สัตว์เดรัจฉานมีจิต เจตสิกหรือไม่
๑. สัตว์นรก เปรต สัตว์เดรัจฉาน มนุษย์ เทวดา พรหม มี จิต เจตสิก รูป
๒. ถ้าสัตว์เดรัจฉาน มีกุศลจิต เว้นการเบียดเบียนสัตว์อื่น ช่วยเหลือสัตว์อื่น ขณะนั้นเป็นบุญ
ในเมื่อสัตว์ มีจิต เจตสิก ก็ต้องมีจิตที่เป็นกุศลหรืออกุศล ครับ
ขอยกข้อความในกุศลจิตของสัตว์ครับ
... เชิญคลิกอ่าน ...
เรื่อง กุศลจิตของสัตว์
ว่าด้วยผลแห่งการทอดตนเป็นสะพาน [ตรณิยเถราปทานที่ ๘]
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
๑. ในการให้อาหารแก่สุนัข และการให้อาหารแก่คน มีความแตกต่างกันในเรื่องจิตที่เป็นกุศลของผู้ให้อย่างไรบ้าง? และจะมีผลผูกพันธ์ต่อกันทั้งสุนัขและคนที่ได้รับอาหาร ในภพหน้าอย่างไรหรือไม่คะ? บางคนบอกว่าไม่ควรให้อาหารแก่สัตว์ เพราะว่าไม่ต้องการการผูกพันในภพใหม่อีก และการทำทานนั้นควรทำทานต่อผู้มีภูมิธรรมสูงดีกว่า
๒. การพิจารณาสภาพธรรมะที่ปรากฏ เช่น เห็นสัตว์ตายและคนตาย ว่าเป็นธรรมดาของสัตว์โลก ย่อมเป็นไปตามกรรม และมีความไม่เที่ยงเหมือนกัน ถูกต้องหรือไม่คะ?
ไม่ว่าจะให้กับใคร จิตของผู้ให้ย่อมต่างกันได้ครับ ตามการสะสมมาของแต่ละบุคคล หมายความว่า บางคนมีศรัทธาที่จะชอบให้กับคนมากกว่า จิตก็จะประณีตหรือเกิดโสมนัสมากกว่าให้กับสัตว์ หรือบางคนชอบให้กับสัตว์มากกว่า (สะสมมา) จิตที่เป็นกุศลก็อาจจะโสมนัสมากกว่าให้กับคน นี่เป็นเหตุผลประการหนึ่งครับ
แต่ตามที่คุณกล่าวมา เรื่อง สัตว์กับมนุษย์นั้น จะต่างกันอีกประการหนึ่งคือ วิบากหรือผลของกรรมที่ทำกับมนุษย์และสัตว์ ผลวิบากไม่เท่ากันครับ เพราะมนุษย์ มีคุณมากกว่าสัตว์ มนุษย์เกิดด้วยเหตุที่ดี ที่เป็นกุศล ส่วนสัตว์เกิดด้วยเหตุที่ไม่ดีคืออกุศลที่ทำไว้ ผลของกรรมจึงให้ผลไม่เท่ากัน ครับ
เรื่อง ให้ทานกับมนุษย์มีผลมากกว่าให้ทานกับสัตว์
... เชิญคลิกอ่าน ...
ให้ทานกับมนุษย์มีผลมากกว่าให้ทานกับสัตว์ [ทักขิณาวิภังคสูตร]
และจะมีผลผูกพันต่อกันทั้งสุนัขและคนที่ได้รับอาหาร ในภพหน้าอย่างไรหรือไม่
ถ้าในภพนี้ ก็ผูกพันกันแน่นอนครับ เพราะเกื้อกูลกันในปัจจุบัน ส่วนภพหน้า จะผูกพันก็ด้วยเคยอยู่ร่วมกันในกาลก่อน หรือตั้งความปรารถนาในชาตินี้ด้วยการทำบุญว่าจะอยู่ร่วมกันในชาติหน้า เรื่อง ความรักย่อมเกิดขึ้นเพราะ ...
... เชิญคลิกอ่าน ...
ความรักย่อมเกิดเพราะอาศัยเหตุ ๒ ประการ [เรื่องนายพรานกุกกุฏมิตร]
เรื่อง การอยู่ร่วมกันในภพหน้า เพราะทำบุญแล้วปรารถนาอยู่ร่วมกัน
... เชิญคลิกอ่าน ...
๒. การพิจารณาสภาพธรรมะที่ปรากฏ เช่น เห็นสัตว์ตาย และคนตาย ว่าเป็นธรรมดาของสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม และมีความไม่เที่ยงเหมือนกัน ถูกต้องหรือไม่
ความเป็นจริงสังขารทั้งหลายไม่เที่ยง และก็มีกรรมเป็นของๆ ตน เป็นความถูกต้องในขั้นคิดนึก แต่ปัญญามีหลายระดับ การประจักษ์ความไม่เที่ยง ต้องเป็นปัญญาระดับสูงครับ แต่จากการที่กล่าวว่า ธรรมที่ปรากฎไม่เที่ยง ดังนั้น จึงไม่มีสัตว์ แต่มีแต่ธรรมที่ปรากฏ ไม่เที่ยง ขณะนี้อะไร เป็นธัมมะ และไม่ต้องรอให้แก่ จึงบอกว่าไม่เที่ยง ขณะนี้อะไรไม่เที่ยง ก็ต้องเป็นธัมมะ แล้วธัมมะอะไรไม่เที่ยง ก็ต้องรู้เสียก่อนว่าธัมมะคือ อะไรครับ หรือที่กล่าวว่าสัตว์เป็นไปตามกรรม กรรมคืออะไร เป็นไปตามกรรมอย่างไร หมายความว่า กรรมคือ เจตนาที่เป็นไปในทางที่ดีหรือไม่ดี เมื่อทำกรรม ถามว่าใครทำ สัตว์หรือธรรมทำกรรม ก็ต้องเป็นธรรม (อนัตตา) คือจิตนั่นเองที่เป็นกุศลหรืออกุศลมีเจตนาที่จะทำกรรม เมื่อทำกรรมดีหรือไม่ดี ก็ต้องได้รับผลของกรรม (ตามที่กล่าวว่าสัตว์ย่อมเป็นไปตามกรรม) และก็ต้องรู้ว่า ขณะที่ได้รับผลของกรรมคือ ขณะไหน ตอนโดนรถชนหรือหรือได้รถคันใหม่ หรือว่าขณะนี้ก็ได้รับผลของกรรมอยู่ ขณะที่เห็นสิ่งที่ดี ไม่ดี คือผลของกรรม ขณะที่ได้ยิน สิ่งที่ดี ไม่ดี เป็นผลของกรรมครับ ดังนั้น สัตว์ทั้งหลายย่อมเป็นไปตามกรรม ด้วยอธิบายมา ครับ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย