๒. ทุติยเทวสูตร ว่าด้วยวัตรบท ๗
[เล่มที่ 25] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้า 492
๒. ทุติยเทวสูตร
ว่าด้วยวัตรบท ๗
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 25]
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้า 492
๒. ทุติยเทวสูตร
ว่าด้วยวัตรบท ๗
[๙๐๘] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี ในกาลครั้งนั้นแล ฯลฯ
[๙๐๙] พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ท้าวสักกะจอมเทพเมื่อยังเป็นมนุษย์อยู่ในกาลก่อน เป็นมาณพชื่อว่ามฆะ เพราะเหตุนั้น จึงเรียกว่า ท้าวมฆวา ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ท้าวสักกะจอมเทพเมื่อยังเป็นมนุษย์อยู่ในกาลก่อนได้ให้ทานมาก่อน เพราะเหตุนั้น จึงเรียกว่า ท้าวปุรินททะ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ท้าวสักกะจอมเทพเมื่อยังเป็นมนุษย์อยู่ในกาลก่อนได้ให้ทานโดยเคารพ เพราะเหตุนั้น จึงเรียกว่า ท้าวสักกะ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ท้าวสักกะจอมเทพเมื่อยังเป็นอยู่ในกาลก่อน ได้ให้ที่พักอาศัยเพราะเหตุนั้น จึงเรียกว่า ท้าววาสวะ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ท้าวสักกะจอมเทพย่อมทรงคิดเนื้อความได้ตั้งพันโดยครู่เดียว เพราะเหตุนั้น จึงเรียกว่า ท้าวสหัสนัยน์ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ท้าวสักกะจอมเทพทรงมีนางอสุรกัญญานามว่า สุชาเป็นปชาบดี เพราะเหตุนั้น จึงเรียกว่า ท้าวสุชัมบดี ดูก่อนภิกษุทั้งหลายท้าวสักกะจอมเทพเสวยรัชสมบัติเป็นอิสราธิบดีของทวยเทพชั้นดาวดึงส์ เพราะเหตุนั้น จึงเรียกว่า เทวานมินทะ.
[๙๑๐] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ท้าวสักกะจอมเทพเมื่อยังเป็นมนุษย์อยู่ในกาลก่อน ได้สมาทานวัตรบท ๗ ประการบริบูรณ์ เพราะเป็นผู้สมาทานวัตรบท ๗ ประการบริบูรณ์ จึงได้ถึงความเป็นท้าวสักกะ วัตรบท ๗ ประการเป็นไฉน คือเราพึงเลี้ยงมารดาบิดาจนตลอดชีวิต ๑ ฯลฯ ถ้าแม้ความโกรธพึง
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้า 493
เกิดขึ้นแก่เรา เราพึงกำจัดมันเสียโดยฉับพลันทีเดียว ๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ท้าวสักกะจอมเทพเมื่อยังเป็นมนุษย์อยู่ในกาลก่อน ได้สมาทานวัตรบท ๗ ประการนี้บริบูรณ์ เพราะเป็นผู้สมาทานวัตรบท ๗ ประการ ดังนี้ จึงได้ถึงความเป็นท้าวสักกะ.
[๙๑๑] พระผู้มีพระภาคเจ้า ฯลฯ จึงได้ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า
เทวดาชั้นดาวดึงส์กล่าวนรชนผู้เป็นบุคคลเลี้ยงมารดาบิดา...ว่าเป็น สัปบุรุษดังนี้.
อรรถกถาทุติยเทวสูตร
พึงทราบวินิจฉัยในทุติยเทวสูตรที่ ๒ ต่อไปนี้ :-
บทว่า มนุสฺสภูโต ได้แก่ มฆมาณพเป็นมนุษย์ในหมู่บ้านอจลคามแคว้นมคธ. บทว่า อาวสถํ อทาสิ ความว่า มฆมาณพได้สร้างที่พักให้แก่มหาชนในทางสี่แพร่ง. บทว่า สหสฺสมฺปิ อตฺถานํ ได้แก่ เหตุแม้พันหนึ่ง. หรือว่าเมื่อคำพูดพันคำรวมลงด้วยคนพันคน ท้าวสักกะจอมเทพตั้งอยู่ในบทเดียววินิจฉัยว่า นี้ ประโยชน์ของชนนี้ นี้ประโยชน์ของชนนี้.
จบ อรรถกถาทุติยเทวสูตรที่ ๒