เริ่มมีความเข้าใจมั่นคง
ผู้ที่ศึกษาพระธรรมคำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ย่อมรู้เหตุรู้ผลตามแนวพระธรรมที่ทรงแสดงไว้ตลอด ๔๕ พรรษา อันเป็นสัจจธรรม ที่สามารถพิสูจน์ได้ฉะนั้น เมื่อผู้ศึกษาเข้าใจสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ปรมัตถธรรม อริยสัจจ์ กรรมและผลของกรรม เป็นต้น ย่อมเป็นผู้เริ่มที่จะค่อยๆ มั่นคง ในพระรัตนตรัยมากยิ่งขึ้น ตามความรู้ความเข้าใจของแต่ละท่านที่ได้ศึกษา
ธรรมเป็นของจริงพิสูจน์ได้ เดี๋ยวนี้เอง ถ้าเรามีสัญญาความจำที่มั่นคง ในหนทางนี้คือ การเจริญสติปัฏฐาน และไม่คิดหาหนทางอื่น ก็แสดงว่าเราเริ่มเข้าใจหนทางถูก และมั่นคงว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นธรรมะ ไม่ว่าจะเกิดกี่ภพกี่ชาติ ก็ไม่พ้นไปจากการเห็น การได้ยิน ฯลฯ เพราะฉะนั้น การอบรมปัญญา ก็คือรู้ความจริงของสิ่งที่กำลังปรากฏขณะนี้เองค่ะ
ปัญญาหรือความเข้าใจ (มั่นคง) มีหลายระดับครับ ปัญญาขั้นการฟัง เข้าใจขั้นเรื่องราวว่าทุกอย่างเป็นธัมมะโดยขั้นคิดนึก แต่ยังไม่มีความเข้าใจมั่นคงจริงๆ (ทุกอย่างเป็นธัมมะ) เพราะสติปัฏฐานไม่ได้เกิดระลึกสภาพธัมมะว่าไม่ใช่เราเป็นแต่เพียงธัมมะปัญญาขั้นสติระลึกสภาพธัมมะบ้างแล้ว แต่สติยังไม่เกิดทั่วในสภาพธัมมะแต่ละอย่าง จึงยังไม่มีความเข้าใจมั่นคง ว่าทุกอย่างเป็นแต่เพียง นามธรรมและรูปธรรม ต่อเมื่อวิปัสสนาญาณเกิดปัญญาที่เป็นวิปัสสนาญาณเกิด ก็ยังไม่มีความเข้าใจมั่นคงด้วยการดับความเห็นผิดหมดไม่เหลือ ดังนั้นเราจะทราบว่าเรามีความเข้าใจมั่นคงก็ต่อเมื่อปัญญาเกิด แต่ปัญญาก็มีหลายระดับตามที่กล่าวมาข้างต้นครับ
ขออนุโมทนาครับ ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย