พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

๕. พันธนสูตร ว่าด้วยเครื่องจองจํา คือขันธ์ ๕

 
บ้านธัมมะ
วันที่  7 ก.ย. 2564
หมายเลข  36881
อ่าน  415

[เล่มที่ 27] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เล่ม ๓ - หน้า 378

๕. พันธนสูตร

ว่าด้วยเครื่องจองจํา คือขันธ์ ๕


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 27]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 1 ก.พ. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เล่ม ๓ - หน้า 378

๕. พันธนสูตร

ว่าด้วยเครื่องจองจำ คือขันธ์ ๕

[๓๐๔] กรุงสาวัตถี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับแล้วในโลกนี้ ไม่ได้เห็นพระอริยเจ้าทั้งหลาย ฯลฯ ไม่ได้รับแนะนำในสัปปุริสธรรม ย่อมตามเห็นรูปโดยความเป็นอัตตา เห็นอัตตาว่ามีรูป เห็นรูปในอัตตา หรือเห็นอัตตาในรูป ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่า ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับแล้ว เป็นผู้ถูกเครื่องจำคือรูปจำไว้แล้ว เป็นผู้ถูกเครื่องจำทั้งภายในทั้งภายนอกจำไว้แล้ว เป็นผู้มองไม่เห็นฝั่งนี้ เป็นผู้มองไม่เห็นฝั่งโน้น ย่อมแก่ทั้งๆ ที่ถูกจำ ย่อมตายทั้งๆ ที่ถูกจำ

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 1 ก.พ. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เล่ม ๓ - หน้า 379

ย่อมไปจากโลกนี้สู่โลกหน้าทั้งๆ ที่ถูกจำ ย่อมตามเห็นเวทนา ... ตาม เห็นสัญญา ... ตามเห็นสังขาร ... ตามเห็นวิญญาณโดยความเป็นอัตตา เห็นอัตตาว่ามีวิญญาณ เห็นวิญญาณในอัตตา หรือเห็นอัตตาในวิญญาณ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่า ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับแล้ว เป็นผู้ถูกเครื่องจำคือ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณจำไว้แล้ว เป็นผู้ถูกเครื่องจำทั้งภายในทั้งภายนอกจำไว้แล้ว เป็นผู้มองไม่เห็นฝั่งนี้ เป็นผู้มองไม่เห็นฝั่งโน้น ย่อมแก่ทั้งๆ ที่ถูกจำ ย่อมตายทั้งๆ ที่ถูกจำ ย่อมไปจากโลกนี้สู่โลกหน้าทั้งๆ ที่ถูกจำ.

[๓๐๕] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ส่วนอริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว ได้เห็นพระอริยเจ้าทั้งหลาย ฯลฯ ได้รับแนะนำดีแล้วในสัปปุริสธรรม ย่อมไม่พิจารณาเห็นรูปโดยความเป็นอัตตา ไม่เห็นอัตตาว่ามีรูป ไม่เห็นรูปในอัตตา หรือไม่เห็นอัตตาในรูป ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่าอริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว ไม่เป็นผู้ถูกเครื่องจำ คือ รูปจำไว้แล้ว ไม่เป็นผู้ถูกเครื่องจำทั้งภายในภายนอกจำไว้ เป็นผู้มองเห็นฝั่งนี้ เป็นผู้มองเห็นฝั่งโน้น เราตถาคตกล่าวว่า ภิกษุนั้นพ้นแล้วจากทุกข์ ย่อมไม่พิจารณาเห็นเวทนา ... สัญญา ... สังขาร ... วิญญาณ โดยความ เป็นอัตตา ไม่เห็นอัตตาว่ามีวิญญาณ ไม่เห็นวิญญาณในอัตตา ไม่เห็น อัตตาในวิญญาณ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่า อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว ไม่เป็นผู้ถูกเครื่องจำ คือ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ จำไว้ ไม่เป็นผู้ถูกเครื่องจำทั้งภายในภายนอกจำไว้ เป็นผู้มองเห็นฝั่งนี้ เป็นผู้มองเห็นฝั่งโน้น เราตถาคตกล่าวว่า ภิกษุนั้นพ้นแล้วจากทุกข์.

จบ พันธนสูตรที่ ๕

 
  ข้อความที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 1 ก.พ. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เล่ม ๓ - หน้า 380

อรรถกถาพันธนสูตรที่ ๕

พึงทราบวินิจฉัยในพันธนสูตรที่ ๕ ดังต่อไปนี้ :-

บทว่า อตีรทฺสสี ความว่า วัฏฏะ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกว่าฝั่ง (ใน) ปุถุชนมองไม่เห็นฝั่งนั้น.

บทว่า อปารทสฺสี ความว่า นิพพาน พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกว่าฝั่ง (นอก) ปุถุชนมองไม่เห็นฝั่งนั้น.

บทว่า พนฺโธ ความว่า (ปุถุชน) เป็นผู้ถูกผูกด้วยกิเลส จึงเกิด แก่ ตาย และจากโลกนี้ไปสู่โลกอื่น.

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสวัฏฏทุกข์ไว้ในสูตรนี้แล.

จบ อรรถกถาพันธนสูตรที่ ๕