๑. ปาสาณสูตร มารกลิ้งศิลาขู่พระพุทธเจ้า
[เล่มที่ 25] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้า 30
ทุติยวรรคที่ ๒
๑. ปาสาณสูตร
มารกลิ้งศิลาขู่พระพุทธเจ้า
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 25]
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้า 30
ทุติยวรรคที่ ๒
๑. ปาสาณสูตร
มารกลิ้งศิลาขู่พระพุทธเจ้า
[๔๔๖] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับ อยู่ ณ ภูเขาคิชฌกูฏ กรุงราชคฤห์.
ก็สมัยนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับนั่งในที่แจ้ง ในเวลากลางคืน เดือนมืด และฝนกำลังตกประปรายอยู่.
[๔๔๗] ครั้งนั้นแล มารผู้มีบาปต้องการจะยังความกลัว ความหวาดเสียว ขนพองสยองเกล้า ให้เกิดขึ้นแก่พระผู้มีพระภาคเจ้า จึงเข้าไป ณ ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ครั้นแล้ว กลิ้งศิลาก้อนใหญ่ๆ ไปใกล้พระผู้มีพระภาคเจ้า.
[๔๔๘] ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบว่า นี่มารผู้มีบาป จึงตรัสสำทับกะมารผู้มีบาปด้วยพระคาถาว่า
แม้ถึงว่าท่านจะพึงกลิ้งภูเขาคิชฌกูฏหมดทั้งสิ้น ความหวั่นไหวก็จะไม่มีแก่พระพุทธเจ้าทั้งหลายผู้หลุดพ้นแล้วโดยชอบแน่แท้.
ลำดับนั้น มารผู้มีบาปเป็นทุกข์เสียใจว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรู้จักเรา พระสุคตทรงรู้จักเรา ดังนี้ จึงได้หายไปในที่นั้นเอง.
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้า 31
ทุติยวรรคที่ ๒
อรรถกถาปาสาณสูตร
พึงทราบวินิจฉัยในปาสาณสูตรที่ ๑ วรรคที่ ๒ ต่อไป :-
บทว่า นิสินฺโน ได้แก่ ประทับนั่ง กำหนดความเพียรตามนัยที่กล่าวไว้แล้วในสูตรต้นๆ นั่นแล. แม้มารก็รู้ว่า พระผู้มีพระภาคเจ้านั้นประทับนั่งสบาย จึงเข้าไปเฝ้าด้วยหมายจะแกล้ง. บทว่า ปคฺคเฬสิ ความว่า มารยืนที่หลังเขา แงะก้อนหิน ก้อนหินทั้งหลายก็ตกกระทบกันไม่ขาดสาย.บทว่า เกวลํ แปลว่า ทั้งสิ้น. แม้ทั้งหมดก็เป็นไวพจน์ของคำว่า เกวลํ นั้นนั่นแล.
จบอรรถกถาปาสาณสูตรที่ ๑