ทำไมคนส่วนใหญ่ไม่เชื่อกรรม
ในสังคมปัจจุบัน คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยเชื่อเรื่องกรรม คือ การทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
สัตว์ทั้งหลายถูกอวิชชาหุ้มห่อไว้ ได้ยินแต่อสัทธรรม จึงไม่รู้ไม่เห็นสิ่งที่ควรเว้นหรือสิ่งที่ควรกระทำ จึงถือเอาผิดจากความจริงเพราะขาดตาคือ ญาณ จึงไม่รู้ไม่เห็น แต่สัตว์เหล่าใดได้ฟังพระสัทธรรมของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ตรัสรู้ความจริงสัตว์เหล่านั้นย่อมได้รับการแนะนำในสิ่งที่ควรกระทำ และสิ่งที่ควรเว้น เพราะได้ฟัง พระ-สัทธรรม สัตว์ทั้งหลาย จึงมีตา คือ ญาณ รู้ตามความเป็นจริงว่า สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน จักทำกรรมใดไว้ดีหรือชั่ว จะเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น เพราะกระทำเหตุที่ดีย่อมได้รับผลที่ดี เพราะกระทำเหตุไม่ดีจึงมีผลที่ไม่ดี
ทำไมคนส่วนใหญ่ไม่เชื่อกรรม
ในสังคมปัจจุบัน คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยเชื่อเรื่องกรรม คือ การทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว ตราบใดที่ไม่มีปัญญาอันเนื่องมาจากการฟังพระธรรมที่พระพุทธเจ้าแสดง สัตว์โลกก็ย่อมไม่รู้ตามความเป็นจริง พุทธ แปลว่า ผู้รู้ รู้ตามความเป็นจริง ดังนั้น สัตว์โลกไม่ใช่ผู้รู้ตามความเป็นจริง เพราะไม่มีปัญญา อันเนื่องมาจากไม่ได้ฟังพระธรรม และสะสมการฟังในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ (เดรัจฉานกถา) มามาก และที่สังคมปัจจุบันด้วยแล้ว มีอายุขัย ไม่ถึง๑๐๐ ปี ก็ย่อมเป็นผู้หนาด้วยกิเลสมากครับ จึงมีความไม่รู้มากในปัจจุบัน ขอยกข้อความที่แสดงว่า มนุษย์ในปัจจุบันหนาไปด้วยกิเลส ลองอ่านดูนะ
เรื่อง อายุขัยของมนุษย์ที่ต่ำกว่า ๑๐๐ ปี ย่อมหนาด้วยกิเลส
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ เล่ม ๙ ภาค ๒ - หน้าที่ 694 แม้กาลที่อายุคนต่ำกว่าร้อยปี ก็ยังไม่ใช่กาลอันสมควร. เพราะเหตุไร เพราะว่าในกาลนั้น [กาลที่มนุษย์มีอายุต่ำกว่าร้อยปี] สัตว์ทั้งหลายมีกิเลสหนาแน่นและโอวาทที่ประทานแก่สัตว์ที่มีกิเลสหนาแน่น จะไม่คงอยู่ในฐานะควรโอวาท จะขาดหายไปเร็วเหมือนรอยไม้ที่ขีดในน้ำ
ถ้าเขารู้จริงๆ ว่า นรก สวรรค์มีจริงๆ เขาก็คงไม่กล้าทำชั่วหรอก แต่เพราะกิเลสหนาแน่นมาก และเพราะอวิชชาความไม่รู้ ทำให้เขาไม่เห็นโทษของการทำชั่วและไม่เห็นคุณของการทำความดี และส่วนมากที่ทำอกุศกรรมบถ เพราะไม่เชื่อเรื่องบุญบาปไม่เชื่อว่าชาติหน้ามีจริง ฯลฯ ขอยกตัวอย่างจากพระไตรปิฎกค่ะ
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๒ - หน้าที่ 151
คนพาลย่อมสำคัญบาปประดุจน้ำผึ้ง ตราบเท่าที่บาปยังไม่ให้ผล ก็เมื่อใดบาปให้ผล เมื่อนั้นคนพาลย่อมประสบทุกข์ คนพาลพึงบริโภคโภชนะด้วยปลายหญ้าคาทุกๆ เดือน เขาย่อมไม่ถึงเสี้ยวที่ ๑๖ แห่งท่าน ผู้มีธรรมอันนับได้แล้ว ก็กรรมชั่วอันบุคคลทำแล้ว ยังไม่ให้ผล เหมือนน้ำนมที่รีดในขณะนั้น ยังไม่แปรไปฉะนั้น
สัตว์ทั้งหลาย เป็นผู้มีกรรมเป็นของๆ ตน มีกรรมเป็นทายาท มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย จักทำกรรมดีหรือกรรมชั่วไว้ก็ตาม ย่อมได้รับผลของกรรมนั้นๆ
ยากนะที่จะให้คนสมัยนี้จะเชื่อเรื่องกรรม เรื่อง บาป บุญ
ที่คนไม่ค่อยเชื่อเรื่องกรรม เพราะกรรมยังไม่ให้ผลทันตาหรือไม่ เช่น บางคน ที่ทุจริตในหน้าที่ รับเงินสินบนต่างๆ ไม่เห็นเขาเดือดร้อนอะไรเลย เขาก็ร่ำรวยมีความสุขดี จึงทำให้คนทำผิดหน้าตาเฉย