พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

๔. ทุติยรูปารามสูตร ว่าด้วยผู้ยินดีในอายตนะ ๖ อยู่เป็นทุกข์

 
บ้านธัมมะ
วันที่  11 ก.ย. 2564
หมายเลข  37234
อ่าน  502

[เล่มที่ 28] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค เล่ม ๔ ภาค ๑ - หน้า 267

๔. ทุติยรูปารามสูตร๑

ว่าด้วยผู้ยินดีในอายตนะ ๖ อยู่เป็นทุกข์


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 28]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 14 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค เล่ม ๔ ภาค ๑ - หน้า 267

๔. ทุติยรูปารามสูตร (๑)

ว่าด้วยผู้ยินดีในอายตนะ ๖ อยู่เป็นทุกข์

[๒๑๘] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เทวดาและมนุษย์เป็นผู้มีรูปเป็นที่มายินดี เป็นผู้ยินดีแล้วในรูป เป็นผู้เพลิดเพลินแล้วในรูป เพราะรูปแปรปรวน คลายไป และดับไป เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายย่อมอยู่เป็นทุกข์ เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายเป็นผู้มีเสียงเป็นที่มายินดี ฯลฯ เป็นผู้มีกลิ่นเป็นที่มายินดี ฯลฯ เป็นผู้มีรสเป็นที่มายินดี ฯลฯ เป็นผู้มีโผฏฐัพพะเป็นที่มายินดี ฯลฯ เป็นผู้มีธรรมารมณ์เป็นที่มายินดี เป็นผู้ยินดีแล้วในธรรมารมณ์ เป็นผู้เพลิดเพลินแล้วในธรรมารมณ์ เพราะธรรมารมณ์แปรปรวน คลายไป และดับไป เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายย่อมอยู่เป็นทุกข์ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ส่วนตถาคตผู้อรหันต์ตรัสรู้เองโดยชอบ รู้แจ้งแล้วซึ่งความเกิดขึ้น ความดับไป คุณ โทษ และอุบายเป็นเครื่องสลัดออกแห่งรูปทั้งหลาย ไม่เป็นผู้มีรูปเป็นที่มายินดี ไม่เป็นผู้ยินดีแล้วในรูป ไม่เป็นผู้เพลิดเพลินแล้วในรูป เพราะรูปแปรปรวน คลายไปและดับไป ตถาคตย่อมอยู่เป็นสุข ตถาคตผู้อรหันต์ตรัสรู้เองโดยชอบ รู้แจ้งแล้วซึ่งความเกิดขึ้น ความดับไป คุณ โทษ และอุบายเครื่องสลัดออกแห่งเสียง ฯลฯ แห่งกลิ่น ฯลฯ แห่งรส ฯลฯ แห่งโผฏฐัพพะ ฯลฯ แห่งธรรมารมณ์ ตามความเป็นจริง ไม่เป็นผู้มีธรรมารมณ์เป็นที่มายินดี ไม่เป็นผู้ยินดีแล้วในธรรมารมณ์ ไม่เป็นผู้เพลิดเพลินแล้วในธรรมารมณ์ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะธรรมารมณ์แปรปรวนไป คลายไป และดับไป ตถาคตก็ย่อมอยู่เป็นสุข.

จบ ทุติยรูปารามสูตรที่ ๔


(๑) อรรถกถาสูตรที่ ๔ -๑๐ แก้ไว้ท้ายวรรคนี้.