๕. กัจฉปชาดก ตายเพราะปาก
[เล่มที่ 57] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 343
๕. กัจฉปชาดก
ตายเพราะปาก
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 57]
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 343
๕. กัจฉปชาดก
ตายเพราะปาก
[๒๗๙] เต่าพออ้าปากจะพูด ได้ฆ่าตนเองแล้วหนอ เมื่อตนคาบท่อนไม้ไว้ดีแล้ว ก็ฆ่าตนเสียด้วยวาจาของตนเอง.
[๒๘๐] ข้าแต่พระองค์ผู้ประเสริฐสุดในหมู่นรชน บุรุษผู้เป็นบัณฑิตเห็นเหตุอันนี้แล้ว ควรเปล่งแต่วาจาที่ดี ไม่ควรเปล่งวาจานั้นให้ล่วงเวลาไป ขอพระองค์ทรงทอดพระเนตรเต่าผู้ล่วงถึงความพินาศเพราะพูดมาก.
จบ กัจฉปชาดกที่ ๕
อรรถกถากัจฉปชาดกที่ ๕
พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภภิกษุโกกาสิกะ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า อวธิ วต อตฺตานํ ดังนี้. เรื่องราว จักมีแจ้งในมหาตักการิชาดก.
ก็ในครั้งนั้น พระศาสดาตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โกกาลิกะมิใช่ฆ่าตัวเองด้วยวาจาในบัดนี้เท่านั้น แม้เมื่อก่อน ก็ฆ่าตัวตายด้วยวาจาเหมือนกัน จึงนำเรื่องในอดีตมาตรัสเล่า.
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 344
ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในกรุงพาราณสี พระโพธิสัตว์อุบัติในตระกูลอำมาตย์ ครั้นเจริญวัย ได้เป็นผู้สอนอรรถและธรรมของพระองค์. แต่พระราชาพระองค์ช่างพูด. เมื่อพระองค์ตรัสคนอื่นไม่มีโอกาสพูดได้เลย. พระโพธิสัตว์ประสงค์จะปรามความพูดมากของพระองค์ จึงคิดตรองหาอุบายพักอย่างหนึ่ง. ก็ในกาลนั้นมีเต่าตัวหนึ่งอาศัยอยู่ ที่สระแห่งหนึ่งในหิมวันตประเทศ. มีลูกหงส์สองตัวหากิน จนสนิทสนมกับเต่า. ลูกหงส์สองตัวนั้นครั้นสนิทสนมแน่นแฟ้น วันหนึ่งจึงพูดกับเต่าว่า เต่าสหายรัก ที่อยู่ในถ้ำทองที่พื้นภูเขาจิตรกูฏ ในป่าหิมพานต์ของพวกเรา เป็นประเทศน่ารื่นรมย์ ท่านจะไปกับเราไหม. เต่าถามว่า เราจะไปได้อย่างไรเล่า. ลูกหงส์กล่าวว่า เราจักพาท่านไป หากท่านรักษาปากไว้ได้ ท่านจะไม่พูดอะไรกะใครๆ เลย. เต่าตอบว่า ได้ พวกท่านพาเรา ไปเถิด. ลูกหงส์ทั้งสองจึงให้เต่าคาบไม้อันหนึ่ง ตนเองคาบปลายไม้ทั้งสองข้างบินไปในอากาศ. พวกเด็กชาวบ้านเห็นหงส์นำเต่าไปดังนั้น จึงตะโกนขึ้นว่า หงส์สองตัวนำเต่าไปด้วยท่อนไม้. เต่าอยากจะพูดว่า ถึงสหายของเราจะพาเราไป เจ้าเด็กถ่อยมันกงการอะไรของเจ้าเล่า จึงปล่อยท่อนไม้จากที่ที่คาบไว้ ในเวลาที่ถึงเบื้องบนพระราชนิเวศน์ในนครพาราณสี เพราะหงส์พาไปเร็วมาก จึงตกในอากาศแตกเป็นสองเสี่ยง. ได้เกิดเอะอะอึงคะนึงกันว่า เต่าตกจากอากาศแตกสองเสี่ยง.
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 345
พระราชาทรงพาพระโพธิสัตว์ไป มีหมู่อำมาตย์แวดล้อมเสด็จไปถึงที่นั้น ทอดพระเนตรเห็นเต่า จึงตรัสถามพระโพธิสัตว์ว่า ดูก่อนท่านบัณฑิต ทำอย่างไรจึงได้ตกมา. พระโพธิสัตว์คิดว่า เราคอยมานานแล้ว ใคร่จะถวายโอวาทพระราชา เที่ยวตรองหาอุบายอยู่ เต่าตัวนี้คงจะคุ้นเคยกับหงส์เหล่านั้น พวกหงส์จึงให้คาบไม้ไปด้วยหวังว่า จะนำไปป่าหิมพานต์ จึงบินไปในอากาศ ครั้นแล้วเต่าตัวนี้ได้ยินคำของใครๆ อยากจะพูดตอบบ้าง เพราะตนไม่รักษาปาก จึงปล่อยท่อนไม้เสีย ตกจากอากาศถึงแก่ความตาย จึงกราบทูลว่า ข้าแต่มหาราช ธรรมดาคนปากกล้าพูดไม่รู้จบ ย่อมได้รับทุกข์เห็นปานนี้แหละ พระเจ้าข้า แล้วได้ กล่าวคาถาเหล่านี้ว่า :-
เต่าพออ้าปากจะพูด ได้ฆ่าตนเองแล้วหนอ เมื่อตนคาบท่อนไม้ไว้ดีแล้ว ก็ฆ่าตนเสียด้วยวาจาของตนเอง. ข้าแต่พระองค์ผู้ประเสริฐในหมู่นรชน บุรุษผู้เป็นบัณฑิต เห็นเหตุอันนี้แล้ว ควรเปล่งแต่วาจาที่ดี ไม่ควรเปล่งวาจานั้นให้ล่วงเวลาไป ขอพระองค์ทรงทอดพระเนตรเต่าผู้ถึงความพินาศเพราะพูดมาก.
ในบทเหล่านั้น บทว่า อวธิ วต ได้แก่ ได้ฆ่าแล้วหนอ. บทว่า ปพฺยาหรํ ได้แก่ อ้าปากจะพูด. บทว่า สุคฺคหิตสฺมึ
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 346
กฏฺสฺมึ ความว่า เมื่อท่อนไม้อันตนคาบไว้ดีแล้ว. บทว่า วาจาย สกิยา วธิ ความว่า เต่าเมื่อเปล่งวาจาในเวลาไม่ควร เพราะ ความที่ตนปากกล้าเกินไป จึงปล่อยที่ที่คาบไว้แล้ว ฆ่าตนเอง ด้วยวาจาของตนนั้น. เต่าได้ถึงแก่ความตายอย่างนี้แหละ มิใช่ อย่างอื่น. บทว่า เอตมฺปิ ทิสฺวา คือเห็นเหตุนี้แหละ. บทว่า นรวีรเสฏฺ ความว่า ข้าแต่พระองค์ผู้ประเสริฐ. มีความเพียรสูง เป็นพระราชาผู้ประเสริฐด้วยความเพียรในนรชนทั้งหลาย. บทว่า วาจํ ปมุญฺเจ กุสลํ นาติเวลํ ความว่า บุรุษผู้เป็นบัณฑิต พึงเปล่งวาจาที่เป็นกุศลอย่างเดียว ประกอบด้วยสัจจะเป็นต้น คือพึงกล่าววาจาที่เป็นประโยชน์ ประกอบด้วยกาล ไม่พึงกล่าว วาจาเกินเวลา เกินกาลไม่รู้จักจบ. บทว่า ปสฺสสิ ความว่า พระองค์ทอดพระเนตรเห็นประจักษ์แล้วมิใช่หรือ. บทว่า พหุภาณเนน แปลว่า เพราะพูดมาก. บทว่า กจฺฉปํ พฺยสนํ คตํ คือ เต่าถึงแก่ความตายอย่างนี้.
พระราชาทรงทราบว่า พระโพธิสัตว์กล่าวหมายถึง พระองค์ จึงตรัสว่า ท่านพูดหมายถึงเราใช่ไหม ท่านบัณฑิต. พระโพธิสัตว์กราบทูลให้ชัดเจนว่า ข้าแต่มหาราช ไม่ว่าจะเป็น พระองค์หรือใครๆ อื่น เมื่อพูดเกินประมาณย่อมถึงความพินาศ อย่างนี้. พระราชาตั้งแต่นั้นมาก็ทรงงดเว้นตรัสแต่น้อย.
พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประชุม ชาดก เต่าในครั้งนั้นได้เป็นโกกาลิกะในครั้งนี้ ลูกหงส์สองตัว