ผู้สำเร็จฌานในสมัยก่อนหรือหลังพุทธกาล ... ?

 
pornchai.s
วันที่  12 พ.ค. 2550
หมายเลข  3689
อ่าน  2,037

ผู้สำเร็จฌานในสมัยก่อนหรือหลังพุทธกาลก็ดี ที่ไม่ได้บรรลุมรรคผล สมาธิของท่านเป็นสัมมาสมาธิ ใช่หรือไม่

ในสมัยนั้นเป็นสมัยของผู้ที่มีบารมีอบรมมาที่จะได้ฌานสมาบัติและมรรคผล ประกอบกันมากมาย เป็นสมัยของผู้ที่เป็นเอตทัคคะในด้านต่างๆ ที่ได้ฟังพระธรรมจากพระโอษฐ์ทีเดียว สมาธิของท่านเหล่านั้นจึงเป็นสัมมาสมาธิ เพราะเหตุว่าไม่ใช่อกุศลจิต ส่วนผู้ที่ทำสมาธิแล้วปัญญาไม่เกิด จึงไม่ใช่มหากุศลญาณสัมปยุตต์ตั้งแต่ต้น ก็เป็นอกุศลไปโดยตลอดทีเดียว แล้วก็ยังมีความเข้าใจผิด อาจจะคิดว่าตนเองบรรลุฌานขั้นต่างๆ อีกด้วย นี่เป็นเรื่องที่ควรพิจารณาจริงๆ นะคะ ว่า ถ้ายังไม่เข้าใจว่ามิจฉาสมาธิคืออะไร ถ้าทำไป ก็ต้องเป็นมิจฉาสมาธิทั้งหมดค่ะ จนกว่าจะตอบได้ว่าอย่างไรคือมิจฉาสมาธิ เมื่อรู้จักมิจฉาสมาธิ ก็หมายความว่าสิ่งที่จะทำนั้นไม่ใช่มิจฉาสมาธิ เพราะเหตุว่าถ้ารู้ว่ามิจฉาสมาธิ คือ อย่างนั้นๆ ก็ต้องรู้ว่าสัมมาสมาธิต้องต่างกับอย่างนั้นๆ ค่ะ

บางตอน จาก รายการแนวทางเจริญวิปัสสนา


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
wannee.s
วันที่ 12 พ.ค. 2550

ผู้ที่จะเจริญสมถภาวนา ถ้าขั้นต้นยังไม่รู้ว่าจิตขณะไหนเป็นกุศล จิตขณะไหนเป็นอกุศลและไม่รู้ว่าหลงลืมสติกับมีสติต่างกันอย่างไร ก็ไม่สามารถเจริญสมถภาวนาได้ค่ะ และถ้าเจริญผิดเสียเวลาเปล่าๆ ชาตินี้เหลือชีวิตอยู่อีกไม่นาน อบรมเจริญสติปัฏฐานซึ่งเป็นปัญญาดีกว่า เพราะสามารถดับกิเลสได้ในวันหนึ่งค่ะ ถ้าเหตุปัจจัยพร้อมค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 12 พ.ค. 2550

บุคคลที่จะบรรลุ พร้อมด้วยการอบรมสมถภาวนา เป็นเรื่องยากมากๆ ดังนั้น การเข้าใจเรื่องการอบรมสติปัฏฐานให้ถูกต้อง จึงเป็นพื้นฐานสำคัญในการจะบรรลุธรรม ซึ่งเมื่อเข้าใจสติปัฏฐานแล้ว ก็ไม่มีอะไรที่จะพ้นไปจากการอบรมสติปัฏฐาน เพราะทุกอย่างเป็นธัมมะ สมาธิก็เป็นธัมมะซึ่งสติสามารถระลึกได้ แต่ถ้าไม่เข้าใจสติปัฏฐานแล้ว จะอบรมสมถภาวนา จนได้ฌาณก็ไม่สามารถดับกิเลสได้ หรือจะกล่าวอ้างว่า ต้องมีฌานเป็นบาทในการเจริญวิปัสสนา ผู้ที่จะมีฌานเป็นบาท (อารมณ์) ในการอบรมวิปัสสนนา ต้องเข้าใจสติปัฏฐานก่อนครับ และที่สำคัญขณะที่เลือกจะเอาฌาณเป็นบาท ขณะนั้นก็ลืมความเป็นอนัตตาของสติ ครับ ดังนั้น การอบรมสมถภาวนาจนได้ฌานและบรรลุธรรมเป็นเรื่องยากมากครับ ดังจะแสดงข้อความครับ เรื่อง บุคคลที่บรรลุแล้วได้ฌาณด้วย มีน้อย บรรลุแล้วไม่ได้ฌานมีมากกว่า

พระสุตตันตปิฎก เอกนิบาต-ทุกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ 206

สัตว์ที่กระทำนิพพานให้เป็นอารมณ์แล้วได้สมาธิ ได้เอกัคคตาจิต มีเป็นส่วนน้อย สัตว์ที่กระทำนิพพานให้เป็นอารมณ์แล้ว ไม่ได้สมาธิไม่ได้เอกัคคตาจิต มากกว่าโดยแท้

ดังนั้น ในยุคปัจจุบัน เราควรอบรมวิปัสสนา (สติปัฏฐาน) ให้เข้าใจให้ถูก ยุคนี้ปัญญาน้อย จะให้ได้ฌานด้วยก็ไม่ใช่ฐานะครับ

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
อิสระ
วันที่ 13 พ.ค. 2550

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
หนวดเต่า
วันที่ 13 พ.ค. 2550

ขออนุโมทนาด้วยคนครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 26 เม.ย. 2567

ยินดีในกุศลจิตค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ