน ครั้นตื่นขึ้นพากันไปยังแม่น้ำอจิรวดี โห่ร้องปล้ำกันที่ฝั่งแม่น้ำ. อุบาสก ๕๐๐ เหล่านั้น มีเสียงน้อย มี เอิกเกริกน้อย ขวนขวายแต่ที่หลีกเร้น. พระศาสดาทรงสดับเสียงอื้ออึงของพวกกินเดนเหล่านั้น จึงตรัสถามพระเถระว่า ดูก่อนอานนท์ นั่นเสียงอะไร กราบทูลว่า เสียงคนกินเดนพระพุทธเจ้าข้า ตรัสว่า ดูก่อนอานนท์ คนกินเดนเหล่านี้บริโภคอาหารเดนแล้วพากันเกรียวกราวมิใช่ในบัดนี้เท่านั้น แม้แต่ก่อน คนพวกนี้ก็เกรียวกราวเหมือนกัน แม้อุบาสกเหล่านี้ พากันสงบก็มิใช่ในบัดนี้เท่านั้น แม้เมื่อก่อนก็พากันสงบเหมือนกัน เมื่อพระเถระกราบทูลอาราธนา จึงทรงนำเรื่องอดีตมาตรัสเล่า.
ในอดีตกาลครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในกรุงพาราณสี พระโพธิสัตว์บังเกิดในตระกูลอำมาตย์ ครั้นเจริญวัยแล้วก็ได้เป็นผู้ถวายอรรถและธรรมของพระราชา. ครั้นคราวหนึ่ง พระราชานั้นทรงสดับว่า ทางชายแดนเกิดจลาจล จึงรับสั่งให้เตรียมม้าสินธพ ๕๐๐ เสด็จพร้อมด้วย
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 189
จตุรงคินีเสนา ครั้นปราบชายแดนให้สงบราบคาบแล้ว ก็เสด็จกลับกรุงพาราณสี มีพระราชโองการว่า ม้าสินธพลำบากมาก พวกท่านจงให้น้ำผลจันทน์สดแก่ม้าเหล่านั้น. ม้าเหล่านั้นครั้นดื่มน้ำจันทน์หอมแล้วก็กลับโรงม้า พักผ่อนในที่ของตนๆ. ก็กากผลจันทน์ที่เหลือจากคั้นให้ม้าเหล่านั้น มีน้ำจันทน์ติดอยู่เล็กน้อย. พวกมนุษย์จึงทูลถามพระราชาว่า บัดนี้พวกข้าพระองค์จะทำอย่างไร. พระราชารับสั่งว่า เจ้าจงขยำเข้ากับน้ำ แล้วกรองด้วยผ้าเปลือกปอ พวกเธอจงให้แก่ลาที่นำอาหารมาให้ม้าสินธพ. ลาทั้งหลายครั้นดื่มน้ำกากแล้วก็มึนเมา เที่ยววิ่งร้องอยู่แถวพระลานหลวง. พระราชาทรงเผยช่องพระแกล ทอด พระเนตรไป ณ พระลานหลวง ตรัสเรียกพระโพธิสัตว์ ซึ่งเฝ้าอยู่ใกล้ๆ เมื่อจะตรัสถามว่า จงดูเถิด ลาเหล่านี้ดื่มน้ำกากเข้าไปมึนเมาแล้ว พากันร้องโดดโลดเต้นไปมา ส่วนม้าสินธพซึ่งเกิดในตระกูลสินธพ แม้ดื่มน้ำจันทน์หอมก็ไม่มีเสียง สงบเงียบ ไม่เอะอะ อะไรเป็นเหตุหนอ จึงตรัสคาถาแรกว่า :-
ความเมาย่อมเกิดแก่ลาทั้งหลาย เพราะดื่มกินน้ำหางมีรสน้อย เป็นน้ำเลว แต่ความเมาย่อมไม่เกิดแก่ม้าสินธพ เพราะดื่มกินน้ำมีรสอร่อยประณีต.
ในบทเหล่านั้น บทว่า วาโลทกํ ได้แก่ น้ำที่กรองด้วยเส้นปอ. ปาฐะว่า วาลุทกํ บ้าง. บทว่า นิหีนํ คือ เลวตามสภาพ
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 190
ของน้ำมีรสเลว. บทว่า น สญฺชายติ ได้แก่ ความเมาย่อมไม่เกิดแก่ม้าสินธพทั้งหลาย. พระราชาตรัสถามพระโพธิสัตว์ว่า อะไรเป็นเหตุหนอ. พระโพธิสัตว์เมื่อจะกราบทูลเหตุแด่พระราชา จึงกล่าวคาถาที่ ๒ ว่า :-
ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นจอมชน สัตว์ผู้มีชาติอันเลวทราม ดื่มกินน้ำมีรสน้อย อันรสนั้นถูกต้องแล้วย่อมเมา ส่วนสัตว์ผู้มีธุระให้สำเร็จได้เกิดในตระกูลสูง ดื่มกินรสอันเลิศแล้ว ก็ไม่เมา.
ในบทเหล่านั้น บทว่า เตน ชนินฺท ผุฏฺโ ความว่า ข้าแต่ท่านผู้เป็นจอมชน คือ ข้าแต่กษัตริย์ผู้สูงศักดิ์ ลานั้นมีเลวเป็นสภาพ เมื่อถูกความมีชาติเลวถูกต้องย่อมเมา. บทว่า โธรยฺหสีลี ได้แก่มีธุระให้สำเร็จ คือ ชาติม้าสินธพ ถึงพร้อมด้วยมารยาทมักนำธุระไป. บทว่า อคฺครสํ ความว่า ม้าสินธพแม้ดื่มรสน้ำผลจันทน์ที่กลั่นกรองไว้แต่แรก ก็ไม่เมา.
พระราชาทรงสดับคำของพระโพธิสัตว์แล้ว รับสั่งให้ไล่ลาออกจากพระลานหลวง ทรงตั้งอยู่ในโอวาทของพระโพธิสัตว์ ทรงกระทำบุญมีทานเป็นต้น แล้วเสด็จไปตามยถากรรม.
พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประชุมชาดก. ลา ๕๐๐ ในครั้งนั้น ได้เป็นคนกินเดนในครั้งนี้ ม้าสินธพ