อะไรเป็นตัวรู้

 
Pairas
วันที่  19 ก.ย. 2564
หมายเลข  37364
อ่าน  551

ขอสอบถามท่านอาจารย์นะครับว่า

1.จากที่จากที่ได้รับชมคลิปผ่านทาง YouTube ผมเข้าใจว่า ทุกสิ่งที่มาสัมผัสทางทวารต่างๆ มีจริง เกิดจริง ตามสภาพนั้นๆ ที่เกิดดับต่อเนื่องกันไป หากเราไปยึดถือว่าเราเห็น เราได้ยิน เราลิ้มรสว่าอร่อย เปรี้ยว หวาน อย่างนี้ไม่ถูกต้อง ใช่ไหมครับ เพราะเหตุว่ามันเป็นของมันอย่างนั้น ไม่ควรไปยึดติดปรุงเต่งไปตามสิ่งเหล่านี้ ให้รู้ว่ามันมี เป็นของมันอย่างนั้น ประเด็นนี้ผมเข้าใจถูกไหมครับ

2.อะไรที่เป็นตัวรู้ครับ ละประมวลว่าสิ่งต่างๆ ที่ผ่านเข้ามานั้นไม่ใช่เรา มันเป็นสภาพที่เกิดและดับไปตามเหตุๆ ของแต่ละสิ่งนั้นๆ ครับ

3.จากข้อ2 ใช่จิต ไหมครับ หากใช่ การรับฟังธรรมของพระสัมมา จนเข้าใจเป็นขั้นๆ ไป ก็หมายความว่าจิตนั้นได้รับและวิเคราะห์ตามคำสอน แล้วเห็นจริง ยอมรับว่าจริง จิต ก็จะยกระดับ ไปเรื่อยจนถึงขั้นหลุดพ้นใช่ไหมครับ

4.จากคำถามที่ผมส่งมานี้ ควรศึกษาเรื่องใดเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดความเข้าใจมากกว่านี้ครับ

ขอบขอบพระคุณนะครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 21 ก.ย. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

1.จากที่จากที่ได้รับชมคลิปผ่านทาง YouTube ผมเข้าใจว่า ทุกสิ่งที่มาสัมผัสทางทวารต่างๆ มีจริง เกิดจริง ตามสภาพนั้นๆ ที่เกิดดับต่อเนื่องกันไป หากเราไปยึดถือว่าเราเห็น เราได้ยิน เราลิ้มรสว่าอร่อย เปรี้ยว หวาน อย่างนี้ไม่ถูกต้อง ใช่ไหมครับ เพราะเหตุว่ามันเป็นของมันอย่างนั้น ไม่ควรไปยึดติดปรุงเต่งไปตามสิ่งเหล่านี้ ให้รู้ว่ามันมี เป็นของมันอย่างนั้น ประเด็นนี้ผมเข้าใจถูกไหมครับ

* ไม่มีใครสามารถบังคับไม่ให้กิเลสเกิดขึ้นได้ เมื่อเหตุปัจจัยพร้อมกิเลสก็เกิดขึ้นเพราะธรรมดา ต้องเป็นผู้ตรงว่าเป็นปุถุชน ผู้ที่หนาด้วยกิเลส ครับ


2.อะไรที่เป็นตัวรู้ครับ ละประมวลว่าสิ่งต่างๆ ที่ผ่านเข้ามานั้นไม่ใช่เรา มันเป็นสภาพที่เกิดและดับไปตามเหตุๆ ของแต่ละสิ่งนั้นๆ ครับ

* ปัญญา ที่เกิดเป็นธรรมที่เข้าใจความจริงในสิ่งที่เกิดแล้วว่าเป็นธรรม ครับ


3.จากข้อ2 ใช่จิต ไหมครับ หากใช่ การรับฟังธรรมของพระสัมมา จนเข้าใจเป็นขั้นๆ ไป ก็หมายความว่าจิตนั้นได้รับและวิเคราะห์ตามคำสอน แล้วเห็นจริง ยอมรับว่าจริง จิต ก็จะยกระดับ ไปเรื่อยจนถึงขั้นหลุดพ้นใช่ไหมครับ

* ไม่มีการยกระดับ แต่เป็นการสะสมความเข้าใจไปทีละน้อย จนถึงมีกำลังมาก ก็จะเข้าใจความจริงมากไปตามลำดับครับ


4.จากคำถามที่ผมส่งมานี้ ควรศึกษาเรื่องใดเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดความเข้าใจมากกว่านี้ครับ

* ฟังต่อไป ไม่ว่าเรื่องอะไรที่เป็นคำสนอของพระพุทธเจ้าก็ได้ แต่มีหลักสำคญในความเข้าใจถูกในความเป็นธรรมไม่ใช่เราเสมอ ก็จะเกื้อกูลการเข้าใจไม่ว่าศึกษาเรื่องอะไรครับ ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 21 ก.ย. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ละเอียดลึกซึ้งอย่างยิ่ง ซึ่งจะต้องค่อยๆ ฟัง ค่อยๆ ศึกษา ค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อยจริงๆ

ก่อนอื่น ต้องเข้าใจว่า สภาพรู้ นั้น ได้แก่ จิต และ เจตสิก ทุกขณะ ไม่เคยขาดสภาพรู้เลย แต่มีความต่างกัน กล่าวคือ จิต เป็นใหญ่เป็นประธานในการรู้แจ้งซึ่งอารมณ์ (อารมณ์คือสิ่งที่จิตรู้) ส่วนเจตสิกทั้งหลายซึ่งเป็นสภาพธรรมที่เกิดประกอบพร้อมกับจิต นั้น ก็รู้ ตามกิจหน้าที่ของตนๆ ซึ่งในบรรดาเจตสิกทั้งหลายนั้น เฉพาะปัญญา เท่านั้น ที่เป็นสภาพธรรมที่เข้าใจถูกเห็นถูกตรงตามความเป็นจริง ปัญญาจะเกิดขึ้นจะเจริญขึ้นได้นั้น ต้องไม่ขาดการฟังการศึกษาพระธรรมเป็นปกติในชีวิตประจำวัน ครับ

...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
chatchai.k
วันที่ 21 ก.ย. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
Pairas
วันที่ 21 ก.ย. 2564

กราบขอบพระคุณท่านทั้งสองที่ได้ตอบคำถาม และชี้แนะ นะครับ

และนำไปปฏิบัติรับฝัง ยิ่งขึ้นไปครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
petsin.90
วันที่ 22 ก.ย. 2564

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ