บันทึกของทนายอานนท์ ฝาดซิ้น : ความเปลี่ยนแปลงของผู้ต้องหาในคดีค้ายาเสพติด กับ ความอัศจรรย์ของพระธรรม
บันทึกของทนายอานนท์ ฝาดซิ้น สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ มศพ. ลำดับที่ ๔๒๒๔
: ความเปลี่ยนแปลงของผู้ต้องหาในคดีค้ายาเสพติด กับ ความอัศจรรย์ของพระธรรม
เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2564 ข้าพเจ้าในฐานะทนายความ ได้ไปปรึกษาคดีความกับ ส. ผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่รายหนึ่งในเรือนจำ ณ จังหวัดหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ ซึ่งคดีที่ต้องหานั้นมีอัตราโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต เพราะยาเสพติดเป็นยาบ้าจำนวนเกือบสองหมื่นเม็ด ทั้งยังมียาไอซ์อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่ง ส. ผู้ต้องหารายดังกล่าวมิได้ถูกจับกุมพร้อมยาเสพติดของกลางแต่อย่างใด
ด้วยรูปคดีนั้น ส. ผู้ต้องหารายนี้ยังมีช่องทางที่จะต่อสู้คดีได้อีกหลายทาง แต่การต่อสู้คดีดังกล่าวของ ส. มีโอกาสสูงที่จะทำให้ ช. ซึ่งเป็นผู้ต้องหาอีกคนที่ถูกกล่าวหาว่าร่วมกันกระทำความผิดกับ ส. ในคดีนี้นั้น อาจถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิตได้ ทั้งๆ ที่ ช. ไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิดด้วยเลย แต่พยานหลักฐานค่อนข้างมัดตัว ช. แน่น
ซึ่งก่อนหน้านั้น จากการที่ข้าพเจ้าสอบข้อเท็จจริงจาก ช. หลายครั้งหลายคราวจนข้าพเจ้าได้ข้อเท็จจริงอย่างมั่นคง และค่อนข้างมั่นใจว่า ยาเสพติดของกลางน่าจะเป็นของ ส. ที่ว่า "น่าจะ" นั้น ก็เพราะว่า ช. ไม่ทราบจริงๆ ว่าเป็นของใคร เพียงแค่สันนิษฐานว่าคงจะเป็นของ ส.
ส่วนเมื่อข้าพเจ้าไปสอบข้อเท็จจริงจาก ส. ในวันดังกล่าวข้างต้นแล้ว เบื้องต้น ส. แจ้งแก่ข้าพเจ้าว่าต้องการสู้คดี เพราะยังมีช่องทางต่อสู้ได้ ข้าพเจ้าก็บอกแก่ ส. ว่า รูปคดีของ ส. นั้น ส. มีช่องทางต่อสู้คดีได้จริงๆ แล้วข้าพเจ้าจึงแจ้งความเสี่ยงที่ ช. จะต้องรับโทษสูงถึงจำคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต ให้ ส. ได้ฟังทั้งๆ ที่ ช. มิได้กระทำความผิดเลย พร้อมกับพูดเรื่องอกุศลกรรม และผลแห่งอกุศลกรรม ให้ ส.ได้ฟังด้วยความเป็นมิตรผู้หวังดีกับ ส. ตามที่ ท่าน อ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ได้แสดงธรรมเตือนใจแก่ข้าพเจ้าเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2564 มาแล้วนั้น
ซึ่ง ส. ก็ฟังอย่างสงบและตั้งใจอยู่พักหนึ่งประมาณสัก 20 นาทีกว่าๆ ท่าจะได้ เมื่อข้าพเจ้าพูดเรื่องอกุศลกรรมเสร็จ จึงได้ถาม ส. อีกครั้งว่า ที่ข้าพเจ้าพูดเรื่องอกุศลกรรมไปนี้ ส. เข้าใจหรือไม่ ส. ก็ตอบว่าเข้าใจ แล้วข้าพเจ้าก็ถาม ส. ต่อว่า เมื่อเข้าใจแล้ว บอกได้หรือไม่ว่ายาเสพติดของกลางทั้งหมดเป็นของใคร ส. ก็ตอบข้าพเจ้าว่า ยาเสพติดของกลางทั้งหมดเป็นของ ส. เอง ส่วน ช. นั้น มิได้มีส่วนรู้เห็นใดๆ ทั้งสิ้น ข้าพเจ้าจึงถาม ส. ต่อว่า เมื่อยาเสพติดของกลางทั้งหมดเป็นของ ส. แล้ว ส. ยังจะสู้คดีให้ ช. ต้องเสี่ยงรับโทษขั้นสูงสุดในสิ่งที่ ช. ไม่ได้กระทำอีกหรือไม่ ส. ตอบข้าพเจ้าว่า ส. สงสาร ช. เมื่อ ช. ไม่มีส่วนรู้เห็นในการกระทำผิด ส. จึงไม่ต้องการให้ ช. ต้องรับผลในสิ่งที่ ช. ไม่ได้กระทำ ส. จึงแจ้งแก่ข้าพเจ้าว่า ส. จะรับสารภาพในความผิดทั้งหมดต่อศาลในชั้นต่อไป แม้ในชั้นนี้ ส. ยังไม่ถูกฟ้องคดีก็ตาม
ข้าพเจ้าจึงบอกแก่ ส. ว่า ส. ทำถูกต้องแล้ว เพราะนี่คืออกุศลกรรมที่ ส. ได้กระทำมา ส. จึงจำเป็นต้องรับผลที่ ส. ได้กระทำอกุศลกรรมนั้น ไม่มีใครเปลี่ยนหรือห้ามผลแห่งอกุศลกรรมนั้นมิให้เกิดขึ้นได้ เมื่อผลแห่งอกุศลกรรมในครานี้สิ้นเมื่อไร ส. ก็จะพ้นความทุกข์ยากที่ต้องเผชิญด้วยเหตุแห่งอกุศลกรรมนั้นไปเอง ข้าพเจ้าจึงถาม ส. ต่ออีกว่า ส. เข้าใจหรือไม่ ส. ตอบว่า เข้าใจ แล้ว ส. ก็ถามข้าพเจ้าว่า มีทางใดที่ ส. จะช่วย ช.ได้บ้าง ส. ยินดีจะช่วยทุกอย่าง ข้าพเจ้ากล่าวขอบใจ ส. ที่สำนึกผิด และคิดแก้ไข ข้าพเจ้าจึงบอกวิธีที่จะช่วย ช. ให้ ส. ได้เข้าใจ ส. ตกลงปลงใจทุกอย่าง และยินยอมเขียนบันทึกความผิดของตนไว้เป็นลายลักษณ์อักษรพร้อมลงชื่อรับรองเพื่อให้ข้าพเจ้านำไปใช้เป็นหลักฐานช่วย ช. ในชั้นศาล และ ส. ตกลงยินยอมไปเบิกความเป็นพยานต่อศาลในคดีของ ช. ว่ายาเสพติดของกลางทั้งหมดนั้นเป็นของ ส. แต่เพียงผู้เดียว โดย ช. มิได้มีส่วนรู้เห็นในการกระทำความผิดด้วย แล้ว ส. ยังฝากขอโทษ ช. และครอบครัวของ ช. ด้วย ที่ทำให้ต้องเดือดร้อน ข้าพเจ้าได้ฟังดังนั้น จึงกล่าวขอบใจและชื่นชม ส. ในการที่ ส. เข้าใจความจริงของอกุศลกรรม และสำนึกผิด แล้วพยายามแก้ไขความผิด หลังจากนั้น ส. ก็ลุกขึ้นยืนแล้วยกมือไหว้ขอบคุณข้าพเจ้าด้วยกิริยาอันสงบ แล้วก็เดินกลับเข้าห้องควบคุมตัวผู้ต้องขังไป
ด้วยเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ข้าพเจ้าได้เห็นความอัศจรรย์ของความเข้าใจธรรม ว่ามีอานุภาพเพียงใด ทำให้คนกระทำผิดอย่างร้ายแรงสำนึกในความผิดได้ในเวลาอันสั้น และได้เห็นอากัปกิริยาของผู้กระทำผิดที่มีความสงบหลังจากได้สนทนาธรรมกัน ซึ่งความเข้าใจธรรมนั้น ไม่เลือกว่าต้องเป็นผู้ใด ทุกคนอาจเข้าใจธรรมได้หากได้ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วพิจารณาไตร่ตรอง
กราบบูชาในพระมหากรุณาคุณขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และความเมตตายิ่งของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในธรรมทั้งปวง
อานนท์ ฝาดซิ้น
บ้านธัมมะภาคใต้
13/9/2021, 18:33:48 น.
ขอเชิญติดตามบันทึกการสนทนาธรรมระหว่างคุณอานนท์กับท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ เมื่อวันที่ ๕ กันยายน ๒๕๖๔ ที่คุณอานนท์ อ้างถึง ได้ที่ลิงก์ด้านล่าง :
ชมรมบ้านธัมมะ มศพ. ร่วมยินดียิ่งในกุศลของคุณอานนท์ ฝาดซิ้น มา ณ โอกาสนี้
"ทำดีและศึกษาพระธรรม"
(กราบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ ลำดับที่ ๑ ในความเมตตาและคำปรารภ ที่ให้ดำเนินการเผยแพร่ข่าวสารเพื่อการส่งเสริมกิจกรรมต่างๆ ของสมาชิกชมรมบ้านธัมมะ ในครั้งนี้ "ทำดีและศึกษาพระธรรม")
* * * สมาชิกท่านใด ที่ประสงค์จะแจ้งข่าวกิจกรรมต่างๆ ของสมาชิกชมรมบ้านธัมมะ มศพ. โปรดส่งภาพและรายละเอียดของกิจกรรม ไปที่ Line ID : pwanchai2504
ขออนุโมทนาในคุณความดีของทนายอานนท์ด้วยครับ ภารกิจนี้ เป็นประโยชน์ที่สุด ได้อ่านหลายรอบ ปลาบปลื้มใจมากๆ ครับ
กราบเท้าท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในกุศลค่ะคุณอานนท์และยินดีกับท่านที่คุณอานนท์กล่าวถึง
ความเข้าใจพระธรรมแม้น้อยนิดเป็นเหตุให้เป็นคนดีได้
ยินดีเป็นอย่างยิ่งในกุศลธรรมที่เกิดจากความเข้าใจความจริงจากการฟังพระธรรม เป็นผลให้สามารถช่วยเหลือผู้อื่นให้เข้าใจด้วยจนถึงกับไม่ทำอกุศลกรรมที่มากขึ้นหนักขึ้นเป็นโทษต่อตนเองมากขึ้น อีกทั้งช่วยให้อีกหลายชีวิตไม่ต้องประสบความเดือดร้อนจากการกระทำที่ไม่เป็นธรรมที่จะเกิดขึ้นด้วยความไม่รู้
ยินดีกับคุณอานนท์ด้วยจริงๆ ค่ะ
กราบแทบเท้าท่านอ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง และขออนุโมทนาสาธุในกุศลผลบุญ ที่คุณทนายอานนท์ ได้กระทำในครั้งนี้ ชื่นใจเหลือเกินค่ะ ขอแชร์และขอเป็นแบบอย่างนะคะ
กราบขอบพระคุณทุกๆ ท่านจากหัวใจค่ะ
อ่านแล้วปลื้มใจมาก ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทนายอานนท์ค่ะ