สภาวธรรมในขณะที่เดิน

ในขณะที่เดิน มีสภาพธรรมปรากฏในทวารทั้ง ๖ ได้ คือ ทางตา มีสภาพเห็นและสิ่งที่ปรากฏ คือ สีต่างๆ ทางหูมีสภาพได้ยินและเสียงที่ปรากฏ ทางจมูกอาจได้

กลิ่น ทางลิ้นถ้าอมอะไรอยู่รสปรากฏก็ได้ ทางกายอาจมีสภาพเย็นหรือร้อน หรือกระทบอ่อนแข็ง หรือตึงไหวก็ได้ และทางใจอาจคิดนึกถึงสิ่งต่างๆ ก็ได้ ฉะนั้น ทุกๆ ขณะไม่ว่าจะอยู่ในอิริยาบถไหน สภาวธรรมย่อมปรากฏได้ทั้ง ๖ ทวารอย่างใดอย่างหนึ่งที่ละอย่างสลับกันไป สติปัฏฐานระลึกรู้สภาพธรรมอย่างใดอย่างหนึ่งที่กำลังปรากฏ ไม่เจาะจงอารมณ์และทวาร

ขออนุโมทนาครับ

ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา สติก็เป็นอนัตตาด้วย ขณะที่เดินสติเกิดก็ได้ ไม่เกิดก็ได้แล้วแต่เหตุปัจจัย เราไม่สามารถบังคับให้สติเกิดได้ สติจะระลึกที่เห็นก็ได้ ระลึกคิดนึกก็ได้ ลักษณะรู้ ธาตรู้ เป็นนามธรรม ระลึกตรงแข็ง เป็นธรรมที่มีจริง เป็นรูปธรรม

๑. ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา แม้สติที่จะเกิดระลึกสภาพธัมมะอะไร

๒. ธรรมทั้งหลายมีจริงในขณะนี้

๓. ธรรมทั้งหลายมีอยู่โดยไม่เลือกอิริยาบถ

๔. ปัญญาขั้นต้นต้องรู้ก่อนว่า ขณะใดมีสติ ขณะใดหลงลืมสติ

๕. สติปัฏฐานจะเกิดขึ้นต้องเกิดจากการฟังจนเข้าใจมั่นคงในเรื่องสภาพธัมมะ

๖. ปัญญาขั้นการฟังต้องเริ่มก่อนว่า ธรรมคืออะไร

๗. ขณะที่เลือกจะรู้ เช่น เลือกรู้ธาตุ ทั้ง ๔ (ดิน..ลม) ขณะนั้นไม่ใช่สติแต่เป็นโลภะที่ต้องการจะเลือก

๘. ไม่มีใครรู้ล่วงหน้าหรือบังคับให้สติจะเกิด เหมือนกับไม่มีใครรู้ หรือบังคับให้โกรธจะเกิด เพราะทุกอย่างเป็นธัมมะไม่ใช่เรา

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ขอบพระคุณค่ะ จะพยายามเพียรศึกษาและพิจารณา ขออนุโมทนาทุกท่านค่ะ

ยินดีในกุศลจิตค่ะ