ไม่ชอบใครบ้างหรือเปล่า มีเมตตาได้ไหม
หทเย นิเธตพฺพยุตฺตกํ
(ข้อความที่ควรเก็บไว้ในหทัย)
[๕๒๔]
ไม่ชอบใครบ้างหรือเปล่า มีเมตตาได้ไหม
เกิดมาก็เป็นผลของกรรมหนึ่งที่ได้กระทำแล้ว สุขทุกข์เรื่อยมาโดยตลอด และก็จากโลกนี้ไปโดยไม่เหลืออะไรเลย สุขก็หมดไป ทุกข์ก็หมดไป ความจริงก็ไม่รู้เป็นอย่างไร? เกิดมาเปล่าๆ จริงๆ ใช่ไหม? คือเกิดมาเห็นเปล่า คือหมดแล้ว เกิดมาได้ยินเปล่าอีก คือหมดแล้ว เกิดมาสุขอีกก็เปล่าอีก คือหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นภพไหนในสังสารวัฏฏ์ จนกระทั่งถึงอรูปพรหมชั้นสูง ภวัคคพรหม ก็คือเปล่าไม่รู้ความจริง เกิดมาแล้วก็หมดไป จะใช้คำว่า “เปล่า” ได้ไหม ในเมื่อขณะนั้นหมดแล้วไม่เหลือ แต่ก็มีสภาพธรรมซึ่งไม่ใช่เราเลย เกิดขึ้นสืบต่อตามเหตุตามปัจจัย สุขบ้าง ทุกข์บ้าง แล้วแต่ว่าจะเกิดในกาลไหน ก็เป็นเรื่องซึ่งอยู่ที่ว่า ถ้ามีโอกาสได้เห็นประโยชน์ ได้ฟังธรรมและรู้ว่าเป็นความจริง ก็ฟังเพื่อที่จะได้มีความมั่นคงในขั้นของการฟัง เพราะเหตุว่าถ้ามีความเข้าใจจริงๆ จะละความต้องการ แม้แต่ที่ต้องการจะดับกิเลส เพราะเหตุว่ายิ่งฟังยิ่งรู้ว่า ถ้าขณะนี้ไม่ใช่การเข้าใจถูกเห็นถูกในลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ จะดับกิเลสอะไรกิเลสเยอะเหลือเกินวันนี้ ไม่ชอบคนนั้นหรือเปล่า? ลองดูไม่ชอบใครบ้างหรือเปล่า แค่นี้ยอมสละความไม่ชอบไหม เพราะว่าเป็นอกุศลมีเมตตาได้ไหม เป็นเพื่อนมีความหวังดีพร้อมที่จะเกื้อกูลเป็นประโยชน์
เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่าการศึกษาธรรมเพื่อรู้จักตัวเอง ที่เคยเข้าใจว่ามีตัวจริงๆ ให้รู้ว่ามีธรรมที่เป็นกุศลและอกุศล และปัญญาก็จะเห็นเองว่า อกุศลมีโทษ และกุศลไม่ได้มีโทษอย่างอกุศลเลย เพราะฉะนั้นถ้ามีความเห็นถูก ปัญญาก็จะค่อยๆ เจริญขึ้น และรู้ลักษณะของสภาพธรรม เพราะว่ากุศลมีหลายขั้นด้วย กุศลขั้นทาน ขั้นศีล ขั้นความสงบ ก็ไม่สามารถที่จะออกจากสังสารวัฏฏ์ได้ แต่ปัญญาที่ค่อยๆ อบรม ค่อยๆ เห็นถูกเข้าใจถูกก็จะเจริญขึ้น จนถึงกาลที่สามารถที่จะฟังพระธรรมคำไหน ก็เข้าใจในความหมายนั้น เพราะว่าได้เข้าใจจากขั้นการฟังและการอบรมรู้จักตัวจริงๆ ของธรรม
กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... เก็บไว้ในหทัย