พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

๖. เสวิตัพพสูตร ว่าด้วยผู้ควรคบและไม่ควรคบ

 
บ้านธัมมะ
วันที่  20 ต.ค. 2564
หมายเลข  38647
อ่าน  393

[เล่มที่ 34] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้า 84

ปฐมปัณณาสก์

ปุคคลวรรคที่ ๓

๖. เสวิตัพพสูตร

ว่าด้วยผู้ควรคบและไม่ควรคบ


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 34]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 27 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้า 84

๖. เสวิตัพพสูตร

ว่าด้วยผู้ควรคบและไม่ควรคบ

[๔๖๕] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๓ นี้ มีอยู่ในโลก บุคคล ๓ คือใคร คือ บุคคลที่ไม่ควรเสพ ไม่ควรคบ ไม่ควรเข้าใกล้ก็มี บุคคลที่ควรเสพ ควรคบ ควรเข้าใกล้ก็มี บุคคลที่ควรสักการะเคารพแล้วจึงเสพ จึงคบ จึงเข้าใกล้ก็มี

บุคคลที่ไม่ควรเสพ ไม่ควรคบ ไม่ควรเข้าใกล้เป็นอย่างไร? บุคคลลางคนในโลกนี้ เป็นผู้ด้อยโดยศีล โดยสมาธิ โดยปัญญา บุคคลเช่นนี้ ไม่ควรเสพ ไม่ควรคบ ไม่ควรเข้าใกล้ เว้นแต่เอ็นดู เว้นแต่อนุเคราะห์

บุคคลที่ควรเสพ ควรคบ ควรเข้าใกล้เป็นอย่างไร? บุคคลลางคนในโลกนี้ เป็นผู้เช่นเดียวกันโดยศีล โดยสมาธิ โดยปัญญา บุคคลเช่นนี้ ควรเสพ ควรคบ ควรเข้าใกล้ นั่นเพราะเหตุอะไร? เพราะเมื่อเราเป็นผู้เสมอกันโดยศีล ... โดยสมาธิ ... โดยปัญญาแล้ว สีลกถา (การพูดกันถึง

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 27 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้า 85

เรื่องศีล) ... สมาธิกถา (การพูดกันถึงเรื่องสมาธิ) ... ปัญญากถา (การพูดถึงเรื่องปัญญา) ก็จักมีด้วย การพูดกันของเรานั้นจักไปกันได้ด้วย การพูดกันของเรานั้นจักเป็นความผาสุกด้วย เพราะเหตุนั้น บุคคลเช่นนี้ จึงควรเสพ ควรคบ ควรเข้าใกล้

บุคคลที่ควรสักการะเคารพแล้วจึงเสพ จึงคบ จึงเข้าใกล้ เป็นอย่างไร? บุคคลลางคนในโลกนี้ เป็นผู้ยิ่งโดยศีล โดยสมาธิ โดยปัญญา บุคคลเช่นนี้ ควรสักการะเคารพแล้วจึงเสพ จึงคบ จึงเข้าใกล้ นั่นเพราะเหตุอะไร เพราะเราจะได้ทำกองศีล ... กองสมาธิ ... กองปัญญาที่ยังไม่บริบูรณ์ให้บริบูรณ์บ้าง จะได้ประคับประคองกองศีล ... กองสมาธิ ... กองปัญญาที่บริบูรณ์แล้วไว้ได้ด้วยความฉลาดในธรรมนั้นๆ บ้าง เพราะเหตุนั้น บุคคลเช่นนี้ จึงควรสักการะเคารพแล้วจึงเสพ จึงคบ จึงเข้าใกล้

นี้แล ภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๓ มีอยู่ในโลก

พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้พระสุคตศาสดา ได้ตรัสพระธรรมเทศนาไวยากรณภาษิตนี้แล้ว ครั้นแล้วจึงตรัสนิคมคาถาประพันธ์นี้อีกว่า

คนผู้คบคนทราม ย่อมเสื่อม ส่วนคนผู้คบคนเสมอกัน ไม่เสื่อมในกาลไหนๆ ผู้คบคนที่ประเสริฐกว่า ย่อมเจริญเร็ว เพราะฉะนั้น จึงควรคบคนที่ยิ่งกว่าตน.

จบเสวิตัพพสูตรที่ ๖

 
  ข้อความที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 27 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้า 86

อรรถกถาเสวิตัพพสูตร

พึงทราบวินิจฉัยในเสวิตัพพสูตรที่ ๖ ดังต่อไปนี้ :-

บทว่า เสวิตพฺโพ ได้แก่ พึงเข้าไปหา. บทว่า ภชิตพฺโพ ได้แก่ พึงสนิทสนม. บทว่า ปยิรุปาสิตพฺโพ ได้แก่ พึงเข้าไปบ่อยๆ ด้วยการนั่งในที่ใกล้. บทว่า สกฺกตฺวา ครุกตฺวา ความว่า ทำทั้งสักการะและความเคารพ.

ในบทว่า หีโน โหติ สีเลน เป็นต้น พึงทราบความต่ำ (กว่ากัน) โดยเทียบเคียงกัน. อธิบายว่า ในบรรดาคนเหล่านั้น ผู้รักษาศีล ๑๐ ไม่ควรคบคนรักษาศีล ๕. ผู้รักษาจาตุปาริสุทธิศีล ไม่ควรคบคนรักษาศีล ๑๐. บทว่า อญฺตฺร อนุทยา อฺตฺร อนุกมฺปา ความว่า นอกจากจะเอ็นดู จะอนุเคราะห์. เพราะว่าเพื่อประโยชน์ตนแล้ว ก็ไม่ควรคบคนเช่นนี้. แต่จะเข้าไปหาเขา โดยความเอ็นดู โดยอนุเคราะห์ก็ควร.

บทว่า สีลสามญฺคตานํ สตํ ความว่า แก่เราทั้งหลายผู้ถึงความเป็นผู้มีศีลเสมอกันมีอยู่. บทว่า สีลกกา จ โน ภวิสฺสติ ความว่า กถาปรารภศีลนั่นแหละจักมีแก่เราทั้งหลายผู้มีศีลเสมอกันอย่างนี้. บทว่า สา จ โน ปวตฺตนี ภวิสฺสติ ความว่า กถาของพวกเราทั้งหลายที่พูดกันแม้ตลอดวันนั้นจักดำเนินไป คือ ไม่ขาดระยะ. บทว่า สา จ โน ผาสุ ภวิสฺสติ ความว่า และสีลกถาที่ดำเนินไปตลอดทั้งวันนั้น จักเป็นการอยู่อย่างสำราญของเราทั้งหลาย. แม้ในสมาธิปัญญากถา ก็มีนัยเหมือนกันนี้แหละ.

บทว่า สีลกฺขนธํ ได้แก่ กองศีล. บุคคลเว้นธรรมที่ไม่เป็นสัปปายะของศีล คือ ไม่เป็นอุปการะแก่ศีล ซ่องเสพ (ประพฤติ) ธรรมที่เป็นสัปปายะ

 
  ข้อความที่ 4  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 27 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้า 87

คือ ธรรมที่เป็นอุปการะแก่ศีล ชื่อว่าอนุเคราะห์สีลขันธ์ ด้วยปัญญาในที่นั้นๆ ในบทว่า ตตฺถ ตตฺถ ปญฺาย อนุคฺคเหสฺสามิ นี้. แม้ในสมาธิขันธ์ และปัญญาขันธ์ ก็มีนัยนี้เหมือนกัน.

บทว่า นิหียติ ความว่า บุคคลเมื่อคบหาคนที่เลวกว่าตนย่อมเสื่อม คือ ย่อมเสียหายติดต่อกันเรื่อยไป เหมือนน้ำที่เทไปในหม้อกรองน้ำด่าง. บทว่า ตุลฺยเสวี ได้แก่ คบคนที่เสมอกับตน. บทว่า เสฏฺมุปนมํ ได้แก่ น้อมเข้าไปหาผู้ประเสริฐ. บทว่า อุเทติ ขิปฺปํ ความว่า ย่อมเจริญเร็วทีเดียว. บทว่า ตสฺมา อตฺตโน อุตฺตรึ ภเชถ ความว่า เพราะเหตุที่บุคคลผู้น้อมตนเข้าไปหาบุคคลผู้ประเสริฐ ย่อมเจริญเร็ว ฉะนั้น จึงควรคบคนที่ยิ่งกว่า คือ คนที่สูงกว่า ได้แก่ คนที่ประเสริฐกว่าตน.

จบอรรถกถาเสวิตัพพสูตรที่ ๖