๗. เสคคุชาดก การได้รับทุกข์จากผู้เป็นที่พึ่ง
[เล่มที่ 57] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 351
๗. เสคคุชาดก
การได้รับทุกข์จากผู้เป็นที่พึ่ง
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 57]
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 351
๗. เสคคุชาดก
การได้รับทุกข์จากผู้เป็นที่พึ่ง
[๒๘๓] สัตว์โลกทั้งปวง เป็นผู้พอใจในการเสพกาม ดูก่อนนางเสคคุ เจ้าเป็นผู้ไม่ฉลาดในธรรมของชาวบ้าน ความที่เจ้าเป็นนางกุมารีถูกบิดาจับมือในป่าชัฏ ร้องไห้อยู่ในวันนี้เป็นธรรมดา.
[๒๘๔] เมื่อฉันได้รับทุกข์แล้ว ผู้ใดพึงเป็นที่พึ่งได้ ผู้นั้นคือบิดาของฉัน กลับมากระทำมิดีมิร้ายฉันในป่า ฉันจะคร่ำครวญหาใครในกลางป่าอีกเล่า ผู้ใดเป็นที่พึ่งได้ ผู้นั้นกลับมาทำฉันถึงสาหัส.
จบ เสคคุชาดกที่ ๗
อรรถกถาเสคคุชาดกที่ ๗
พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภอุบาสกผู้ขายผักผู้หนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า สพฺโพ โลโก ดังนี้. เรื่องราวพิสดารอยู่ในเอกนิบาตนั้นแล้ว.
แม้ในทุกนิบาตนี้ พระศาสดาตรัสถามอุบาสกนั้นว่า ดูก่อนอุบาสก ทำไมหายไปนานนัก. อุบาสกกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 352
ลูกสาวของข้าพระองค์มีใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสเสมอ ข้าพระองค์ลองทดลองดู แล้วจึงยกให้เด็กหนุ่มของตระกูลผู้หนึ่ง เพราะมัวจัดการเรื่องนั้นอยู่ จึงไม่ได้โอกาสมาเฝ้าพระองค์. ลำดับนั้น พระศาสดาตรัสกะอุบาสกนั้นว่า ดูก่อนอุบาสก ลูกสาวของท่านมิใช่เป็นผู้มีศีลในบัดนี้เท่านั้น แม้เมื่อก่อนก็มีศีล และท่านก็ทดลองนางแล้วเหมือนกัน แล้วทรงนำเรื่องอดีตมาตรัสเล่า.
ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในกรุงพาราณสี พระโพธิสัตว์ได้เป็นรุกขเทวดา. ในกาลนั้น อุบาสกขายผักผู้นี้แหละคิดจะทดลองลูกสาว จึงนำเข้าป่าแล้วจับมือทำเป็นต้องการด้วยอำนาจกิเลส. ลำดับนั้นอุบาสกได้กล่าวกะลูกสาวผู้คร่ำครวญอยู่ด้วยคาถาแรกว่า :-
สัตว์โลกทั้งปวง เป็นผู้พอใจในการเสพกาม ดูก่อนแม่เสคคุ เจ้าเป็นผู้ไม่ฉลาดในธรรมของชาวบ้าน ความที่เจ้าเป็นนางกุมารี ถูกบิดาจับมือในป่าชัฏร้องไห้อยู่ในวันนี้เป็นธรรมดา.
ในบทเหล่านั้น บทว่า สพฺโพ โลโก อตฺตมโน อโหสิ ความว่า แน่ะแม่หนู สัตว์โลกทั้งสิ้นพอใจในการเสพกามนี้. บทว่า เสคฺคุ เป็นชื่อของหญิงนั้น. ดูก่อนแม่เสคคุ เจ้าไม่ฉลาดในธรรมของชาวบ้าน. ท่านอธิบายว่า เจ้าไม่ฉลาดในธรรมของ ชาวบ้าน คือ ในธรรมของคนถ่อยนี้. บทว่า โกมาริโก นาม ตวชฺช ธมฺโม. ความว่า แม่หนู สภาพของเจ้านี้อย่างไร ในวันนี้.
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 353
ยํ ตวํ คหิตา ปวเน ปโรทสิ ความว่า อุบาสกถามว่า เจ้าถูกเราจับมือด้วยความเชยชมในป่านี้ เจ้าคร่ำครวญ คือ ไม่ยอมสภาพของเจ้านี้ คือ อะไรกัน เจ้ายังเป็นเด็กหญิงอยู่หรือ.
กุมารีฟังคำนั้นแล้ว กล่าวว่า จริงจ้ะพ่อ ลูกยังเป็นเด็กหญิงอยู่ แล้วคร่ำครวญกล่าวคาถาที่ ๒ ว่า :-
เมื่อฉันได้รับทุกข์แล้ว ผู้ใดเป็นที่พึ่งได้ ผู้นั้นคือบิดาของฉัน กลับมาทำกรรมมิดีมิร้ายฉันในป่า ฉันจะคร่ำครวญหาใครในป่าได้อีกเล่า ผู้ใดเป็นที่พึ่งได้ ผู้นั้นกลับมาทำฉันถึงสาหัส.
อุบาสกขายผักนั้น ลองใจลูกสาวในครั้งนั้นด้วยประการฉะนี้แล้ว จึงพาไปบ้าน ยกให้เด็กหนุ่มแห่งตระกูล แล้วไปตามยถากรรม.
พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประกาศสัจธรรม ทรงประชุมชาดก. เมื่อจบสัจธรรม อุบาสกขายผัก ได้ตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล ลูกสาวในครั้งนั้นได้เป็นลูกสาวในครั้งนี้นั่นเอง ส่วนรุกขเทวดาผู้ทำเหตุนั้นให้ประจักษ์ คือ เราตถาคตนี้แล.
จบ อรรถกถาเสคคุชาดกที่ ๗