พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

๖. ทสัณณกชาดก ว่าด้วยให้แล้ว ไม่เดือดร้อนภายหลัง ทําได้ยาก

 
บ้านธัมมะ
วันที่  25 ส.ค. 2564
หมายเลข  35862
อ่าน  439

[เล่มที่ 59] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๕ - หน้า 253

๖. ทสัณณกชาดก

ว่าด้วยให้แล้ว ไม่เดือดร้อนภายหลัง ทําได้ยาก


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 59]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 11 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๕ - หน้า 253

๖. ทสัณณกชาดก

ว่าด้วยให้แล้ว ไม่เดือดร้อนภายหลัง ทำได้ยาก

[๑๐๐๗] ชายคนนี้ กลืนดาบทสรรณกะ ที่มีคม อันคมกริบ ดื่มเลือดผู้อื่น ที่กระทบแล้ว ฟันแล้ว ในท่ามกลางบริษัท ยังมีไหม สิ่งที่ทำได้ยากกว่า การกลืนดาบนี้ ท่านถูกเราถามแล้ว จงบอกเหตุอย่างอื่น ที่ทำได้ยากกว่าแก่เรา.

[๑๐๐๘] ก็ผู้ใดพึงกล่าวว่า เราจะให้การกล่าวของผู้นั้น ทำได้ยากกว่าการกลืนดาบ ที่ดื่มโลหิตของผู้อื่น ที่กระทบเข้าแล้ว ของชายคนนั้น เพราะความโลภ เหตุอย่างอื่นทุกอย่าง เป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย ข้าแต่พระเจ้ามคธ ขอพระองค์โปรดทรงทราบ อย่างนี้เถิด.

[๑๐๐๙] อายุรบัณฑิต ผู้ฉลาดในธรรม กล่าวแก้ ข้อความแห่งปัญญาแล้ว บัดนี้ เราจะขอถาม ปุกกุสบัณฑิตว่า สิ่งที่ทำได้ยากกว่า การบอกว่า

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 11 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๕ - หน้า 254

เราจะให้นั้น ยังมีอยู่หรือ ท่านถูกเราถามแล้ว จงบอกเหตุอย่างอื่น ที่ทำได้ยากกว่าแก่เรา.

[๑๐๑๐] คนทั้งหลายไม่รักษาคำที่พูดไว้ คำที่พูด ที่เปล่งออกไปนั้น ก็ไม่มีผล ก็ผู้ใดให้ปฏิญญาไว้แล้ว ก็ตัดทอนความโลภได้ การบั่นทอน ความโลภของผู้นั้น นั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ยากกว่า การกลืนดาบ และกว่าการให้ปฏิญญานั้น เหตุอย่างอื่นทุกอย่าง เป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย. ข้าแต่พระเจ้ามคธ ขอพระองค์โปรดทรงทราบ อย่างนี้เถิด.

[๑๐๑๑] ปุกกุสบัณฑิต ผู้ฉลาดในธรรม กล่าวแก้ ข้อความแห่งปัญหาแล้ว บัดนี้ เราจะถามเสนกบัณฑิตกว่า สิ่งที่ทำได้ยากกว่า การให้สิ่งของนั้น ยังมีอยู่หรือ ท่านถูกเราถามแล้ว ขอจงบอก เหตุอย่างอื่น ที่ทำได้ยากกว่าแก่เรา.

[๑๐๑๒] คนควรให้ทาน จะน้อยหรือมากก็ไม่ว่า แต่ผู้ใด ครั้นให้แล้ว ไม่เดือดร้อนใจ ในภายหลัง การไม่เดือดร้อนใจนั้น เป็นสิ่งที่ทำได้ยากกว่า

 
  ข้อความที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 11 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๕ - หน้า 255

การกลืนดาบ กว่าการพูดว่า จะให้สิ่งของ และกว่าการให้สิ่งของที่รักนั้น. เหตุอย่างอื่นทั้ง หมด เป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย ข้าแต่พระเจ้ามคธ ขอพระองค์โปรดทรงทราบ อย่างนี้.

[๑๐๑๓] อายุรบัณฑิต แก้ปัญหาแล้ว และปุกกุสบัณฑิต ก็แก้ปัญหาแล้ว ส่วนเสนกบัณฑิต ครอบงำปัญหาหมดทุกข้อว่า คนให้ทานแล้ว ไม่ควรร้อนใจภายหลัง อย่างที่เสนกบัณฑิตพูด.

จบ ทสัณณกชาดกที่ ๖

อรรถกถาทสัณณกชาดกที่ ๖

พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงปรารภ การยั่วยวนของภรรยาเก่า จึงตรัสเรื่องนี้ มีคำเริ่มต้นว่า ทสณฺณกํ ติขิณธารํ ดังนี้.

ดังจะกล่าวโดยย่อ พระศาสดาตรัสถาม ภิกษุนั้นว่า ได้ทราบว่า เธอกระสันอยากสึก จริงหรือ? เมื่อเธอทราบทูลว่า จริงพระเจ้าข้า ตรัสถามต่อว่า ใครยั่วให้กระสัน? เมื่อเธอทูลว่า ภรรยาเก่า พระเจ้าข้า จึงตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ หญิงนี้ทำอนัตถะให้เธอ ไม่เฉพาะในบัดนี้ แม้

 
  ข้อความที่ 4  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 11 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๕ - หน้า 256

ในชาติก่อน เธออาศัยหญิงนี้ กำลังจะตายเพราะโรคจิต ได้อาศัยบัณฑิต จึงได้ชีวิตไว้ แล้วทรงนำเอาเรื่อง ในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้:-

ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัต ครองราชสมบัติ อยู่ในนครพาราณสี พระโพธิสัตว์กำเนิดในตระกูลพราหมณ์. ญาติทั้งหลาย ได้ตั้งชื่อเขาว่า เสนกกุมาร. เขาเติบโตแล้ว ได้เรียนศิลปะทุกชนิด ในเมืองตักกศิลาจบแล้ว ก็กลับเมืองพาราณสี ได้เป็นอำมาตย์ ผู้ถวายอรรถธรรม พระเจ้ามัทวะ. ท่านถูกคนทั้งหลาย เรียกว่า เสนกบัณฑิต รุ่งโรจน์ทั่วทั้งนคร เหมือนดวงจันทร์ และดวงอาทิตย์. ครั้งนั้น บุตรของราชปุโรหิต มาเฝ้าในหลวง เห็นอัครมเหสีของพระราชา ผู้ทรงพระรูปโฉมสูงส่ง ทรงประดับเครื่องทรงครบถ้วน มีจิตปฏิพัทธ์ไปบ้าน แล้วนอนอดอาหาร ถูกเพื่อนฝูงถาม จึงบอกเนื้อความนั้น. พระราชาตรัสถามว่า ไม่เห็นบุตรของปุโรหิต ไปไหนเล่า? ได้ทรงทราบเนื้อความนั้นแล้ว จึงตรัสสั่งให้ เขาเข้าเฝ้า แล้วตรัสว่า ฉันจะมอบให้ท่าน ๗ วัน จะเอาพระอัครมเหสีนี้ไป ไว้ที่บ้าน ๗ วัน ในวันที่ ๘ จึงนำมาส่ง. เขารับพระบรมราชโองการแล้ว นำอัครมเหสี ไปบ้านร่วมอภิรมย์กับพระนาง. บุตรปุโรหิต และอัครมเหสีนั้น ต่างก็มีจิตรักใคร่กันพากันหนีไป ทางประตูยอดนั้นเอง โดยไม่ให้ใครรู้ ได้ไปที่แว่นแคว้นของพระราชาองค์อื่น. ใครๆ ก็ไม่รู้ที่ที่คนทั้ง ๒ ไปแล้ว ไม่มีร่องรอย เป็นเสมือนทางที่เรือผ่านไป แล้วฉะนั้น. ถึงพระราชาทรงให้ตีกลองป่าวประกาศ ไปในพระนคร ค้นหาโดยประการต่างๆ ก็ไม่รู้ที่ที่เขาไป. ต่อมาพระองค์ทรงเกิดความ

 
  ข้อความที่ 5  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 11 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๕ - หน้า 257

เศร้าโศกเป็นกำลัง เพราะอาศัยเขา. พระหทัยร้อน พระโลหิตไหลออก. ได้มีพระพยาธิขนาดหนัก. หมอหลวงมากมาย ก็ไม่สามารถจะเยียวยาได้. พระโพธิสัตว์รู้ว่า พระราชานี้ ไม่มีพระพยาธิอะไร แต่พระองค์ ไม่ทรงเห็นพระมเหสี จึงถูกพระโรคจิตกระทบ เราจักใช้อุบายแก้ไขพระองค์ แล้วจึงเรียกอำมาตย์ ผู้เป็นราชบัณฑิต ๒ คน คือ อายุรอำมาตย์ ๑ ปุกกุสอำมาตย์ ๑ มาหาแล้วบอกว่า พระราชาไม่ทรงมีพระโรคอื่น เว้นไว้แต่พระโรคจิต เพราะไม่ทรงเห็นพระราชเทวี พระราชา ทรงมีพระอุปการะแก่เรามาก เพราะฉะนั้น พวกเราจะใช้อุบาย แก้ไขพระองค์ คือ จักให้คนแสดงการเล่น ที่พระลานหลวง แล้วจะให้ผู้รู้วิธีกลืนดาบ กลืนดาบให้พระราชา ประทับยืนทอดพระเนตร การเล่นที่ช่องพระแกล. พระราชาทรงทอดพระเนตร คนกลืนดาบแล้ว ก็จักตรัสถามปัญหาว่า ยังมีบ้างไหม สิ่งอื่นที่ทำได้ยากกว่านี้? สหายอายุระ เธอควรทูล แก้ปัญหานั้นว่า การพูดว่า เราจะให้ของชื่อนี้ เป็นสิ่งที่ทำได้ยากกว่านี้ สหายปุกกุส ต่อนั้นไป พระองค์ก็จะตรัสถามเธอ เธอควรทูลแก้ ถวายพระองค์ว่า เมื่อคนพูดว่า จะให้แต่ไม่ให้วาจานั้นไร้ผล คนบางเหล่าหา เข้าถึงวาจาชนิดนั้น ดำรงชีวิตอยู่ไม่ ไม่เคี้ยวกิน ไม่ดื่ม ซึ่งไม่ทำให้เหมาะสมแก่ถ้อยคำนั้น ส่วนการให้ประโยชน์ ตามที่ปฏิญญาไว้ นั่นแหละ การให้ของผู้นั้น ทำได้ยากกว่า การพูดว่าจะให้. ต่อจากนั้นไป ผมก็จักรู้เหตุอื่น ที่จะต้องทำแก้ปัญหา ดังนี้แล้ว ได้ให้แสดงการเล่น. ลำดับ

 
  ข้อความที่ 6  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 11 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๕ - หน้า 258

นั้น บัณฑิตทั้ง ๓ เหล่านั้น พากันไปราชสำนัก กราบทูลว่า ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม ที่พระลานหลวง การเล่นกำลังแสดง เมื่อคนทั้งหลาย ดูการเล่นอยู่. แม้ทุกข์ก็ไม่เป็นทุกข์ ขอใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท จงเสด็จเถิด ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย จะไปดู แล้ว ได้นำพระราชาไป เปิดช่องพระแกล ให้พระองค์ทอดพระเนตร การเล่น คนจำนวนมากต่างพากัน แสดงศิลปะที่ตนรู้ๆ. ชายคนหนึ่ง กลืนดาบแก้วที่มีคม คมกริบ ยาว ๓๓ นิ้ว. พระราชาทอดพระเนตร ชายคนนั้นแล้ว ทรงดำริว่า ชายคนนี้ กลืนดาบอย่างนี้ เราจักถามบัณฑิตเหล่านี้ว่า มี อยู่หรือไม่ การเล่นอย่างอื่น ที่ทำได้ยากกว่านี้ แล้วเมื่อตรัสถามอายุรบัณฑิต จึงตรัสคาถาที่ ๑ ว่า :-

ชายคนนี้ กลืนดาบทสรรณกะ ที่มีคม อันคมกริบ ดื่มเลือดผู้อื่น ที่กระทบแล้ว ฟันแล้ว ใน ท่ามกลางบริษัท ยังมีไหม สิ่งที่ทำได้ยากกว่า การกลืนดาบนี้ ท่านถูกเราถามแล้ว จงบอก เหตุอย่างอื่น ที่ทำได้ยากกว่า แก่เรา.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ทสณฺณกํ ความว่า เกิดขึ้นที่แคว้น ทสัณณกะ. บทว่า สุมฺปนฺนปายินํ ความว่า ที่ดื่มเลือดผู้อื่น ที่กระทบเข้าแล้ว. บทว่า ปริสายํ ความว่า ชายคนนี้ กลืนดาบที่ท่ามกลางบริษัท เพราะอยากได้ทรัพย์. บทว่า ยทญฺํ ความว่า สิ่งอื่นใด คือ เหตุอื่นใด

 
  ข้อความที่ 7  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 11 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๕ - หน้า 259

ที่ทำได้ยากกว่า การกลืนดาบนี้ มีอยู่ ท่านถูกเราถามแล้ว จงบอกเหตุนั้น แก่เรา.

ลำดับนั้นอายุรบัณฑิต เมื่อทูลบอกพระราชา จึงกล่าวคาถา ที่ ๒ ว่า :-

ก็ผู้ใดพึงกล่าวว่า เราจะให้ การกล่าวของเขานั้น เป็นสิ่งที่ทำได้ยากกว่า การกลืนดาบ ที่ ดื่มโลหิตของผู้อื่น ที่กระทบเข้าแล้ว ของชายคนนั้น เพราะความโลภ เหตุอย่างอื่นทุกอย่าง เป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย ข้าแต่พระเจ้ามคธ ขอพระองค์โปรดทรงทราบ อย่างนี้เถิด.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า วชฺชา ความว่า พึงกล่าว. บทว่า ตํ ทุกฺกรตรํ ความว่า การพูดว่า เราจักให้นั้น เป็นสิ่งที่ทำได้ยากกว่านั้น. บทว่า สพฺพญฺํ ความว่า เหตุอย่างอื่น แม้ทุกอย่าง เว้นไว้แต่การพูดว่า เราจักให้ของชื่อนี้ แก่ท่าน เป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย. อายุรบัณฑิตร้องเรียก พระราชาโดยพระโคตรว่า พระเจ้ามคธ.

เมื่อพระราชา ทรงสดับคำ ของอายุรบัณฑิตแล้ว ทรงพิจารณา ถ้อยคำนั้น นั่นแหละว่า ได้ทราบว่า การพูดว่า เราจะให้สิ่งของชื่อนี้ เป็นสิ่งที่ทำได้ยากกว่า การกลืนดาบ และเราก็ได้พูดออกไปแล้วว่า เราจักให้

 
  ข้อความที่ 8  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 11 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๕ - หน้า 260

พระราชเทวี แก่บุตรของปุโรหิต เราทำกรรมที่ทำได้ยากแล้วหนอ ความเศร้าโศก ในพระราชหฤทัยเบาบางไปแล้ว หน่อยหนึ่ง พระองค์ทรงดำริว่า แต่กรรมอย่างอื่น ที่ทำได้ยากกว่า การพูดว่า เราจะให้ของสิ่งนี้ แก่ผู้อื่นนั้น ยังมีอยู่หรือไม่หนอ เมื่อทรงปราศรัย กับปุกกุสบัณฑิต จึงตรัสคาถา ที่ ๓ ว่า :-

อายุรบัณฑิต ผู้ฉลาดในธรรม กล่าวแก้ ข้อความแห่งปัญหาแล้ว. บัดนี้ เราจะขอถาม ปุกกุสบัณฑิตว่า สิ่งที่ทำได้ยากกว่า การบอกว่า เราจะให้นั้น ยังมีอยู่หรือ มีเหตุอย่างอื่นใด ที่ทำได้ยาก ท่านผู้ถูกเราถามแล้ว จงบอกเหตุนั้น แก่เรา.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ปญฺหํ อตฺถํ มีคำอธิบายว่า กล่าวแก้ ข้อความแห่งปัญหาแล้ว. บทว่า ธมฺมสฺส โกวิโท ได้แก่ ผู้ฉลาด ในอรรถที่ส่องถึง ข้อความของธรรมะนั้น. บทว่า ตโต ความว่า สิ่งที่ทำได้ยากกว่าการพูดนั้น มีอยู่หรือ.

ลำดับนั้น ปุกกุสบัณฑิต เมื่อจะทูลแก้ปัญหา ถวายพระองค์ จึงกล่าวคาถาที่ ๔ ว่า :-

 
  ข้อความที่ 9  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 11 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๕ - หน้า 261

คนทั้งหลาย ไม่รักษาคำที่พูดไว้ คำที่พูด ที่เปล่งออกไปนั้น ไม่มีผล และผู้ใดให้ปฏิญญาไว้แล้ว ก็บั่นทอนความโลภได้ การบั่นทอน ความโลภของผู้นั้น นั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ยากกว่า การกลืนดาบ และการให้ปฎิญญานั้น เหตุอย่างอื่นทุกอย่าง เป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย ข้าแต่พระเจ้า มคธ ขอพระองค์โปรดทรงทราบ อย่างนี้เถิด.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ทตฺวา ความว่า ให้ปฏิญญาไว้ว่า เราจะให้สิ่งของชื่อโน้น. บทว่า อวากยิรา มีคำอธิบายไว้ว่า บุคคลเมื่อให้ข้อความ ที่ได้ปฏิญญาไว้แล้วนั้น บั่นทอน คือ ทำลายความโลภทิ้ง ในเพราะปฏิญญานั้น และพึงให้สิ่งของนั้น. บทว่า ตโต ความว่า การบั่นทอน คือ การให้สิ่งของนั้น นั่นแหละ ทำได้ยากกว่าการกลืนดาบ และการพูดว่า จะให้สิ่งของชื่อนั้น แก่ท่านนั้น.

แม้เมื่อพระราชาทรงสดับคำนั้นแล้ว ทรงปริวิตกอยู่ว่า เราพูดก่อนแล้วว่า เราจะให้พระเทวีแก่บุตรปุโรหิต ก็ได้ให้พระเทวี ทำให้สมแก่การพูดแล้ว เราได้ทำกรรม ที่ทำได้ยากแล้วหนอ ความเศร้าโศก เบาบางลงกว่าเดิม. ลำดับนั้น พระองค์ได้มีพระปริวิตกว่า คนอื่นที่ชื่อว่า เป็นผู้ฉลาดกว่าเสนกบัณฑิตไม่มี เราจักถามปัญหานี้กะเสนกบัณฑิต นั่น. ลำดับนั้น พระองค์เมื่อตรัสถามปัญหา จึงตรัสคาถาที่ ๕ ว่า :-

 
  ข้อความที่ 10  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 11 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๕ - หน้า 262

ปุกกุสบัณฑิต ผู้ฉลาดในธรรม กล่าวแก้ ข้อความแห่งปัญหาแล้ว บัดนี้ เราจะถามเสนก บัณฑิตว่า สิ่งที่ทำได้ยากกว่า การให้สิ่งของนั้น ยังมีอยู่หรือ เหตุอย่างอื่นใด ที่ทำได้ยากยังมี อยู่ ท่านถูกเราถามแล้ว ขอจงบอกเหตุอื่น ที่ทำได้ยากกว่าแก่เรา.

เสนกบัณฑิต เมื่อจะทูลแก้ปัญหา ถวายพระองค์ จึงกล่าวคาถา ที่ ๖ ว่า :-

คนควรให้ทาน จะน้อยหรือมาก ก็ไม่ว่า แต่ผู้ใด ครั้นให้แล้ว ไม่เดือดร้อนใจ ในภายหลัง การไม่เดือดร้อนใจนั้น เป็นสิ่งที่ทำได้ยากกว่า การกลืนดาบ กว่าการพูดว่าจะให้สิ่งของ และ กว่าการให้สิ่งของที่รักนั้น. เหตุอย่างอื่นทั้งหมด เป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย ข้าแต่พระเจ้ามคธ ขอพระองค์โปรดทรงทราบอย่างนี้.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า นานุตปฺเป ความว่า ผู้ใด ครั้นให้ของรัก ที่ตนรักใคร่ ที่ตนชอบใจอย่างยิ่ง แก่ผู้อื่นแล้ว ไม่ปรารภถึงของรักนั้น เดือดร้อนใจภายหลัง คือ ไม่เศร้าโศกอย่างนี้ว่า เราให้ของสิ่งนี้

 
  ข้อความที่ 11  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 11 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๕ - หน้า 263

เพื่ออะไร การไม่เศร้าโศกนี้ เป็นสิ่งที่ทำได้ยากกว่า การกลืนดาบ กว่าการพูดว่าเราจะให้ สิ่งของชื่อนี้แก่ท่าน และกว่าการให้สิ่งของนั้น พระมหาสัตว์กราบทูล ให้พระราชาทรงรับทราบ ด้วยประการอย่างนี้. เพราะว่า ครั้นให้ทานแล้ว เจตนาในกาลต่อมา จะเป็นสิ่งที่ควรแก่ความเชื่อได้ยาก ความที่อปรเจตนานั้น ควรแก่ความเชื่อได้ยาก เป็นของทำได้ยาก พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงแสดงไว้แล้ว แม้ในเวสสันดร. สมจริงตามที่ตรัสไว้ว่า :-

พระมหาสัตว์ ทรงถือธนู แล้วทรงคาดพระขรรค์ไว้เบื้องซ้าย ทรงนำพระราชโอรส และพระราชบิดา ของพระองค์ออกไป เพราะว่า คนฆ่าบุตรก็เป็นทุกข์ ข้อที่พระราชกุมาร และพระราชบิดาทั้งหลาย เดือดร้อนมีทุกข์ เป็นรูป นี้ไม่ใช่ฐานะที่เป็นไปได้. และใครรู้ธรรมของสัตบุรุษแล้ว แต่ให้ทานแล้ว ก็เดือดร้อนในภายหลัง.

ฝ่ายพระราชาแล ครั้นทรงสดับคำของพระโพธิสัตว์แล้ว ทรงกำหนดว่า เราให้พระราชเทวีแก่บุตรปุโรหิต ด้วยดวงใจของตน นั่นเอง แต่ไม่อาจจะทรงไว้ ซึ่งดวงใจของตนได้ เศร้าใจ ลำบากใจอยู่ ข้อนี้ไม่

 
  ข้อความที่ 12  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 11 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๕ - หน้า 264

สมควรแก่เรา ถ้าหากพระราชเทวีนั้น พึงมีความเสน่หาในเราไซร้ เธอคงไม่ทอดทิ้งอิสริยยศนี้ หนีไป. แต่เมื่อเธอไม่ทำ ความเสน่หาในเรา หนีไปแล้ว เราจักมีประโยชน์อะไร. เมื่อพระองค์ทรงดำริถึงข้อนี้อยู่ ความเศร้าโศกทั้งหมด ก็กลับหายไป เหมือนหยดน้ำ ที่กลิ้งตกไปจากใบบัว ฉะนั้น. ในทันใดนั่นเอง พระนาภีของพระองค์ก็หยุดนิ่ง พระองค์ทรงไร้พระโรค ทรงพระเกษมสำราญ เมื่อจะทรงทำการสดุดี พระโพธิสัตว์ จึงตรัสพระคาถาสุดท้ายว่า :-

อายุรบัณฑิตแก้ปัญหาแล้ว และปุกกุสบัณฑิตก็แก้ปัญหาแล้ว ส่วนเสนกบัณฑิต ครอบปัญหาหมดทุกข้อว่า คนให้ทานแล้ว ไม่ควรเดือดร้อนใจภายหลัง อย่างที่เสนกบัณฑิต พูด.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ยถา ภาสติ ความว่า ธรรมดาว่าทานนั้น คนให้แล้ว ไม่ควรเดือดร้อนใจภายหลัง เหมือนที่เสนกบัณฑิต พูดนั่นแหละ.

ก็พระราชา ครั้นทรงทำการสดุดีแล้ว ทรงพอพระราชหฤทัยแล้ว ได้พระราชทานทรัพย์ เป็นอันมากแก่ เสนกบัณฑิต นั้น.

พระศาสดา ครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้ มาทรงประกาศสัจธรรมทั้งหลาย แล้วทรงประชุมชาดกไว้ ในที่สุดแห่งสัจธรรม ภิกษุผู้

 
  ข้อความที่ 13  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 11 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๕ - หน้า 265

กระสันจะสึกนั้น ตั้งอยู่แล้วในโสดาปัตติผล พระราชมเหสีในครั้งนั้น ได้แก่ ภรรยาเก่าในบัดนี้ พระราชา ได้แก่ ภิกษุผู้กระสันจะสึก อายุรบัณฑิต ได้แก่ พระโมคคัลลานเถระ ปุกกุสบัณฑิต ได้แก่ พระสารีบุตรเถระ ส่วนเสนกบัณฑิต ได้แก่ เราตถาคต ฉะนี้แล.

จบอรรถกถา ทสัณณกชาดกที่ ๖