ควรพิจารณาสภาพธรรมที่ปรากฎให้เข้าใจได้ทาง ๖ ทวารในขณะนี้
จากการฟังการสนทนาธรรม ที่มูลนิธิฯ มีความเข้าใจมากขึ้น ถึงความจริงว่า ชีวิตประจำวันนั้น อยู่กับความคิดนึกเรื่องราว สมมติบัญญัติทั้งวัน คำถามข้อสงสัยก็มักจะถามถึงเหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ซึ่งไม่เกื้อกูลแก่การเพิ่มขึ้น ของความเข้าใจสภาพธรรมที่ปรากฎ เช่น ทางตาก็มักจะเลยสภาพธรรมที่มีจริงไป (สิ่งที่ปรากฎทางตา วรรณรูป) เห็นเป็น คน สัตว์ โต๊ะเก้าอี้ ด้วยความรวดเร็วในการเกิดดับของจิต สุดที่จะประมาณได้ ดังนั้น จึงควรพิจารณาสิ่งที่มีจริงในขณะนี้ทาง ๖ ทวาร ซึ่งเป็นสภาพธรรมที่สามารถจะเข้าใจได้
ขออนุโมทนา
สิ่งที่ไม่ปรากฏ จะรู้หรือจะศึกษาได้อย่างไร เพราะไม่มีลักษณะให้รู้เลย
ขออนุโมทนา
วิบากทางตาดับแล้ว กิเลสก็เข้าครอบงำทันที รู้สึกยินดี ที่เห็นดอกไม้สวยๆ หนาสมชื่อปุถุชนจริงๆ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
การเจริญสติปัฏฐาน มิได้ห้ามไม่ให้คิดนึก หรือตรึกถึงเรื่องราวต่างๆ เพราะมีเหตุปัจจัยก็เกิดขึ้น แม้การคิดสงสัย ในเรื่องที่ไม่ใช่เกี่ยวกับสภาพธัมมะก็ตาม ก็บังคับไม่ได้ สะสมที่จะคิด และมีเหตุปัจจัยก็เกิด ดังนั้น จึงเป็นเรื่องของความเข้าใจ ตั้งแต่ต้นแม้ขั้นการฟังว่า ทุกอย่างเป็นธรรม แม้ความคิด แม้จะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม ความคิดก็เป็นสภาพธัมมะ ดังนั้น การฟังธรรม คือเพื่อเข้าใจในสิ่งที่ฟังเท่านั้น ว่าทุกอย่างเป็นธรรม เมื่อมั่นคงจนเป็นสัจจญาณ สติย่อมเกิด แม้ขณะที่คิดเป็นไปในเรื่องอะไรก็ได้และย่อมไม่เดือดร้อนในสิ่งที่คิดครับ เพราะเป็นธรรม
ขออนุโมทนา