๔. ปฐมสังคามวัตถุสูตร ผู้ชนะย่อมก่อเวร
[เล่มที่ 24] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 469
๔. ปฐมสังคามวัตถุสูตร
ผู้ชนะย่อมก่อเวร
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 24]
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 469
๔. ปฐมสังคามวัตถุสูตร
ผู้ชนะย่อมก่อเวร
[๓๖๘] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่... กรุงสาวัตถี.
ครั้งนั้น พระเจ้าแผ่นดินมคธอชาตศัตรู เวเทหิบุตร ทรงแต่งจตุรงคินีเสนา ยกไปรุกรานพระเจ้าปเสนทิโกศล ทางด้านแคว้นกาสี.
พระเจ้าปเสนทิโกศลได้ทรงสดับข่าวว่า พระเจ้าแผ่นดินมคธอชาตศัตรู เวเทหิบุตร ทรงแต่งจตุรงคินีเสนายกมารุกรานเราทางแคว้นกาสี.
ลำดับนั้น พระเจ้าปเสนทิโกศลจึงทรงแต่งจตุรงคินีเสนา ยกออกไปต่อสู้กับพระเจ้าแผ่นดินมคธ อชาตศัตรู เวเทหิบุตร ป้องกันแคว้นกาสี.
ครั้งนั้น พระเจ้าแผ่นดินมคธอชาตศัตรู เวเทหิบุตร กับพระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงทำสงครามต่อกัน แต่ในสงครามครั้งนั้น พระเจ้าแผ่นดินมคธอชาตศัตรู เวเทหิบุตรทรงชำนะพระเจ้าปเสนทิโกศล.
ฝ่ายพระเจ้าปเสนทิโกศลผู้ปราชัย ก็เสด็จล่าทัพกลับกรุงสาวัตถีราชธานีของพระองค์.
[๓๖๙] ครั้งนั้น เวลาเช้า ภิกษุเป็นจำนวนมากนุ่งห่มแล้ว ถือบาตรและจีวรเข้าไปบิณฑบาตยังกรุงสาวัตถีแล้วในเวลาปัจฉาภัต กลับจากบิณฑบาตแล้ว เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ก็ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วนั่งอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง.
ภิกษุเหล่านั้น ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระเจ้าแผ่นดินมคธอชาตศัตรู เวเทหิบุตร ทรงแต่งจตุรงคินีเสนา ยกมารุกรานพระเจ้าปเสนทิโกศลทางแคว้นกาสี พระเจ้าปเสนทิโกศลได้ทรงสดับข่าวว่า พระเจ้าแผ่นดินมคธอชาตศัตรู เวเทหิบุตร ทรงแต่งจตุรงคินีเสนา
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 470
ยกมารุกรานเราทางแคว้นกาสี ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ลำดับนั้น พระเจ้าปเสนทิโกศล จึงทรงแต่งจตุรงคินีเสนา ยกออกไปต่อสู้พระเจ้าแผ่นดินมคธอชาตศัตรู เวเทหิบุตร ป้องกันแคว้นกาสี ครั้งนั้นพระเจ้าแผ่นดินมคธอชาตศัตรู เวเทหิบุตร กับพระเจ้าปเสนทิโกศลทรงทำสงครามต่อกัน แต่ในสงครามครั้งนั้น พระเจ้าแผ่นดินมคธอชาตศัตรู เวเทหิบุตร ทรงชำนะพระเจ้าปเสนทิโกศล ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ฝ่ายพระเจ้าปเสนทิโกศลผู้ปราชัย ก็เสด็จล่าทัพกลับกรุงสาวัตถีราชธานีของพระองค์.
[๓๗๐] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พระเจ้าแผ่นดินมคธอชาตศัตรู เวเทหิบุตร มีมิตรเลวทราม มีสหายเลวทราม มีพระทัยน้อมไปในคนเลวทราม ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ฝ่ายพระเจ้าปเสนทิโกศลมีมิตรดีงาม มีสหายดีงาม มีพระทัยน้อมไปในคนดีงาม ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย วันนี้ พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงแพ้มาแล้วอย่างนี้ จักบรรทมเป็นทุกข์ตลอดราตรีนี้.
[๓๗๑] พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้พระสุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณ์คำร้อยแก้วจบลงแล้ว จึงได้ตรัสพระคาถาคำร้อยกรองต่อไปอีกว่า
ผู้ชำนะย่อมก่อเวร ผู้แพ้ย่อมนอนเป็นทุกข์ บุคคลละความชนะและความแพ้เสียแล้ว จึงสงบระงับ นอนเป็นสุข.
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 471
อรรถกถาปฐมสังคามวัตถุสูตร
พึงทราบวินิจฉัยในปฐมสังคามวัตถุสูตรที่ ๔ ต่อไป :-
คำว่า เวเทหิ ในคำว่า เวเทหิปุตฺโต นี้ เป็นชื่อของบัณฑิต อธิบายว่า บุตรของสตรีผู้เป็นบัณฑิต.
บทว่า จตุรงฺคินิํ ได้แก่ ประกอบด้วยองค์ ๔ กล่าวคือ ทัพช้าง ทัพม้า ทัพรถ ทัพพลเดินเท้า [ราบ].
บทว่า สนฺนยฺหิตฺวา ได้แก่ ให้กระทำเกราะด้วยการสวมหนัง เป็นต้น.
บทว่า สงฺคาเมสุํ แปลว่า รบกัน.
รบกันเพราะเหตุอะไร.
ได้ยินว่า พระเจ้ามหาโกศล [พระชนกของพระเจ้าปเสนทิโกศล] เมื่อยกพระธิดาถวายพระเจ้าพิมพิสาร ได้พระราชทานกาสิคาม [หมู่บ้านกาสี] ซึ่งมีรายได้เกิดขึ้นวันละแสน ในระหว่างพระราชาทั้งสองแก่พระราชธิดา. แต่เมื่อพระเจ้าอชาตศัตรูปลงพระชนม์พระชนกแล้ว แม้พระชนนีของพระองค์ก็ทิวงคต ต่อมาไม่นาน เพราะทรงเศร้าเหตุวิโยคพลัดพรากพระราชา. ต่อนั้น พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงพระดำริว่า เจ้าอชาตศัตรู ทำพระชนกชนนีให้ทิวงคตแล้ว หมู่บ้านซึ่งเป็นสมบัติของพระชนกเรา ก็ต้องกลับเป็นของเราสิ แล้วทรงก่อคดีความเมือง เพื่อต้องการหมู่บ้านนั้น. แม้พระเจ้าอชาตศัตรูก็ทรงเถียงว่า หมู่บ้านเป็นสมบัติของพระชนนีเรา ก็ต้องเป็นของเราสิ. ดังนั้น สองลุงและหลานจึงรบกัน เพื่อต้องการหมู่บ้านนั้น.
พระเจ้าอชาตศัตรูนั้นมีมิตรเช่นพระเทวทัตเป็นต้นชั่ว เพราะเหตุนั้น จึงทรงชื่อว่า มีมิตรชั่ว. ทรงมีคนชั่วเหล่านั้นเป็นสหาย เพราะเหตุนั้น จึงชื่อว่า ทรงมีพระสหายชั่ว. ทรงมีพระทัยน้อมคล้อยไปตามชนเหล่านั้นนั่นแล เพราะเหตุนั้น จึงทรงชื่อว่า มีผู้คล้อยตามชั่ว.
พึงทราบว่า พระเจ้าปเสนทิโกศล
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 472
ทรงมีมิตรดี [กัลยาณมิตร] ก็โดยยกพระสารีบุตรเถระ เป็นต้น [เป็นมิตร].
บทว่า ทุกฺขํ เสสฺสติ ได้แก่ เมื่อทรงเศร้าโศกถึงช้าง เป็นต้น ที่พระเจ้าอชาตศัตรูทรงชนะไป ก็จักบรรทมเป็นทุกข์ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเห็นเหตุแห่งชัยชนะของพระเจ้าปเสนทิโกศลนั้นอีก จึงตรัสคำนี้.
บทว่า ชยํ เวรํ ปสวติ ได้แก่ ผู้ชนะ ย่อมประสบเวร คือ ได้บุคคลที่เป็นไพรี.
จบอรรถกถาปฐมสังคามวัตถุสูตรที่ ๔