ฟังธรรมแล้ว ยังรู้สึกว่ายังมีความเป็นตัวตนอยู่
ขณะที่เห็น ไม่ใช่ขณะที่คิด ขณะที่ได้ยิน ก็ไม่ใช่ขณะที่คิด และก็แต่ละขณะนี่ก็สั้นมาก เหมือนฟ้าแลบ ก็เป็นเรื่องที่ต้องฟัง จนกว่าจะมีความเข้าใจธรรม และความเข้าใจธรรม ก็จะทำให้รู้ว่าสภาพธรรม ไม่ใช่เรา ฟังแล้วเป็นธรรม กำลังเป็นธรรม ไม่มีคน มีเห็น มีได้ยิน มีคิดนึกเท่านั้นเอง
คำว่า ธรรม เราเคยคุ้นหู แต่เราไม่คุ้นกับสภาพเดี๋ยวนี้คืออะไร ได้ยินธรรมก็เป็นเรื่องเป็นราว แล้วก็คุยกันเรื่องธรรมหลายเรื่อง แต่ไม่คุ้นกับการที่จะเข้าใจว่าขณะนี้ เป็นธรรม เพราะฉะนั้นก็คือว่า แทนที่เราจะเรียนเรื่องชื่อยาว แล้วก็คุยกันเรื่องชื่อเยอะๆ แต่ขณะนี้ก็มีสิ่งที่มีจริงๆ ในสังสารวัฏฏ์ เกิดมาทุกคน เด็ก ผู้ใหญ่อย่างไรก็ต้องมีการเห็น มีการได้ยิน มีการคิดนึก มีสุข มีทุกข์ ไม่เคยรู้เลยว่า ทั้งหมดมีจริงชั่วขณะที่เกิดขึ้น และก็หมดไป เมื่อสักครู่นี้อยู่ที่ไหน เห็นไหม ไม่เหลือเลย แล้วเดี๋ยวนี้แต่ละขณะ ถ้าเป็นผู้ที่ละเอียดจริงๆ ก็คือว่า มีสิ่งที่กำลังปรากฏ แต่ยังไม่เห็นแจ้งว่าเป็นสิ่งที่เกิดปรากฏ แล้วหมดไป อย่างรวดเร็วมาก เหมือนไม่มีอะไรที่จะหมดสิ้นไปเลยสักอย่างเดียว ยังคงเป็นเรา แล้วก็นั่งตรงนี้ แล้วก็ฟังเรื่องธรรม
เรื่องธรรมเป็นสิ่งที่ลึกซึ้งมาก แต่ก็จะทำให้รู้จักผู้ที่เราคุ้นหู ตั้งแต่เราได้เกิดมาเป็นชาวพุทธ คือพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เคยได้ยินคำนี้บ่อยมาก แล้วก็มีความเคารพอย่างสูงสุด ในบุคคลผู้ที่เรานอบน้อมเคารพแล้วก็กราบไหว้บูชา พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ว่าถ้าไม่ฟังคำสอนจริงๆ เราจะไม่รู้จักพระองค์เลย
ที่มา ฟัง และ อ่านเพิ่มเติม