พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

๑๑. สักกายทิฏฐิสูตร ว่าด้วยการละสักกายทิฏฐิ

 
บ้านธัมมะ
วันที่  12 ก.ย. 2564
หมายเลข  37264
อ่าน  396

[เล่มที่ 28] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค เล่ม ๔ ภาค ๑ - หน้า 304

๑๑. สักกายทิฏฐิสูตร

ว่าด้วยการละสักกายทิฏฐิ


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 28]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 14 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค เล่ม ๔ ภาค ๑ - หน้า 304

๑๑. สักกายทิฏฐิสูตร

ว่าด้วยการละสักกายทิฏฐิ

[๒๕๕] ครั้งนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ฯลฯ ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ บุคคลรู้อยู่อย่างไร เห็นอยู่อย่างไร จึงจะละสักกายทิฏฐิได้. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ บุคคลรู้เห็นจักษุแล โดยความเป็นทุกข์ จึงจะละสักกายทิฏฐิได้ รู้เห็นรูปโดยความเป็นทุกข์ จึงจะละสักกายทิฏฐิได้ รู้เห็นจักษุวิญญาณโดยความเป็นทุกข์ จึงจะละสักกายทิฏฐิได้ รู้เห็นจักษุสัมผัสโดยความเป็นทุกข์ จึงจะละสักกายทิฏฐิได้ รู้เห็นแม้สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะจักษุสัมผัสเป็นปัจจัย โดยความเป็นทุกข์ จึงจะละสักกายทิฏฐิได้ บุคคลรู้เห็นหู รู้เห็นจมูก รู้เห็นลิ้น รู้เห็นกาย รู้เห็นใจโดยความเป็นทุกข์ จึงจะละสักกายทิฏฐิได้ รู้เห็นธรรมารมณ์โดยความเป็นทุกข์ จึงจะละสักกายทิฏฐิได้ รู้เห็นมโนวิญญาณโดยความเป็นทุกข์ จึงจะละสักกายทิฏฐิได้ รู้เห็นมโนสัมผัสโดยความเป็นทุกข์ จึงจะละสักกายทิฏฐิได้ รู้เห็นแม้สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะมโนสัมผัสเป็นปัจจัย โดยความเป็นทุกข์ จึงจะละสักกายทิฏฐิได้ ดูก่อนภิกษุ เมื่อบุคคลรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้แล จึงจะละสักกายทิฏฐิได้.

จบ สักกายทิฏฐิสูตรที่ ๑๑