๗. คัททูลสูตรที่ ๑ ว่าด้วยอุปมาขันธ์ ๕ ด้วยเสาล่ามสุนัข
[เล่มที่ 27] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เล่ม ๓ - หน้า 339
๗. คัททูลสูตรที่ ๑
ว่าด้วยอุปมาขันธ์ ๕ ด้วยเสาล่ามสุนัข
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 27]
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เล่ม ๓ - หน้า 339
๗. คัททูลสูตรที่ ๑
ว่าด้วยอุปมาขันธ์ ๕ ด้วยเสาล่ามสุนัข
[๒๕๖] กรุงสาวัตถี. ในพระเชตวันวิหาร. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สงสารนี้ มีที่สุดเบื้องต้น
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เล่ม ๓ - หน้า 340
ที่ใครๆ ตามไปรู้ไม่ได้แล้ว เงื่อนต้น (ของสงสาร) ไม่ปรากฏสำหรับสัตว์ทั้งหลาย ผู้มีอวิชชาเป็นเครื่องกางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูกไว้ ท่องเที่ยวไปมาอยู่.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สมัยที่มหาสมุทรเหือดแห้ง ไม่มีน้ำ ยังมีอยู่ แต่เราตถาคตไม่กล่าวว่า สัตว์ทั้งหลาย ผู้มีอวิชชาเป็นเครื่องกางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูกไว้ ท่องเที่ยวไปมาอยู่ จะกระทำที่สุดแห่งทุกข์ได้เลย.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สมัยที่ภูเขาสิเนรุราชถูกไฟไหม้พินาศไป ไม่ปรากฏ ยังมีอยู่. แต่เราตถาคตไม่กล่าวว่า สัตว์ทั้งหลาย ผู้มีอวิชชาเป็นเครื่องกางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูกมัด ท่องเที่ยวไปมาอยู่ จะทำที่สุดแห่งทุกข์ได้เลย.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สมัยที่ผืนแผ่นดินใหญ่ถูกไฟไหม้พินาศไป ไม่ปรากฏ ยังมีอยู่. แต่เราตถาคตไม่กล่าวว่า สัตว์ทั้งหลาย ผู้มีอวิชชาเป็นเครื่องกางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูกไว้ ท่องเที่ยวไปมาอยู่ จะทำที่สุดแห่งทุกข์ได้เลย.
[๒๕๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สุนัขที่เขาล่ามเชือกแล้ว ถูกล่ามไว้ที่เสาอันมั่นคง ย่อมวิ่งวนหลักหรือเสานั้นเอง แม้ฉันใด ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ ไม่ได้เห็นพระอริยเจ้า ไม่ฉลาดในอริยธรรม ฯลฯ ไม่ได้รับแนะนำในสัปปุริสธรรม ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ตามเห็นรูปโดยความเป็นอัตตา. ตามเห็นเวทนา ... สัญญา ... สังขาร ... วิญญาณ โดยความเป็นอัตตา ตามเห็น อัตตาว่ามีวิญญาณ ตามเห็นวิญญาณในอัตตา หรือตามเห็นอัตตาในวิญญาณ. เขาจะแล่นวนเวียน รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ อยู่. เมื่อเขาวนเวียน รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ อยู่ ก็จะไม่พ้นจากรูป
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เล่ม ๓ - หน้า 341
จากเวทนา จากสัญญา จากสังขาร จากวิญญาณ จะไม่พ้นจากชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส. เราตถาคตกล่าวว่า เขาจะไม่พ้นไปจากทุกข์.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกผู้ฟังแล้ว ผู้ได้เห็นพระอริยเจ้าทั้งหลาย ฯลฯ ผู้ได้รับแนะนำในธรรมของสัตบุรุษทั้งหลาย จะไม่ตามเห็นรูปโดยเป็นอัตตา. จะไม่ตามเห็นเวทนา ... สัญญา ... สังขาร ... จะไม่ตามเห็นวิญญาณ โดยความเป็นอัตตา ไม่ตามเห็นอัตตาว่ามีวิญญาณ ไม่ตามเห็นวิญญาณในอัตตา ไม่ตามเห็นอัตตาในวิญญาณ เธอจะไม่แล่นวนเวียนรูปอยู่ จะไม่แล่นวนเวียนเวทนา ... สัญญา ... สังขาร ... วิญญาณ อยู่ เธอเมื่อไม่วิ่งวนเวียนรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ อยู่ ก็จะพ้นจากรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ จะพ้นจากชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส เราตถาคตกล่าวว่า เขาจะพ้นไปจากทุกข์.
จบ คัททูลสูตรที่ ๑
อรรถกถาคัททูลสูตรที่ ๑
พึงทราบวินิจฉัย ในคัททูลสูตรที่ ๑ ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า ยํ มหาสมุทฺโท ความว่า ในสมัยใด เมื่อพระอาทิตย์ดวงที่ ๕ อุทัยขึ้น มหาสมุทร (ทะเลหลวง) ก็จักเหือดแห้ง.
บทว่า ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยํ ความว่า เราตถาคตไม่กล่าว (๑) ถึงการกระทำที่สุด คือ การสิ้นสุดแห่งวัฏฏทุกข์ของสัตบุรุษผู้ยังมิได้
(๑) ปาฐะว่า วทามิ ฉบับพม่าเป็น น วทามิ แปลตามฉบับพม่า.
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เล่ม ๓ - หน้า 342
แทงตลอดอริยสัจจ์ ๔ แล้ว ถูกอวิชชาร้อยรัดไว้แล้ว.
บทว่า คทฺทูลพนฺโธ ได้แก่ สุนัขที่ถูกล่ามโซ่.
บทว่า ขีเล คือ ที่เสาใหญ่ที่ยังไม่ได้ตอกลงในแผ่นดิน.
บทว่า ถมฺเภ คือ ที่เสา (เล็ก) ที่ฝังไว้.
ในบทว่า เอวเมว โข นี้ พึงทราบอธิบายดังต่อไปนี้ :-
คนพาลที่อาศัยวัฏฏะ พึงทราบว่า เปรียบเหมือนสุนัข.
ทิฏฐิ พึงทราบว่า เปรียบเหมือนโซ่ตรวน.
สักกายะ พึงทราบว่า เปรียบเหมือนเสา.
การหมุนไปตามสักกายะของปุถุชนผู้ถูกผูกติดไว้ที่กายของตนด้วยทิฏฐิและตัณหา พึงทราบว่า เหมือนการวิ่งวนรอบเสาของสุนัขตัวที่ถูกล่ามโซ่และเชือกไว้ติดกับเสา.
จบ อรรคกถาคัททูลสูตรที่ ๑