How can Panna know and eliminate Moha?

 
Tipjeensalute
วันที่  24 พ.ค. 2550
หมายเลข  3789
อ่าน  1,954

How can Panna know and eliminate Moha when Panna has never been with Moha? Could it be that Panna get to know Moha through Sati and Annasamana Cetasikas when they appear together? Please explain or tell me where I can get information from. "I can read, speak and understand in Thai but I don't know how to type in Thai, please forgive me".

Thank you.


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 25 พ.ค. 2550

ควรทราบในเบื้องต้นว่า ปัญญาเจตสิก สามารถรู้ แทงตลอดในสภาพธรรมทั้งปวง แม้โมหะไม่เกิดร่วมกับปัญญา แต่โมหะเป็นอารมณ์ของปัญญาได้ โดยเกิดคนละขณะ หรือวาระของวิถีจิต โสภณธรรม เช่น ศรัทธา สติ ปัญญา วิรตี เมตตา กรุณา เป็นต้น ไม่เกิดร่วมกับอกุศล ฉะนั้น เมื่อบุคคลอบรมเจริญปัญญา เมื่อปัญญาเจริญถึงขั้น อรหันตมรรคย่อมละโมหะได้เป็นสมุทเฉท แต่ปัญญาที่ค่อยๆ อบรมเจริญขึ้น ย่อมค่อยๆ ละโมหะได้ตามลำดับ ซึ่งในขณะที่สติและปัญญาเกิดขึ้น ไม่มีโมหะเกิดร่วมด้วย

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
wannee.s
วันที่ 25 พ.ค. 2550

โมหะเป็นอกุศลเจตสิก เกิดร่วมกับอกุศลจิตเท่านั้น ทำให้จิตนั้นเป็นชาติอกุศล เพียงชาติเดียว เป็นกุศลชาติ กิริยาชาติ วิบากชาติไม่ได้ ส่วนปัญญา เป็นสภาพที่รู้ชัด รู้แจ้ง รู้สภาพธรรมทุกอย่าง ปัญญา เป็นโสภณเจตสิก เกิดร่วมกับโสภณจิต

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
Tipjeensalute
วันที่ 25 พ.ค. 2550

Let’s say that the first cycle is Akusala cycle, Citta know Moha when they appear together. Moha know Citta at that moment too.

The second cycle is Kusala cycle, Citta know Panna when they appear together. Panna know Citta at that moment too. The second Citta know the first Citta, even though the first Citta has disappeared.

Citta know Nibbana,

Citta know Rupa,

Citta know Cetasika,

Citta know concept,

Citta know Citta

Therefore Panna know Moha through Citta. Is that the right conclusion?

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
study
วันที่ 25 พ.ค. 2550

ที่ท่านสรุปมา ยังไม่ถูกต้อง มโนทวารวิถีที่เป็นอกุศลชวนะ ตลอดวาระรู้อารมณ์เดียวกัน ชวนะวาระหลังๆ จึงรู้อกุศลชวนะที่เกิดวาระก่อนๆ ได้ แต่การรู้ด้วยอกุศลเป็นการรู้ด้วยความเป็นเรา ด้วยการยึดถือ ไม่รู้ตามเป็นจริง เหมือนปัญญา ปัญญาย่อมรู้ทั่ว และไม่ยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นเรา ปัญญาที่รู้โมหะ โดยปัญญานั้น อาศัยมหากุศลจิตเกิดขึ้น ฉะนั้น ว่าโดยสภาพรู้ คือทั้งจิตและเจตสิก เป็นสภาพรู้ อกุศลจิต อกุศลเจตสิก รู้สิ่งที่ปรากฏได้ แต่ไม่รู้ตามเป็นจริง กุศลจิต กุศลเจตสิก (ปัญญา) รู้สภาพธรรมที่ปรากฏตามความเป็นจริง

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
สุจิตรา
วันที่ 25 พ.ค. 2550

I think I can help you. If you in the Europe. Take a look of this link วิธีเรียนปัญญา

//www.buddhapadipa.org/ If you in thailand

//www.section-5.org/Answer Answer yours question

very good you understand thai.

เมื่อคุณมีโมหะ โทสะ ปัญญาย่อมเกิดขึ้นไม่ได้ เพราะเป็นกิเลส

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 25 พ.ค. 2550

จากความเห็นที่ ๔ ถามว่า ขณะที่อกุศลเกิดดวงแรก จิตรู้โมหเจตสิก ขณะที่กำลังปรากฎ โมหเจตสิกก็รู้จิตในขณะนั้น เช่นกัน ขณะที่กุศลเกิดดวงที่ ๒ จิตรู้ ปัญญาเมื่อปรากฏในขณะนั้น ปัญญาก็รู้จิตในขณะนั้นเหมือนกัน จิตดวงที่ ๒ (กุศลที่ประกอบด้วยปัญญา) รู้จิตดวงแรก ถึงแม้ว่าจิตดวงแรกจะดับไปแล้ว (ไม่ปรากฏ) จิตรู้นิพพาน จิตรู้รูป จิตรู้เจตสิก จิตรู้บัญญัติ จิตรู้จิต เพราะฉะนั้น ปัญญารู้โมหะผ่านทางจิต สรุปอย่างนี้ถูกต้องไหม

จิตและเจตสิกเป็นสภาพรู้ จิตจึงรู้ทุกอย่าง แต่รู้ในที่นี้หมายถึง รู้เท่านั้น ไม่ใช่รู้เหมือนปัญญา ที่รู้ชัด รู้ตามความเป็นจริง เช่น จิตเห็น เป็นสภาพรู้ รู้ในสิ่งที่เห็น แต่ต่างกับปัญญา ที่รู้ว่าเป็นธัมมะ เรียกว่ารู้ชัด ส่วนคำถามที่ว่า ปัญญารู้โมหะ ผ่านทางจิต สรุปอย่างนี้ถูกต้องไหม ขณะที่กุศลจิตญาณสัมปยุตต์ (กุศลจิต ทีี่่มีปัญญาเจตสิกเกิดร่วมด้วย) ขณะที่โมหะเกิดขึ้น แล้วดับไป กุศลจิตขั้น สติปัฏฐาน คือ กุศลจิตที่ประกอบด้วยปัญญาเจตสิก สามารถเกิดต่อ ระลึกสภาพธัมมะที่เป็นโมหะ ว่าไม่ใช่เรา

เป็นธรรม แต่ไม่ใช่จะต้องเป็นจิตที่ไปรู้ แต่เป็นหน้าที่ของปัญญา ที่เกิดร่วมกับจิตนั้นทำหน้าที่รู้ชัดว่า เป็นธรรมไม่ใช่เรา ส่วนจิตที่เขาเกิดรู้โมหะขณะนั้น ก็แค่รู้เท่านั้นแต่ไม่สามารถรู้ว่าเป็นธรรมเหมือนปัญญา ดังนั้น ปัญญาจึงทำกิจ หน้าที่ของเขาเองโดยเป็นคนละส่วน หรือไม่ต้องผ่านทางจิตครับ เพราะโดยธรรมชาติ จิตและเจตสิกก็เกิดร่วมกันอยู่แล้วครับ

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
เก็บมาฝาก
วันที่ 26 พ.ค. 2550

Thank you for your good question.When panna arises, it understands whatever nama or rupa appears at thattime. If moha appears, then panna can arise and know its characteristic. So, you are right when you say that panna and moha cannot arise together,but still moha can be the object of the citta arising with panna. Whenever panna arises, as you also suggest, the annasamana (ora ~ n ~ nasamaanaa) cetasikas (i.e the 'universal' and 'particular' cetasikas) arise. Also sati and other sobhana cetasikas such as saddha, hiri,ottappa, alobha, adosa, tatramajjhattata and the 6 pairs also arise andassist by performing their various functions.You are also very welcome to ask any of us further questions. For further information, I also would recommend Nina Van Gorkom's book'Cetasikas': //www.zolag.co.uk/ebook.html Metta,Sarah

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
เก็บมาฝาก
วันที่ 27 พ.ค. 2550

Moha is not knowing dhammas, it darkens the true nature of dhammas. Moha is deeply rooted, it is a latent tendency, anusaya, that conditions the arising of akusala citta with moha time and again. Each akusala citta is accompanied by moha. Moha also conditions the wrong view of self. It is a long way leading to theeradication of moha, only the arahat has eradicated it. But there can be a beginning at this moment: by awareness and understanding of the dhamma that appears now through eyes, ears, nose, tongue, bodysense and mind-door. Verygradually we can learn that the dhamma that appears now is conditioned, that there is no "I' who creates it. Pa ~ n ~ naa lights up the darkness of moha, but it is a long, long way (cira kala bhaavana) .We need patience and perseverance. If we expect a result soon it is clinging and in that way ignorance will never be eradicated. Nina.

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
Tipjeensalute
วันที่ 4 ก.ค. 2550

I would like to thank you Dhamma Study and Support Foundation group, whichhas been doing excellent job on coaching. Thank you to Sarah, Werayut, and the rest of you that has done excellent job explaining to me in detail with similar answers. Yes, I was a cameraman that time with over 800 shots of beautiful pictures. I had excellent time and great pleasure with all noble friends during a wonderful trip to India in 2004. Tip

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 20 มี.ค. 2567

ยินดีในกุศลจิตค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ