พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

๑๐. สีลานิสังสชาดก ว่าด้วยอานิสงส์ศีล

 
บ้านธัมมะ
วันที่  21 ส.ค. 2564
หมายเลข  35604
อ่าน  488

[เล่มที่ 57] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 219

๑๐. สีลานิสังสชาดก

ว่าด้วยอานิสงส์ศีล


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 57]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 10 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 219

๑๐. สีลานิสังสชาดก

ว่าด้วยอานิสงส์ศีล

[๒๒๙] จงดูผลของศรัทธา ศีล และจาคะ นี้เถิด พระยานาคนิรมิตเพศเป็นเรือ พาอุบาสกผู้มีศรัทธาไป.

[๒๓๐] บุคคลพึงสมาคมกับสัตบุรุษทั้งหลายเถิด พึงทำความสนิทสนมกับสัตบุรุษทั้งหลายเถิด ด้วยว่าช่างกัลบกถึงความสวัสดีได้ ก็เพราะการอยู่ร่วมกับสัตบุรุษทั้งหลาย.

จบ สีลานิสังสชาดกที่ ๑๐

อรรถกถาสีลานิสังสชาดกที่ ๑๐

พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภอุบาสกผู้มีศรัทธาคนหนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า นสฺส สทฺธาย สีลสฺส ดังนี้.

ได้ยินว่า อุบาสกนั้นเป็นอริยสาวกผู้มีศรัทธาเลื่อมใส วันหนึ่งเดินไปยังพระวิหารเชตวัน ถึงฝั่งแม่น้ำอจิรวดีในตอนเย็น เมื่อคนเรือจอดเรือไว้ที่ฝั่งไปฟังธรรม ไม่พายเรือที่ท่าน้ำ จึงยึดปีติมีพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ให้มั่นลงสู่แม่น้ำ. เท้าของเขา

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 10 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 220

หาจมน้ำไม่. เขาเห็นคลื่นเวลาเดินไปกลางน้ำ คล้ายกับเดินเหนือพื้นดิน. ครั้นปีติมีพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ของเขาอ่อนลง. เท้าของเขาก็เริ่มจะจม. เขาจึงประคองปีติมีพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ให้มั่น เดินไปหลังน้ำ ถึงพระเชตวัน ถวายบังคมพระศาสดา นั่ง ณ ส่วนหนึ่ง พระศาสดาทรงทำปฏิสันถารกับเขา ตรัสถามว่า ดูก่อนอุบาสก ท่านเดินทางมาถึงโดยเหน็ดเหนื่อยน้อยกระมัง เมื่อเขากราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ข้าพระองค์ยึดเอาปีติมีพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ จึงได้ที่พึ่งเหนือหลังน้ำคล้ายกับเหยียบแผ่นดินมา จึงรับสั่งว่าอุบาสก มิใช่ท่านเท่านั้นที่ระลึกถึงพระพุทธคุณแล้วได้ที่พึ่ง แม้แต่ก่อนอุบาสกทั้งหลายก็ระลึกถึงพระพุทธคุณได้ที่พึ่ง เมื่อเรืออับปางกลางสมุทร เมื่อเขาทูลอาราธนาจึงทรงนำเรื่องอดีตมาตรัสเล่า.

ในอดีตกาล ครั้งศาสนาพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอริยสาวกผู้เป็นโสดาบันโดยสารเรือไปกับกุฎุมพีช่างกัลบกคนหนึ่ง. ภรรยาของช่างกัลบกนั้นมอบหมายช่างกัลบกแก่เขา ว่า นาย สุขทุกข์ของสามีของดิฉัน ขอมอบให้เป็นภาระของท่าน ครั้นถึงวันที่เจ็ด เรือของกุฎุมพีช่างกัลบกอับปางลงในกลางสมุทร ชนทั้งสองเกาะแผ่นกระดานแผ่นหนึ่ง ลอยมาถึงเกาะแห่งหนึ่ง. ช่างกัลบกนั้นจึงฆ่านกปิ้งกินแล้วให้อุบาสก. อุบาสกไม่ยอมบริโภค โดยกล่าวว่า อย่าเลยสำหรับเรา. อุบาสกคิดว่า ในที่นี้นอกจากพระรัตนตรัยแล้ว ไม่มีที่พึ่งอื่นสำหรับเรา. เขาจึง

 
  ข้อความที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 10 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 221

ระลึกคุณของพระรัตนตรัย. ลำดับนั้น เมื่อเขากำลังระลึกถึงพญานาคซึ่งเกิดในเกาะนั้น จึงเนรมิตร่างของตนเป็นเรือลำใหญ่ มีเทวดาประจำสมุทรเป็นมาณพต้นหนเรือ. เรือเต็มไปด้วยรัตนะเจ็ดประการ. เสากระโดงทั้งสาม สำเร็จด้วยแก้วมณีสีอินทนิล ใบเรือสำเร็จด้วยทอง เชือกสำเร็จด้วยเงิน คันใบสำเร็จด้วยทอง. เทวดาประจำสมุทรยืนอยู่บนเรือประกาศว่า ผู้จะไปชมพูทวีปมีไหม. อุบาสกตอบว่า เราจะไป. ถ้าเช่นนั้นจงมาขึ้นเรือเถิด. อุบาสกขึ้นเรือแล้วเรียกช่างกัลบกขึ้นด้วย. เทวดาประจำสมุทรกล่าวว่า ได้แต่ท่านเท่านั้น คนนั้นไม่ได้. อุบาสกถามว่า เพราะเหตุไรเล่า. เทวดาประจำสมุทรตอบว่า เขาไม่มีคุณ คือศีลและอาจาระ เหตุเป็นดังนั้น ข้าพเจ้านำเรือมา เพื่อท่าน มิใช่ผู้นี้. เอาละเราให้ส่วนแก่คนนี้ด้วยทานที่ตนให้ ด้วยศีลที่ตนรักษา ด้วยภาวนาที่ตนอบรม. ช่างกัลบกตอบว่า ข้าพเจ้าขออนุโมทนา. เทวดากล่าวว่า ข้าพเจ้าจักพาไปเดี๋ยวนี้ แล้วอุ้มเขาพาไปทั้งสองคน ออกจากสมุทรไปถึงกรุงพาราณสีทางแม่น้ำ บันดาลให้ทรัพย์อยู่ในเรือนของเขาทั้งสอง ด้วยอานุภาพของตน เมื่อจะกล่าวถึงคุณของการสังสรรค์กับบัณฑิตว่า ควรทำความสังสรรค์กับบัณฑิตทั้งหลาย หากว่าช่างกัลบก คนนี้ไม่ได้สังสรรค์กับอุบาสกนี้ จักพินาศในท่ามกลางสมุทรนั้นเอง จึงกล่าวคาถาเหล่านี้ว่า :-

 
  ข้อความที่ 4  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 10 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 222

จงดูผลของศรัทธา ศีล จาคะ นี้เถิด พญานาคเนรมิตเพศเป็นเรือ พาอุบาสกผู้มีศรัทธาไป.

บุคคลพึงสมาคมกับสัตบุรุษเถิด พึงทำความสนิทสนมกับสัตบุรุษเถิด ด้วยช่างกัลบกถึงความสวัสดีได้ก็เพราะการอยู่ร่วมกับสัตบุรุษทั้งหลาย.

ในบทเหล่านั้นบทว่า ปสฺส ได้แก่ เรียกว่า จงดูเถิด ไม่กำหนดใครๆ. บทว่า สทธาย คือด้วยโลกิยศรัทธา และ โลกุตตรศรัทธา. แม้ในศีลก็มีนัยนี้เหมือนกัน. บทว่า จาคสฺส ได้แก่ บริจาคไทยธรรมและบริจาคกิเลส. บทว่า อยํ ผลํ ได้แก่ นี้เป็นผล คือเป็นคุณ เป็นอานิสงส์. อีกอย่างหนึ่งพึงเห็นความ อธิบายในบทนี้อย่างนี้ว่า จงดูผลของการบริจาคเถิด พญานาคนี้แปลงเพศเป็นเรือ. บทว่า นาวาย วณฺเณน คือด้วยสัณฐานเรือ. บทว่า สทฺธํ คือ มีศรัทธาตั้งอยู่ในพระรัตนตรัย. บทว่า สพฺภิเรว คือ พวกบัณฑิตนั่นเอง. บทว่า สมาเสถ ได้แก่ พึงกระทำ บทว่า สนฺถวํ ได้แก่ สนิทสนมฐานมิตร. แต่ไม่ควรทำความสนิทสนมด้วยตัณหากับใครๆ. บทว่า นหาปิโต ได้แก่ กุฎุมพี ช่างกัลบก. บาลีว่า นฺหาปิโต ก็มี.

เทวดาประจำสมุทรยืนอยู่บนอากาศ แสดงธรรมกล่าวสอนอย่างนี้แล้ว จึงพาพญานาคกลับไปวิมานของตน.

 
  ข้อความที่ 5  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 10 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 223

พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประกาศสัจธรรม แล้วทรงประชุมชาดก. ในเวลาจบสัจธรรมอุบาสกตั้งอยู่ในสกทาคามิผล. อุบาสกโสดาบันในกาลนั้น ครั้นเจริญมรรคให้ยิ่งๆ ขึ้นไปก็นิพพาน. พญานาคได้เป็นสารีบุตร ส่วนเทวดาประจำสมุทร คือเราตถาคตนี้แล.

จบ อรรถกถาสีลานิสังสชาดกที่ ๑๐

รวมชาดกที่มีในวรรคนี้ คือ

๑. อสทิสชาดก ๒. สังคามาวจรชาดก ๓. วาโลทกชาดก ๔. คิริทัตตชาดก ๕. อนภิรติชาดก ๖. ทธิวาหนชาดก ๗. จตุมัฎฐชาดก ๘. สีหโกฏฐุกชาดก ๙. สีหจัมมชาดก ๑๐. สีลานิสังสชาดก.

จบ อสทิสวรรคที่ ๔