อสรพิษ ๔ จำพวก - ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลม
เวลานี้ขันธ์ ๕ ก็มีครบ พร้อม แต่สติระลึกขันธ์หนึ่งขันธ์ใดหรือเปล่า หรือว่าทางหนึ่งทางใดใน ๖ ทางหรือเปล่า ถ้ายังเป็นผู้ที่ไม่มั่นคงในการเจริญสติปัฏฐาน ก็จะต้องอาศัยการฟังพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง โดยละเอียด
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสกะภิกษุทั้งหลายว่า
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย เหมือนอย่างว่า มีอสรพิษ ๔ จำพวกซึ่งมีฤทธิ์เดชแรงกล้า ถ้ามีบุรุษรักชีวิต ผู้ไม่อยากตาย รักสุข เกลียดทุกข์ ชนทั้งหลายพึงกล่าวกะเขาอย่างนี้ว่า ดูกร ท่าน อสรพิษ ๔ จำพวกนี้ มีฤทธิ์เดชแรงกล้า ท่านพึงปลุกให้ลุกตามเวลา ให้อาบน้ำตามเวลา ให้กินอาหารตามเวลา ให้เข้าสู่ที่อยู่ตามเวลา เวลาใดอสรพิษทั้ง ๔ จำพวกนี้ ตัวใดตัวหนึ่งโกรธขึ้น เวลานั้นท่านก็จะพึงถึงความตาย หรือถึงทุกข์แทบปางตาย กิจใดที่ท่านควรทำ ก็จงทำกิจนั้นเสีย ฯ
ถ้าไม่ใช่เป็นผู้ที่มีปกติอบรมเจริญสติปัฏฐาน จะไม่เข้าใจความหมายของคำว่า กิจใดที่ท่านควรทำ ก็จงทำกิจนั้นเสีย ขณะนี้ที่พึ่งอันแท้จริงไม่ใช่กุศลขั้นทาน ไม่ใช่กุศลขั้นศีล ไม่ใช่กุศลขั้นความสงบ แต่เป็นสติปัฏฐานที่ระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏเท่านั้น ที่เป็น กิจใดที่ท่านควรทำ ก็จงทำกิจนั้นเสีย
อสรพิษ ๔ จำพวก ได้แก่ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลม ที่ท่านยึดถือว่า เป็นร่างกายของท่านตั้งแต่ศีรษะตลอดเท้า วันนี้อสรพิษ ๔ จำพวกนี่ยังไม่โกรธ ก็ยังไม่ขบกัดให้เดือดร้อน เป็นทุกข์ ยังอยู่ดี เพราะท่านรักอสรพิษทั้ง ๔ ตัวนี้ ปลุกให้ลุกตามเวลา ให้อาบน้ำตามเวลา ให้กินอาหารตามเวลา ให้เข้าสู่ที่อยู่ คือ นอนพักผ่อนตามเวลา แต่ให้เห็นภัย ให้เห็นโทษของธาตุดิน น้ำ ไฟ ลม เวลาที่เกิดเจ็บป่วยขึ้น เกิดจากอะไร ถ้าไม่ใช่เกิดจากร่างกายซึ่งประกอบด้วยธาตุดิน น้ำ ไฟ ลม ซึ่งถ้าไม่เจ็บปวด ยังไม่ป่วยไข้ ก็ยังไม่เห็นโทษ จนกว่าจะมีผู้เตือนให้เห็นว่า ร่างกายซึ่งเป็นที่รัก เป็นที่พอใจ เป็นที่ยึดถืออย่างมาก ที่ท่าน ปลุกให้ตื่นตามเวลา ให้อาบน้ำตามเวลา ให้กินอาหารตามเวลา ให้เข้าสู่ที่อยู่ คือนอนพักผ่อน ตามเวลา ด้วยความ หวงแหน ด้วยความพอใจ ยึดมั่นในร่างกายนี้ แท้จริงก็คือสิ่งที่จะทำให้เกิดทุกข์ เพราะไม่มีใครที่ไม่ถูกอสรพิษ ๔ จำพวกนี้ขบกัด คือ เวลาที่ป่วยไข้ได้เจ็บ ก็เพราะธาตุทั้ง ๔ นั่นเอง
รับฟังเพิ่มเติม ...