วัตถุมงคล เรื่องของเดียรถีย์ในวัด
บันทึกบางตอน จากการสนทนาพระสูตรออนไลน์วันเสาร์ที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓ ณ มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา
อ.วิชัย ถ้าวัดไม่มีวัตถุมงคล แล้วควรจะมีอะไรครับ
อ.สุจินต์ วัดคืออะไร
อ.วิชัย ที่อยู่ของภิกษุ
อ.สุจินต์ อยู่ทำไม ไปอยู่ที่วัด ทำไมไม่อยู่บ้าน
อ.วิชัย ก็บวชเป็นภิกษุแล้ว ก็อยู่บ้านไม่ได้
อ.สุจินต์ เพื่ออะไร ไม่อยู่บ้าน ไปอยู่วัดเพื่ออะไร
อ.วิชัย เพื่อศึกษาและประพฤติตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
อ.สุจินต์ แล้วจะมีวัตถุมงคลไหม?
อ.วิชัย ถ้าเข้าใจแล้วก็ไม่มี มีไม่ได้
อ.สุจินต์ เพราะฉะนั้น เมื่อมีวัตถุมงคล หมายความว่าอะไร
อ.วิชัย ที่นั่นก็ไม่ใช่วัด
อ.สุจินต์ หมายความว่า ไม่ได้เข้าใจธรรมะ
อ.อรรณพ กลายเป็นที่อยู่ของผู้ที่ไม่ได้เป็นบรรพชิต
อ.สุจินต์ แล้วใช้คำว่ามงคลได้อย่างไร
อ.อรรณพ ก่อนที่เราจะสนทนาจบในช่วงแรก ก็สนทนากันตามความเป็นจริง แต่ถ้าผู้ที่เขาฟัง เขาอาจจะรู้สึกว่า ทำไมถึงได้กล่าวเช่นนั้น ก็สนทนากับอาจารย์คำปั่นว่า ผู้ใดที่ทำวัตถุมงคล ผู้นั้นไม่ใช่ชาวพุทธ ผู้นั้นเป็นเดียรถีย์ ถูกต้องไหม?
อ.คำปั่น ถูกต้องครับ
อ.อรรณพ และถ้าจะเสริม เพิ่มเติมจากที่อาจารย์วิชัยสนทนากับท่านอาจารย์เรื่องวัด เพราะฉะนั้น วัดที่ควรจะเป็นที่อยู่ของบรรพชิต เพื่อศึกษา ประพฤติตามพระธรรมวินัย ก็กลายเป็นว่า วัด ถ้าเป็นที่อยู่ของผู้ที่ครองเพศบรรพชิต แต่ไม่ได้เป็นบรรพชิต แต่ทำเครื่องรางของขลัง เป็นเดียรถีย์ ก็กลายเป็นว่า วัดก็จะกลายเป็นที่อยู่ของเดียรถีย์ไป หรืออย่างไร?
อ.คำปั่น ก็เป็นอย่างนั้นเลยครับ เพราะว่า ไม่ใช่ผู้ที่มีความเข้าใจในพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แม้ว่าจะบวช แต่ว่ามีพฤติกรรมที่ขัดแย้ง หรือว่า ตรงกันข้ามกันกับความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็คือไม่ใช่ผู้ที่เคารพในคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ว่ามีความเห็นอื่น มีความเชื่อในฝักฝ่ายอื่น ถ้าใส่ชื่อ ก็คือ เดียรถีย์ ก็คือผู้ที่ไปสู่ทางอื่น ไปสู่ท่าอื่น ที่ไม่ใช่คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ติดตามบันทึกการสนทนาต้นฉบับได้ที่ลิงก์ด้านล่าง