พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

๖. พาโลวาทชาดก ว่าด้วยคนมีป้ญญาบริโภค

 
บ้านธัมมะ
วันที่  22 ส.ค. 2564
หมายเลข  35666
อ่าน  422

[เล่มที่ 57] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 507

๖. พาโลวาทชาดก

ว่าด้วยคนมีปัญญาบริโภค


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 57]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 11 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 507

๖. พาโลวาทชาดก

ว่าด้วยคนมีปัญญาบริโภค

[๓๔๒] บุคคลผู้ไม่สำรวมประหารสัตว์ เบียดเบียนและฆ่าสัตว์ ให้ทานแก่สมณะใด สมณะนั้นบริโภคภัตเช่นนี้ ย่อมเข้าไปติดบาปด้วย.

[๓๔๓] ถ้าสมณะเป็นผู้มีปัญญา แม้จะบริโภคทานที่บุคคลผู้ไม่สำรวมฆ่าบุตรและภรรยาถวาย ก็ไม่เข้าไปติดบาปเลย.

จบ พาโลวาทชาดกที่ ๖

อรรถกถาพาโววาทชาดกที่ ๖

พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ กูฏาคารศาลา เสด็จเข้าไปอาศัยกรุงเวสาลี ทรงปรารภสีหเสนาบดี ตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า หนฺตฺวา ฆตฺวา วธิตฺวา จ ดังนี้.

ความย่อมีอยู่ว่า สีหเสนาบดีนั้นถึงพระผู้มีพระภาคเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งแล้วนิมนต์ไปถวายภัตตาหารปรุงด้วยเนื้อ. พวก นิครนถฟังข่าวแล้วไม่พอใจ ใคร่จะเบียดเบียนพระตถาคตเจ้า จึงกล่าวใส่ไคล้ว่าพระสมณโคดมเสวยเนื้อที่เขาอุทิศถวายทั้งที่

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 11 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 508

รู้อยู่. ภิกษุทั้งหลายสนทนากันในโรงธรรมว่า ดูก่อนอาวุโสทั้งหลาย นิครนถนาฏบุตรกับพวกบริษัทเที่ยวใส่ไคล้ว่าพระสมณโคดมเสวยเนื้อที่เขาอุทิศถวายทั้งที่รู้อยู่. พระศาสดาสดับ เรื่องนั้นแล้วตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นิครนถนาฏบุตรนินทาเราเพราะบริโภคเนื้อที่เขาอุทิศถวายแต่ในบัดนี้เท่านั้นก็หามิได้ แม้ในกาลก่อนก็ได้ติเตียนแล้วเหมือนกัน ทรงนำเรื่องอดีตมาตรัสเล่า.

ในอดีตกาลครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในกรุงพาราณสี พระโพธิสัตว์บังเกิดในตระกูลพราหมณ์ ครั้นเจริญวัยแล้วออกบรรพชาเป็นฤาษีมาจากป่าหิมพานต์ เพื่อต้องการเสพรสเปรี้ยวเค็มในกรุงพาราณสี. รุ่งขึ้นจึงเที่ยวภิกษาจารไปในพระนคร. ครั้งนั้นกุฎุมพีผู้หนึ่งคิดว่า เราจักแกล้งดาบสให้ลำบาก จึงนิมนต์ให้เข้าไปสู่เรือน นิมนต์ให้นั่งบนอาสนะที่จัดปูไว้แล้ว อังคาสด้วยปลาและเนื้อ ครั้นเสร็จภัตกิจแล้วนั่ง ณ ส่วนข้างหนึ่งตรัสว่า เนื้อนี้ข้าพเจ้าฆ่าสัตว์ปรุงเป็นอาหารเฉพาะท่านโดยตรง ขออกุศลนี้อย่าได้มีแก่ข้าพเจ้าเลย จงตกเป็นของท่านเถิดแล้วกล่าวคาถาที่ ๑ ว่า :-

บุคคลผู้ไม่สำรวมประหารสัตว์ เบียดเบียนและฆ่าสัตว์ให้ทานแก่สมณะใด สมณะนั้นบริโภคภัตรเช่นนี้ ย่อมเข้าไปติดบาปด้วย.

 
  ข้อความที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 11 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 509

พระโพธิสัตว์ฟังแล้ว จึงกล่าวคาถาที่ ๒ ว่า :-

ถ้าสมณะผู้มีปัญญาแม้บริโภคทานที่บุคคลผู้ไม่สำรวม ฆ่าบุตรและภรรยาถวาย ก็ไม่เข้าไปติดบาปเลย.

ในบทเหล่านั้น บทว่า ภุญฺชมาโนปิ สปฺปญฺโ ความว่า เนื้อของผู้อื่นที่บุคคลผู้ทุศีลแม้ฆ่าบุตรภรรยาให้แล้ว ยกไว้เถิด ท่านผู้มีปัญญาผู้ถึงพร้อมด้วยคุณ มีขันติและเมตตาเป็นต้น แม้บริโภคเนื้อนั้น ย่อมไม่แปดเปื้อนด้วยบาป.

พระโพธิสัตว์แสดงธรรมแก่กุฎุมพีอย่างนั้นแล้ว ลุกจากอาสนะหลีกไป.

พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประชุมชาดก. นิครนถนาฏบุตรได้เป็นกุฎุมพี ส่วนดาบส คือเราตถาคตนี้แล.

จบ อรรถกถาพาโลวาทชาดกที่ ๖