พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

๒. โอคธสูตร องค์คุณของพระโสดาบัน

 
บ้านธัมมะ
วันที่  13 ต.ค. 2564
หมายเลข  38070
อ่าน  418

[เล่มที่ 31] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ - หน้า 272

๒. โอคธสูตร

องค์คุณของพระโสดาบัน


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 31]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 25 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ - หน้า 272

๒. โอคธสูตร

องค์คุณของพระโสดาบัน

[๑๔๑๔] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกผู้ประกอบด้วยธรรม ๔ ประการ ย่อมเป็นพระโสดาบัน มีความไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยงที่จะตรัสรู้ในเบื้องหน้า ธรรม ๔ ประการเป็นไฉน อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ ประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระพุทธเจ้า ฯลฯ ในพระธรรม ฯลฯ ในพระสงฆ์ ฯลฯ ประกอบด้วยศีลที่พระอริยเจ้าใคร่แล้ว ฯลฯ อริยสาวกผู้ประกอบด้วยธรรม ๔ ประการเหล่านี้แล เป็นพระโสดาบัน มีความไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยงที่จะตรัสรู้ในเบื้องหน้า ครั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้สุคตศาสดา ได้ตรัสไวยากรณภาษิตนี้จบลงแล้ว จึงได้ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า

[๑๔๑๕] ศรัทธา ศีล ความเลื่อมใสและการเห็นธรรมมีอยู่แก่ผู้ใด ผู้นั้นแล ย่อมบรรลุความสุข อันหยั่งลงในพรหมจรรย์ตามกาล.

จบโอคธสูตรที่ ๒

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 25 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ - หน้า 273

อรรถกถาโอคธสูตร

พึงทราบอธิบายในโอคธสูตรที่ ๒.

พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงถือเอาความเลื่อมใสในพระพุทธเจ้า ด้วยบทว่า เยสํ สทฺธา.

ทรงถือเอาศีลที่พระอริยเจ้าใคร่แล้ว ด้วยบทว่า ศีล.

ทรงถือเอาความเลื่อมใสในพระสงฆ์ ด้วยบทว่า ความเลื่อมใส.

ทรงถือเอาความเลื่อมใสในธรรม ด้วยบทว่า การเห็นธรรม เป็นอันว่า ตรัสองค์แห่งการบรรลุโสดา ๔ ด้วยประการฉะนี้.

บทว่า กาเล ปจฺเจนฺติ ได้แก่ บรรลุ (ผล) ตามกาล.

บทว่า ความสุขอันหยั่งลงในพรหมจรรย์ ได้แก่ สุขที่สัมปยุตด้วยมรรค ๓ เบื้องสูงที่รวมเอาพรหมจรรย์แล้วดำรงอยู่.

ก็ความเลื่อมใสที่มาแล้วในคาถา จัดว่าเป็นความเลื่อมใสอันเป็นโลกุตระ พระติปิฏกจูฬาภยเถระ กล่าวว่า ความเลื่อมใสก่อน.

พระติปิฏกจูฬนาคเถระ กล่าวว่า ความเลื่อมใสคือ การพิจารณามรรคที่มาแล้ว.

พระเถระ แม้ทั้งสอง เป็นบัณฑิต มีสุตะมาก สุภาษิตของพระเถระทั้งสองว่า นี้เป็นความเลื่อมใสที่เจือกัน.

จบอรรถกถาโอคธสูตรที่ ๒