พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

๑๐. สัปปายการีสูตร

 
บ้านธัมมะ
วันที่  9 ก.ย. 2564
หมายเลข  37111
อ่าน  469

[เล่มที่ 27] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เล่ม ๓ - หน้า 606

๑๐. สัปปายการีสูตร


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 27]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 2 ก.พ. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เล่ม ๓ - หน้า 606

๑๐. สัปปายการีสูตร

[๕๙๕] กรุงสาวัตถี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้ได้ฌาน ๔ จำพวกนี้ ๔ จำพวกเป็นไฉน? คือ ผู้ได้ฌานบางคนในโลกนี้เป็นผู้ฉลาดในการตั้งจิตมั่นในสมาธิ แต่ไม่กระทำความสบายในสมาธิ ๑ บางคนกระทำ

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 2 ก.พ. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เล่ม ๓ - หน้า 607

ความสบายในสมาธิ แต่ไม่ฉลาดในการตั้งจิตมั่นในสมาธิ ๑ บางคนไม่ฉลาดในการตั้งจิตมั่นในสมาธิและไม่กระทำความสบายในสมาธิ ๑ บางคนฉลาดในการตั้งจิตมั่นในสมาธิและกระทำความสบายในสมาธิ ๑ ใน ๔ จำพวกนั้น ผู้ได้ฌานที่ฉลาดในการตั้งจิตมั่นในสมาธิและกระทำความสบายในสมาธินับว่าเป็นเลิศ ประเสริฐที่สุด เป็นประธานสูงสุดและดีกว่าผู้ได้ฌานทั้ง ๔ จำพวกนั้น เปรียบเหมือนนมสดเกิดจากแม่โค นมส้มเกิดจากนมสด ฯลฯ.

[๕๙๖] กรุงสาวัตถี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้ได้ฌาน ๔ จำพวกนี้ ๔ จำพวกเป็นไฉน? คือ ผู้ได้ฌานบางคนในโลกนี้เป็นผู้ฉลาดในการเข้าสมาธิ แต่ไม่ฉลาดในการตั้งอยู่ในสมาธิ ๑ บางคนฉลาดในการตั้งอยู่ในสมาธิ แต่ไม่ฉลาดในการเข้าสมาธิ ๑ บางคนไม่ฉลาดในการเข้าสมาธิและไม่ฉลาดในการตั้งอยู่ในสมาธิ ๑ บางคนฉลาดในการเข้าสมาธิและฉลาดในการตั้งอยู่ในสมาธิ ๑ ใน ๔ จำพวกนั้น ผู้ได้ฌานที่ฉลาดในการเข้าสมาธิและที่ฉลาดในการตั้งอยู่ในสมาธินับว่าเป็นเลิศ ประเสริฐที่สุด เป็นประธานสูงสุดและดีกว่าผู้ได้ฌานทั้ง ๔ จำพวกนั้น เปรียบเหมือนนมสดเกิดจากแม่โค นมส้มเกิดจากนมสด ฯลฯ.

[๕๙๗] กรุงสาวัตถี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้ได้ฌาน ๔ จำพวกนี้ ๔ จำพวกเป็นไฉน? คือ ผู้ได้ฌานบางคนในโลกนี้เป็นผู้ฉลาดในการเข้าสมาธิ แต่ไม่ฉลาดในการออกจากสมาธิ ๑ บางคนฉลาดในการออกจากสมาธิ แต่ไม่ฉลาดในการเข้าสมาธิ ๑ บางคนไม่ฉลาดในการเข้าสมาธิและไม่ฉลาดในการออกจากสมาธิ ๑ บางคนฉลาดในการเข้าสมาธิและฉลาดในการออกจากสมาธิ ๑ ใน ๔ จำพวกนั้น

 
  ข้อความที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 2 ก.พ. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เล่ม ๓ - หน้า 608

ผู้ได้ฌานที่ฉลาดในการเข้าสมาธิและฉลาดในการออกจากสมาธินับว่าเป็นผู้เลิศ ประเสริฐที่สุด เป็นประธานสูงสุดและดีกว่าผู้ได้ฌานทั้ง ๔ จำพวกนั้น เปรียบเหมือนนมสดเกิดจากแม่โค นมส้มเกิดจากนมสด ฯลฯ.

[๕๙๘] กรุงสาวัตถี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้ได้ฌาน ๔ จำพวกนี้ ๔ จำพวกเป็นไฉน คือ ผู้ได้ฌานบางคนในโลกนี้เป็นผู้ฉลาดในการเข้าสมาธิ แต่ไม่ฉลาดในความเป็นผู้ฉลาดในสมาธิ ๑ บางคนฉลาดในความเป็นผู้ฉลาดในสมาธิ แต่ไม่ฉลาดในการเข้าสมาธิ ๑ บางคนไม่ฉลาดในการเข้าสมาธิและไม่ฉลาดในความเป็นผู้ฉลาดในสมาธิ ๑ บางคนฉลาดในการเข้าสมาธิและฉลาดในความเป็นผู้ฉลาดในสมาธิ ๑ ใน ๔ จำพวกนั้น ผู้ได้ฌานที่ฉลาดในการเข้าสมาธิและฉลาดในความเป็นผู้ฉลาดในสมาธินับว่าเป็นผู้เลิศ ประเสริฐที่สุด เป็นประธานสูงสุดและดีกว่าผู้ได้ฌานทั้ง ๔ จำพวกนั้น เปรียบเหมือนนมสดเกิดจากแม่โค นมส้มเกิดจากนมสด ฯลฯ.

[๕๙๙] กรุงสาวัตถี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้ได้ฌาน ๔ จำพวกนี้ ๔ จำพวกเป็นไฉน? คือ ผู้ได้ฌานบางคนในโลกนี้เป็นผู้ฉลาดในการเข้าสมาธิ แต่ไม่ฉลาดในอารมณ์ในสมาธิ ๑ บางคนฉลาดในอารมณ์ในสมาธิ แต่ไม่ฉลาดในการเข้าสมาธิ ๑ บางคนไม่ฉลาดในการเข้าสมาธิและไม่ฉลาดในอารมณ์ในสมาธิ ๑ บางคนฉลาดในการเข้าสมาธิและฉลาดในอารมณ์ในสมาธิ ๑ ใน ๔ จำพวกนั้น ผู้ได้ฌานที่ฉลาดในการเข้าสมาธิและฉลาดในอารมณ์ในสมาธินับว่าเป็นผู้เลิศ ประเสริฐที่สุด เป็นประธานสูงสุดและดีกว่าผู้ได้ฌานทั้ง ๔ จำพวกนั้น เปรียบเหมือนนมสดเกิดจากแม่โค นมส้มเกิดจากนมสด ฯลฯ.

 
  ข้อความที่ 4  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 2 ก.พ. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เล่ม ๓ - หน้า 609

[๖๐๐] กรุงสาวัตถี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้ได้ฌาน ๔ จำพวกนี้ ๔ จำพวกเป็นไฉน? คือ ผู้ได้ฌานบางคนในโลกนี้เป็นผู้ฉลาดในการเข้าสมาธิ แต่ไม่ฉลาดในโคจรในสมาธิ ๑ บางคนฉลาดในโคจรในสมาธิ แต่ไม่ฉลาดการเข้าสมาธิ ๑ บางคนไม่ฉลาดในการเข้าสมาธิและไม่ฉลาดในโคจรในสมาธิ ๑ บางคนฉลาดในการเข้าสมาธิและฉลาดในโคจรในสมาธิ ๑ ใน ๔ จำพวกนั้น ผู้ได้ฌานที่ฉลาดในการเข้าสมาธิและฉลาดในโคจรในสมาธินับว่าเป็นผู้เลิศ ประเสริฐที่สุด เป็นประธานสูงสุดและดีกว่าผู้ได้ฌานทั้ง ๔ จำพวกนั้นเปรียบเหมือนนมสดเกิดจากแม่โค นมส้มเกิดจากนมสด ฯลฯ.

[๖๐๑] กรุงสาวัตถี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้ได้ฌาน ๔ จำพวกนี้ ๔ จำพวกเป็นไฉน? คือ ผู้ได้ฌานบางคนในโลกนี้เป็นผู้ฉลาดในการเข้าสมาธิ แต่ไม่ฉลาดในการบริหารจิตไปในสมาธิ ๑ บางคนฉลาดในการบริหารจิตไปในสมาธิ แต่ไม่ฉลาดในการเข้าสมาธิ ๑ บางคนไม่ฉลาดในการเข้าสมาธิและไม่ฉลาดในการบริหารจิตไปในสมาธิ ๑ บางคนฉลาดในการเข้าสมาธิและฉลาดในการบริหารจิตไปในสมาธิ ๑ ใน ๔ จำพวกนั้น ผู้ได้ฌานที่ฉลาดในการเข้าสมาธิและฉลาดในการบริหารจิตไปในสมาธินับว่าเป็นผู้เลิศ ประเสริฐที่สุด เป็นประธานสูงสุดและดีกว่าผู้ได้ฌานทั้ง ๔ จำพวกนั้น เปรียบเหมือนนมสดเกิดจากแม่โค นมส้มเกิดจากนมสด ฯลฯ.

[๖๐๒] กรุงสาวัตถี. ก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้ได้ฌาน ๔ จำพวกนี้๔ จาพวกเป็นไฉน? คือ ผู้ได้ฌานบางคนในโลกนี้เป็นผู้ฉลาดในการเข้าสมาธิ แต่ไม่กระทำความเคารพในสมาธิ ๑ บางคนกระทำความ

 
  ข้อความที่ 5  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 2 ก.พ. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เล่ม ๓ - หน้า 610

เคารพในสมาธิ แต่ไม่ฉลาดในการเข้าสมาธิ ๑ บางคนไม่ฉลาดในการเข้าสมาธิ และไม่กระทำความเคารพในสมาธิ ๑ บางคนฉลาดในการเข้าสมาธิและกระทำความเคารพในสมาธิ ๑ ใน ๔ จำพวกนั้นผู้ได้ฌานที่ฉลาดในการเข้าสมาธิและกระทำความเคารพในสมาธินับว่าเป็นผู้เลิศ ประเสริฐที่สุด เป็นประธานสูงสุดและดีกว่าผู้ได้ฌาน ๔ จำพวกนั้น เปรียบเหมือนนมสดเกิดจากแม่โค นมส้มเกิดจากนมสด ฯลฯ.

[๖๐๓] กรุงสาวัตถี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้ได้ฌาน ๔ จำพวกนี้ ๔ จำพวกเป็นไฉน? คือ ผู้ได้ฌานบางคนในโลกนี้เป็นผู้ฉลาดในการเข้าสมาธิ แต่ไม่กระทำความเพียรเป็นไปติดต่อในสมาธิ ๑ บางคนกระทำความเพียรเป็นไปติดต่อในสมาธิ แต่ไม่ฉลาดในการเข้าสมาธิ ๑ บางคนไม่ฉลาดในการเข้าสมาธิและไม่กระทำความเพียรเป็นไปติดต่อในสมาธิ ๑ บางคนฉลาดในการเข้าสมาธิและกระทำความเพียรเป็นไปติดต่อในสมาธิ ๑ ใน ๔ จำพวกนั้น ผู้ได้ฌานที่ฉลาดในการเข้าสมาธิและกระทำความเพียรเป็นไปติดต่อในสมาธินับว่าเป็นผู้เลิศ ประเสริฐที่สุด เป็นประธานสูงสุด และดีกว่าผู้ได้ฌานทั้ง ๔ จำพวกนั้น เปรียบเหมือนนมสดเกิดจากแม่โค นมส้มเกิดจากนมสด ฯลฯ.

[๖๐๔] กรุงสาวัตถี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้ได้ฌาน ๔ จำพวกนี้๔ จำพวกเป็นไฉน? คือ ผู้ได้ฌานบางคนในโลกนี้เป็นผู้ฉลาดในการเข้าสมาธิ แต่ไม่กระทำความสบายในสมาธิ ๑ บางคนกระทำความสบายในสมาธิ แต่ไม่ฉลาดในการเข้าสมาธิ ๑ บางคนไม่ฉลาดในการเข้าสมาธิและไม่กระทำความสบายในสมาธิ ๑ บางคนฉลาดในการเข้าสมาธิและกระทำความสบายในสมาธิ ๑ ใน ๔ จำพวกนั้น

 
  ข้อความที่ 6  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 2 ก.พ. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เล่ม ๓ - หน้า 611

ผู้ได้ฌานที่ฉลาดในการเข้าสมาธิและกระทำความสบายในสมาธินับว่าเป็นผู้เลิศ ประเสริฐที่สุด เป็นประธานสูงสุดและดีกว่าผู้ได้ฌานทั้ง ๔ จำพวกนั้น เปรียบเหมือนนมสดเกิดจากแม่โค นมส้มเกิดจากนมสด ฯลฯ.

[๖๐๕] กรุงสาวัตถี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้ได้ฌาน ๔ จำพวกนี้ ๔ จำพวกเป็นไฉน? คือ ผู้ได้ฌานบางคนในโลกนี้เป็นผู้ฉลาดในการตั้งอยู่ในสมาธิ แต่ไม่ฉลาดในการออกในสมาธิ ๑ บางคนฉลาดในการออกในสมาธิ แต่ไม่ฉลาดในการตั้งอยู่ในสมาธิ ๑ บางคนไม่ฉลาดในการตั้งอยู่ในสมาธิและไม่ฉลาดในการออกในสมาธิ ๑ บางคนฉลาดในการตั้งอยู่ในสมาธิและฉลาดในการออกในสมาธิ ๑ ใน ๔ จำพวกนั้น ผู้ได้ฌานที่ฉลาดในการตั้งอยู่ในสมาธิและฉลาดในการออกในสมาธินับว่าเป็นเลิศ ประเสริฐที่สุด เป็นประธานสูงสุดและดีกว่าผู้ได้ฌานทั้ง ๔ จำพวกนั้น เปรียบเหมือนนมสดเกิดจากแม่โค นมส้มเกิดจากนมสด ฯลฯ.

[๖๐๖] กรุงสาวัตถี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้ได้ฌาน ๔ จำพวกนี้ ๔ จำพวกเป็นไฉน? คือ ผู้ได้ฌานบางคนในโลกนี้เป็นผู้ฉลาดในการออกในสมาธิ แต่ไม่ฉลาดในความเป็นผู้ฉลาดในสมาธิ ๑ บางคนฉลาดในความเป็นผู้ฉลาดในสมาธิ แต่ไม่ฉลาดในการออกในสมาธิ ๑ บางคนไม่ฉลาดในการออกในสมาธิและไม่ฉลาดในความเป็นผู้ฉลาดในสมาธิ ๑ บางคนฉลาดในการออกในสมาธิและฉลาดในความเป็นผู้ฉลาดในสมาธิ ๑ ใน ๔ จำพวกนั้น ผู้ได้ฌานที่ฉลาดในการออกในสมาธิและฉลาดในความเป็นผู้ฉลาดในสมาธินับว่าเป็นผู้เลิศ ประเสริฐที่สุด เป็นประธานสูงสุด และดีกว่าผู้ได้ฌานทั้ง ๔ จำพวกนั้น เปรียบเหมือนนมสดเกิดจากแม่โค นมส้มเกิดจากนมสด ฯลฯ.

 
  ข้อความที่ 7  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 2 ก.พ. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เล่ม ๓ - หน้า 612

[๖๐๗] กรุงสาวัตถี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้ได้ฌาน ๔ จำพวกนี้ ๔ จำพวกเป็นไฉน? คือ ผู้ได้ฌานบางคนในโลกนี้เป็นผู้ฉลาดในความเป็นผู้ฉลาดในสมาธิ แต่ไม่ฉลาดในอารมณ์ในสมาธิ ๑ บางคนฉลาดในอารมณ์ในสมาธิแต่ไม่ฉลาดในความเป็นผู้ฉลาดในสมาธิ ๑ บางคนไม่ฉลาดในความเป็นผู้ฉลาดในสมาธิและไม่ฉลาดในอารมณ์ในสมาธิ ๑ บางคนฉลาดในความเป็นผู้ฉลาดในสมาธิและฉลาดในอารมณ์ในสมาธิ ๑ ใน ๔ จำพวกนั้น ผู้ได้ฌานที่ฉลาดในความเป็นผู้ฉลาดในสมาธิและฉลาดในอารมณ์ในสมาธินับว่าเป็นผู้เลิศ ประเสริฐที่สุด เป็นประธานสูงสุดและดีกว่าผู้ได้ฌานทั้ง ๔ จำพวกนั้น เปรียบเหมือนนมสดเกิดจากแม่โค นมส้มเกิดจากนมสด ฯลฯ.

[๖๐๘] กรุงสาวัตถี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้ได้ฌาน ๔ จำพวกนี้ ๔ จำพวกเป็นไฉน? คือ ผู้ได้ฌานบางคนในโลกนี้เป็นผู้ฉลาดในอารมณ์ในสมาธิ แต่ไม่ฉลาดในโคจรในสมาธิ ๑ บางคนฉลาดในโคจรในสมาธิ แต่ไม่ฉลาดในอารมณ์ในสมาธิ ๑ บางคนไม่ฉลาดในอารมณ์ในสมาธิและไม่ฉลาดในโคจรในสมาธิ ๑ บางคนฉลาดในอารมณ์ในสมาธิและฉลาดในโคจรในสมาธิ ๑ ใน ๔ จำพวกนั้น ผู้ได้ฌานที่ฉลาดในอารมณ์ในสมาธิและฉลาดในโคจรในสมาธินับว่าเป็นผู้เลิศ ประเสริฐที่สุด เป็นประธานสูงสุดและดีกว่าผู้ได้ฌานทั้ง ๔ จำพวกนั้น เปรียบเหมือนนมสดเกิดจากแม่โค นมส้มเกิดจากนมสด ฯลฯ.

[๖๐๙] กรุงสาวัตถี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้ได้ฌาน ๔ จำพวกนี้ ๔ จำพวกเป็นไฉน? คือ ผู้ได้ฌานบางคนในโลกนี้เป็นผู้ฉลาดในโคจรในสมาธิ แต่ไม่ฉลาดในการบริหารจิตไปในสมาธิ ๑ บางคนฉลาด

 
  ข้อความที่ 8  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 2 ก.พ. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เล่ม ๓ - หน้า 613

ในการบริหารจิตไปในสมาธิ แต่ไม่ฉลาดในโคจรในสมาธิ ๑ บางคนไม่ฉลาดในโคจรในสมาธิและไม่ฉลาดในการบริหารจิตไปในสมาธิ ๑ บางคนฉลาดในโคจรในสมาธิและฉลาดในการบริหารจิตไปในสมาธิ ๑ ใน ๔ จำพวกนั้น ผู้ได้ฌานที่ฉลาดในโคจรในสมาธิและฉลาดในการบริหารจิตไปในสมาธินับว่าเป็นผู้เลิศ ประเสริฐที่สุด เป็นประธานสูงสุดและดีกว่าผู้ได้ฌานทั้ง ๔ จำพวกนั้น เปรียบเหมือนนมสดเกิดจากแม่โค นมส้มเกิดจากนมสด ฯลฯ.

[๖๑๐] กรุงสาวัตถี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้ได้ฌาน ๔ จำพวกนี้ ๔ จำพวกเป็นไฉน? คือ ผู้ได้ฌานบางคนในโลกนี้เป็นผู้ฉลาดในการบริหารจิตไปในสมาธิ แต่ไม่กระทำความเคารพในสมาธิ ๑ บางคนกระทำความเคารพในสมาธิ แต่ไม่ฉลาดในการบริหารจิตไปในสมาธิ ๑ บางคนไม่ฉลาดในการบริหารจิตไปในสมาธิและไม่กระทำความเคารพในสมาธิ ๑ บางคนฉลาดในการบริหารจิตไปในสมาธิและกระทำความเคารพในสมาธิ ๑ ใน ๔ จำพวกนั้น ผู้ได้ฌานที่ฉลาดในการบริหารจิตไปในสมาธิและกระทำความเคารพในสมาธินับว่าเป็นผู้เลิศ ประเสริฐที่สุด เป็นประธานสูงสุดและดีกว่าผู้ได้ฌานทั้ง ๔ จำพวกนั้น เปรียบเหมือนนมสดเกิดจากแม่โค นมส้มเกิดจากนมสด ฯลฯ.

[๖๑๑] กรุงสาวัตถี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้ได้ฌาน ๔ จำพวกนี้ ๔ จำพวกเป็นไฉน? คือ ผู้ได้ฌานบางคนในโลกนี้เป็นผู้กระทำความเคารพในสมาธิ แต่ไม่กระทำความเพียรเป็นไปติดต่อในสมาธิ ๑ บางคนกระทำความเพียรเป็นไปติดต่อในสมาธิ แต่ไม่กระทำความเคารพในสมาธิ ๑ บางคนไม่กระทำความเคารพในสมาธิและ

 
  ข้อความที่ 9  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 2 ก.พ. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เล่ม ๓ - หน้า 614

ไม่กระทำความเพียรเป็นไปติดต่อในสมาธิ ๑ บางคนกระทำความเคารพในสมาธิ และกระทำความเพียรเป็นไปติดต่อในสมาธิ ๑ ใน ๔ จำพวกนั้น ผู้ได้ฌานที่กระทำความเคารพในสมาธิและกระทำความเพียรเป็นไปติดต่อในสมาธินับว่าเป็นผู้เลิศ ประเสริฐที่สุด เป็นประธานสูงสุดและดีกว่าผู้ได้ฌานทั้ง ๔ จำพวกนั้น เปรียบเหมือนนมสดเกิดจากแม่โค นมส้มเกิดจากนมสด ฯลฯ.

[๖๑๒] กรุงสาวัตถี. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้ได้ฌาน ๔ จำพวกนี้ ๔ จำพวกเป็นไฉน? คือ ผู้ได้ฌานบางคนในโลกนี้เป็นผู้กระทำความเพียรเป็นไปติดต่อในสมาธิ แต่ไม่กระทำความสบายในสมาธิ ๑ บางคนกระทำความสบายในสมาธิ แต่ไม่กระทำความเพียรเป็นไปติดต่อในสมาธิ ๑ บางคนไม่กระทำความเพียรเป็นไปติดต่อในสมาธิและไม่กระทำความสบายในสมาธิ ๑ บางคนกระทำความเพียรเป็นไปติดต่อในสมาธิและกระทำความสบายในสมาธิ ๑ ใน ๔ จำพวกนั้น ผู้ได้ฌานที่กระทำความเพียรเป็นไปติดต่อในสมาธิและกระทำความสบายในสมาธินับว่าเป็นผู้เลิศ ประเสริฐที่สุด เป็นประธานสูงสุดและดีกว่าผู้ได้ฌานทั้ง ๔ จำพวกนั้น เปรียบเหมือนนมสดเกิดจากแม่โค นมส้มเกิดจากนมสด เนยข้นเกิดจากนมส้ม เนยใสเกิดจากเนยข้น หัวเนยใสเกิดจากเนยใส หัวเนยใสเขากล่าวว่าเป็นเลิศ ฉันใด ผู้ได้ฌานที่กระทำความเพียรเป็นไปติดต่อในสมาธิและกระทำความสบายในสมาธิก็นับว่าเป็นผู้เลิศ ประเสริฐที่สุด เป็นประธานสูงสุดและดีกว่าผู้ได้ฌานทั้ง ๔ จำพวกนั้น ฉันนั้นเหมือนกัน.

พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไวยากรณภาษิตนี้จบลงแล้ว

 
  ข้อความที่ 10  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 2 ก.พ. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เล่ม ๓ - หน้า 615

ภิกษุเหล่านั้นดีใจชื่นชมภาษิตของพระผู้มีพระภาคเจ้า ฉะนี้แล.

จบ สัปปายการีสูตร

(สูตรอีก ๕๐ สูตร พึงให้พิสดารโดยนัยนี้)

จบ สมาธิสังยุต

อรรถกถาสัปปายการีสูตรที่ ๑๐

บทว่า น สมาธิสฺมิํ สปฺปายการี ความว่า ไม่สามารถจะทำธรรมที่เป็นสัปปายะ คือเป็นอุปการะแก่สมาธิให้บริบูรณ์ได้.

จบ อรรถกถาสัปปายการีสูตรที่ ๑๐

ต่อจากนี้ไป พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสจตุกกะไว้ (โดย) ประกอบเข้ากับบททั้งหลาย มีสมาบัติเป็นต้น. เนื้อความของจตุกกะเหล่านั้นพึงทราบตามนัยที่กล่าวแล้วนั่นแล. ส่วนสมาธิสังยุตในวรรคนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้โดยเป็นโลกิยฌานเท่านั้นแล

จบ อรรถกถาสมาธิสังยุต

อรรถกถาขันธวารวรรค

คัมภีร์สังยุตตนิกายชื่อสารัตถปกาสินี

จบบริบูรณ์ด้วยประการฉะนี้

จบ อรรถกถาสังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค

 
  ข้อความที่ 11  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 2 ก.พ. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เล่ม ๓ - หน้า 616

รวมพระสูตรที่มีในสังยุตนี้ คือ

๑. สมาธิสมาปัตติสูตร

๒. ฐิติสูตร

๓. วุฏฐานสูตร

๔. กัลลิตสูตร

๕. อารัมมณสูตร

๖. โคจรสูตร

๗. อภินีหารสูตร

๘. สักกัจจการีสูตร

๙. สาตัจจการีสูตร

๑๐. สัปปายการสูตร.

จบ ขันธวารวรรคสังยุต

รวมวรรคที่มีในขันธวารวรรคสังยุตนี้ คือ

๑. นกุลปิตุวรรค

๒. อนิจจวรรค

๓. ภารวรรค

๔. นตุมหากวรรค

๕. อัตตทีปวรรค

รวม ๕ วรรค เรียกว่ามูลปัณฌาสก์

๖. อุปายวรรค

๗. อรหันตวรรค

๘. ขัชชนียวรรค

๙. เถรวรรค

๑๐. ปุปผวรรค

รวม ๕ วรรค

พระสัมพุทธเจ้าผู้ฉลาดทรงประกาศว่า เป็นมัชฌิมปัณณาสก์ ๑๕

๑๑. อันตวรรค ๑๒. ธรรมกถิกวรรค ๑๓. อวิชชาวรรค ๑๔. กุกกุฬวรรค ๑๕. ทิฏฐิวรรค รวม ๕ วรรค ท่านเรียกว่า จุลลปัณณาสก์ และเรียกว่าเป็น นิบาต

ในขันธวารวรรคมี ๑๓ สังยุต คือ

๑. ขันธสังยุต

๒. ราธสังยุต

๓. ทิฏฐิสังยุต

๔. โอกกันติสังยุต

๕. อุปปาทสังยุต

๖. กิเลสสังยุต

๗. สารีปุตตสังยุต

๘. นาคสังยุต

๙. สุปัณณสังยุต

๑๐. คันธัพพกายสังยุต

๑๑. วลาหกสังยุต

๑๒. วัจฉโคตตสังยุต

๑๓. สมาธิสังยุต

ฉะนี้แล.