หลักเกณฑ์ในการพิจารณาว่าคำสอนใดคือพระพุทธศาสนา

 
orawan.c
วันที่  4 พ.ค. 2550
หมายเลข  3630
อ่าน  2,579

ปัจจุบันมีสำนักมากมายที่มีการสอนและให้มีการปฏิบัติธรรม โดยทุกที่ ก็บอกว่าคือคำสอนของพระพุทธเจ้า แล้วผู้สนใจศึกษาจะทราบได้อย่างไรว่าคำสอนใด ใช่หรือไม่ใช่

รบกวนเรียนถามผู้รู้ช่วยอนุเคราะห์ด้วย

ขอขอบคุณและอนุโมทนา


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
panee.r
วันที่ 5 พ.ค. 2550

การที่จะสามารถรู้ว่าคำสอนไหนจริง ถูกต้องตรงกับพระธรรมของพระพุทธองค์ ก็ต้อง"ศึกษา" ปัจจุบันยังมีพระธรรมคือพระไตรปิฎกให้ศึกษา แต่ผู้ศึกษาต้องละเอียดพิจารณาด้วยเหตุและผล เพราะพระธรรมเป็นเรื่องของเหตุและผล ซึ่งไม่ง่ายที่จะเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ แต่ต้องอดทนและด้วยศรัทธาที่มั่นคง

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
wannee.s
วันที่ 5 พ.ค. 2550

จะรู้ได้อย่างไรคำสอนใดเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า เราก็ต้องอาศัยท่านผู้รู้ ท่านผู้มีปัญญาที่ศึกษาธรรมจากพระไตรปิกฏมาแสดง และเราก็สามารถพิสูจน์ได้ เช่น พระพุทธเจ้าตรัสว่า ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา บังคับบัญชาไม่ได้ ไม่ใช่ตัวตน เราก็ต้องศึกษาสภาพธรรมในขณะนี้ เช่น เห็นมีจริง พิสูจน์ได้ว่าเป็นธรรมะอย่างหนึ่ง ต้องฟังและพิจารณาจนกว่าจะเข้าใจ และเข้าถึงสภาพธรรมที่ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน อย่างไรค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 5 พ.ค. 2550

หลักเกณฑ์ในการพิจารณาว่าคำสอนใด คือพระพุทธศาสนา ปัจจุบันมีสำนักมากมายที่มีการสอนและให้มีการปฏิบัติธรรม โดยทุกที่ก็บอกว่าคือคำสอนของพระพุทธเจ้า แล้วผู้สนใจศึกษาจะทราบได้อย่างไรว่าคำสอนใด ใช่ หรือ ไม่ใช่รบกวนเรียนถามผู้รู้ช่วยอนุเคราะห์ด้วย

ขอขอบคุณและอนุโมทนา

เชิญคลิกอ่านที่นี่ ...

เครื่องตัดสินว่าเป็นธรรมของพระพุทธเจ้า [สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต]

ธรรมของพระพุทธเจ้าก็คือพระไตรปิฎก ในเมื่อทุกคนก็อ้างว่า มาจากพระไตรปิฎก แต่การศึกษาธรรมที่สำคัญที่สุดคือ ต้องสอดคล้องทั้ง ๓ ปิฎก เช่น ที่อื่นก็กล่าวเรื่องสติปัฏฐาน (การปฏิบัติ) แต่ถ้าไม่เข้าใจอภิธรรม ก็จะคิดว่ามีตัวตนที่จะทำ จะเลือกให้สติเกิด ตรงนั้น ตรงนี้ แต่เมื่อเข้าใจอภิธรรมด้วย ก็ทำให้เข้าใจถูกว่า มีแต่ธรรม ที่ทำหน้าที่ สติเป็นธรรมไม่ใช่เรา ในเมื่อไม่ใช่เรา ก็ไม่มีใครบังคับให้สติเกิดได้ มีเหตุปัจจัยจึงเกิด (คัมภีร์ปัฏฐาน ในอภิธรรม) ดังนั้นเราจะรู้ว่าสิ่งใดถูกผิด ก็ต้องศึกษาธรรมให้ละเอียด โดยให้สอดคล้องทั้ง ๓ ปิฎกเมื่อไม่เข้าใจอภิธรรม ก็ทำให้ไม่เข้าใจพระสูตรด้วย เพราะยึดถือว่ามีสัตว์ บุคคลศึกษาว่า มีรูป ๒๘ ในอภิธรรม รูปนั่งก็ไม่มี.. ซึ่งเป็นผลมาจากการศึกษาสอดคล้องใน ๓ ปิฎก ผู้ที่จะรู้ได้ว่าคำสอนใดถูก ผิด จึงต้องศึกษาโดยละเอียดจากพระไตรปิฎกครับ และที่สำคัญที่สุด เป็นเรื่องของการละตั้งแต่ต้น ถ้าหนทางไหนสอนให้ได้ นั่นเท่ากับเพิ่มสมุทัย คือความต้องการซึ่งไม่ใช่คำสอนครับ แม้ในเรื่องปฏิบัติ เช่น เจริญวิปัสสนาแก้กรรม เจริญวิปัสสนาจะได้นู้น ได้นี่ เป็นต้นจะขอยก ข้อความที่อธิบายว่า สิ่งใดเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า ตัดสินด้วยอะไร

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
แวะเข้ามา
วันที่ 5 พ.ค. 2550

หลักเกณฑ์ในการพิจารณาว่าคำสอนใดคือพระพุทธศาสนา

ถ้าไม่รู้ว่าพระพุทธศาสนาสอนอะไร ก็ไม่รู้จะหาหลักเกณฑ์ใดมาเป็นข้อตัดสินพิจารณาคำสอนทั้งหมดศึกษาได้จากพระไตรปิฎก รวมทั้งอรรถกถา ฎีกา อนุฎีกา และธรรมเทศนาของท่านผู้รู้ผู้ทรงคุณทั้งหลาย ทั้งในเพศคฤหัสถ์และบรรพชิต ซึ่งทั้งหมดต้องสอดคล้องกับพระไตรปิฎก
ถ้าไม่สอดคล้องกับพระไตรปิฎก นั่นไม่ใช่คำสอนในพระพุทธศาสนา

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
suwit02
วันที่ 5 มี.ค. 2552

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
mick
วันที่ 30 มี.ค. 2552

เชิญคลิกอ่านที่นี่ ...
มหาประเทศ ๔ [มหาปเทสสูตร]
อ่านพระสูตรนี้แล้วไม่มีข้อสงสัยอะไรเลยค่ะ ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chatchai.k
วันที่ 29 ก.ย. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 10 พ.ค. 2567

ยินดีในกุศลจิตค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ