โทษเสมอด้วยโทสะ ย่อมไม่มี
[เล่มที่ 42] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓
นตฺถิ ราคสโน อคฺคิ นตฺถิ โทสสโม กลิ นตฺถิ ขนฺธาทิสา ทุกฺขา นตฺถิ สนฺติปรํ สุขํ
"ไฟเสมอด้วยราคะ ย่อมไม่มี โทษเสมอด้วย โทสะ ย่อมไม่มี ทุกข์ทั้งหลายเสมอด้วยขันธ์ ย่อมไม่มี สุขอื่นจากความสงบ ย่อมไม่มี"
[เล่มที่ 37] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ - หน้าที่ 206
ข้อความบางตอนจาก
โกธนาสูตร
คนโกรธมีผิวพรรณทราม ย่อมนอนเป็นทุกข์ ถือเอาสิ่งที่เป็นประโยชน์แล้ว กลับปฏิบัติ สิ่งอันไม่เป็นประโยชน์ ทำปาณาติบาตด้วยกาย และวาจา ย่อมถึงความเสื่อมทรัพย์ ผู้มัวเมา เพราะความโกรธ ย่อมถึงความไม่มียศ ญาติมิตร และสหาย ย่อมเว้นคนโกรธเสียห่างไกล คนผู้ โกรธย่อมไม่รู้จักความเจริญ ทำจิตให้กำเริบ ภัยที่เกิดมาจากภายในนั่น คนผู้โกรธย่อมไม่รู้สึก คนโกรธย่อมไม่รู้อรรถ ไม่เห็นธรรม ความโกรธ ย่อมครอบงำนรชนในขณะใด ความมืดตื้อย่อมมี ในขณะนั้น คนผู้โกรธย่อมก่อกรรมที่ทำได้ยาก เหมือนทำได้ง่าย ภายหลังเมื่อหายโกรธแล้ว เขาย่อมเดือดร้อนเหมือนถูกไฟไหม้ คนผู้โกรธย่อม แสดงความแก้ยากก่อน เหมือนไฟแสดงควันก่อน ในกาลใด ความโกรธเกิดขึ้น คนย่อมโกรธ
ในกาลนั้น คนนั้นไม่มีหิริ ไม่มีโอตตัปปปะ และไม่มีความเคารพ คนที่ถูกความโกรธครอบงำย่อม ไม่มีความสว่างแม้แต่น้อยเลย กรรมใดยังห่าง ไกลจากธรรม อันให้เกิดความเดือดร้อน เราจัก บอกกรรมเหล่านั้น เธอทั้งหลายจงฟังธรรมนั้น ไปตามลำดับ คนโกรธฆ่าบิดาก็ได้ ฆ่ามารดาของ ตนก็ได้ ฆ่าพระขีณาสพก็ได้ ฆ่าปุถุชนก็ได้ ลูกที่มารดาเลี้ยงไว้จนได้ลืมตาดูโลกนี้ ลูกเช่นนั้น กิเลสหยาบช้า โกรธขึ้นมาย่อมฆ่าแม้มารดานั้นผู้ ให้ชีวิตความเป็นอยู่ได้ จริงอยู่ สัตว์เหล่านั้นมี ตนเป็นเครื่องเปรียบเทียบ เพราะคนเป็นที่รัก อย่างยิ่ง คนโกรธหมกมุ่นในรูปต่างๆ ย่อมฆ่าตัวเองได้เพราะเหตุต่างๆ ย่อมฆ่าตัวเองด้วยดาบบ้าง กินยาพิษบ้าง เอาเชือกผูกคอตายบ้าง โดดเขาตายบ้าง คนเหล่านั้นเมื่อกระทำกรรมอันมีแต่ความเสื่อม และทำลายตน ก็ไม่รู้สึกความเสื่อม เกิดแต่โกรธ ตามที่กล่าวมานี้ เป็นบ่วงของมัจจุราช มีถ้ำเป็นที่อยู่อาศัย บุคคลผู้มักโกรธ มีการฝึกตน คือปัญญา ความเพียรและสัมมาทิฏฐิ พึงตัดความโกรธนั้นขาดได้ บัณฑิตพึงตัดอกุศลธรรม แต่ละอย่างเสียให้ขาด พึงศึกษาในธรรมเหมือน อย่างนั้น เธอทั้งหลายปรารถนาอยู่ว่า ขอความ เป็นผู้ปราศจากความโกรธ ไม่มีความคับแค้นใจ ปราศจากความโลภ ไม่มีความริษยา ฝึกฝนตน แล้ว ละความโกรธได้ เป็นผู้ไม่มีอาสวะ จักปรินิพพาน
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย