๔. สมณสูตร ว่าด้วยผู้ควรยกย่องเป็นสมณะและพราหมณ์
[เล่มที่ 34] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้า 514
ตติยปัณณาสก์
สัมโพธิวรรคที่ ๑
๔. สมณสูตร
ว่าด้วยผู้ควรยกย่องเป็นสมณะและพราหมณ์
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 34]
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้า 514
๔. สมณสูตร
ว่าด้วยผู้ควรยกย่องเป็นสมณะและพราหมณ์
[๕๔๖] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดๆ ไม่รู้แจ้งชัดซึ่งอัสสาทะ อาทีนพ และนิสสรณะของโลกอย่างถูกต้องตามจริง สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้น เราไม่นับว่าเป็นสมณะในสมณะทั้งหลาย ไม่นับว่าเป็นพราหมณ์ในพราหมณ์ทั้งหลาย อนึ่ง สมณพราหมณ์เหล่านั้น หาทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งด้วยตนเองซึ่งประโยชน์แห่งความเป็นสมณพราหมณ์ ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง สำเร็จอยู่ปัจจุบันนี้ได้ไม่
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้า 515
ส่วนสมณะ หรือพราหมณ์เหล่าใดๆ รู้แจ้งชัดซึ่งอัสสาทะ อาทีนพ และนิสสรณะของโลกอย่างถูกต้องตามจริง สมณะ หรือพราหมณ์เหล่านั้น เรานับว่าเป็นสมณะในสมณะทั้งหลาย นับว่าเป็นพราหมณ์ในพราหมณ์ทั้งหลาย อนึ่ง เธอเหล่านั้นย่อมทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งด้วยตนเองซึ่งประโยชน์แห่งความเป็นสมณพราหมณ์ สำเร็จอยู่ในปัจจุบันนี้ได้.
จบสมณสูตรที่ ๔
อรรถกถาสมณสูตร
พึงทราบวินิจฉัยในสมณสูตรที่ ๔ ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า สามญฺตฺถํ ได้แก่ อริยผลทั้ง ๔ อย่าง. บทนอกนี้เป็นไวพจน์ของบทว่า สามญฺตฺถํ ทั้งนั้น. อีกอย่างหนึ่ง ชื่อว่ามรรค ๔ เพราะอรรถว่า ความเป็นสมณะ ชื่อว่าผล ๔ เพราะอรรถว่า ความเป็นพรหม. ก็ในพระสูตรทั้ง ๔ เหล่านี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถึงขันธโลกอย่างเดียว.
จบอรรถกถาสมณสูตรที่ ๔