รู้สึกหวั่นไหวค่ะ และรู้สึกหวาดกลัว

 
kchat
วันที่  2 มิ.ย. 2550
หมายเลข  3877
อ่าน  1,205

ผู้ฟัง จากการฟังธรรมะ ก็มีความคิดนึกว่า มันไม่มีอะไรเลย นอกจากทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ทางใจ ก็คือสิ่งที่เราคิดนึก เมื่อรู้ว่า แม้แต่กาย ตั้งแต่หัวจรดเท้า ก็ไม่มี มีเพียงแต่รูป ที่ปรากฏได้เพียง ตา ... กาย รู้สึกหวั่นไหวค่ะ และรู้สึกหวาดกลัว

อ. ที่จำไว้นี่นะคะ ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ไม่ใช่ชาตินี้ชาติเดียว กว่าจะค่อยๆ จางการยึดถือสิ่งที่เคยจำไว้ ให้รู้ความจริงว่ามันไม่มี ไม่เหลือเลย

ผู้ฟัง พอคิดนึกว่ามันไม่มี มันหวาดกลัวและหวั่นไหว

อ. เพราะอะไรคะ เพราะขณะนั้นไม่ใช่ปัญญา เป็นเรา และโทสะ ความไม่สบายใจที่ต้องสูญเสียสิ่งที่เคยยึดถือ ไม่มีอะไรที่ยึดถือมากเท่ากับเรา ตายก็เป็นเรา ไปเกิดอีก ไม่ใช่คนอื่นตามไปด้วยเลย ใช่ไหมคะ ยังมีความเป็นเรา ในนามธาตุ ในรูปธาตุ ในขันธ์ ๕ นี่ เพราะความไม่รู้ เพราะฉะนั้น ความไม่รู้นี้ก็ติดตามไปทุกชาติ แล้วก็จะหวั่นไหว เมื่อเป็นอวิชชา แต่ถ้าเป็นปัญญา ไม่หวั่นไหวเลย แต่ปัญญาที่จะไม่หวั่นไหวได้ ไม่ใช่มาจากเพียงขั้นฟัง ขั้นฟังไม่มีทางเลยค่ะ ต้องหวั่นไหวแน่นอน เพราะว่าเคยเป็นเรา เราในความฝัน เราในความคิด เราในขณะที่เห็น เราในทุกสถานการณ์ เราในขณะที่กำลังมีสุข เราขณะมียศ เราขณะเสื่อมลาภ เสื่อมยศ เราหมดเลย เพราะฉะนั้น กว่าจะจางความเป็นเรา การที่เคยยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นเรา จนกระทั่งไม่เหลือเลย เพราะรู้ความจริงมีหนทางเดียวนะคะ เพราะรู้ความจริง ไม่ใช่อยู่ดีๆ ฟังแล้วก็ตกใจไม่เป็นเรา นั่นก็คิดทั้งหมดเลย ไม่ใช่เป็นการรู้ความจริง ทีละเล็ก ทีละน้อย จนกระทั่งไม่หวั่นไหว แล้วก็สามารถจะประจักษ์ความจริงของสภาพธรรมตามลำดับขั้น จนคลายๆ คลาย เมื่อไหร่เมื่อนั้น ก็สามารถที่จะไม่มีเยื่อใยที่จะยึดถือสภาพธรรมนั้นอีกต่อไป ว่าเป็นเรา ด้วยปัญญาที่ประจักษ์ความจริง มิฉะนั้นไม่มีการรู้แจ้งอริยสัจธรรม ไม่มีการโน้มไปสู่ลักษณะของนิพพาน ลองคิดดู ตั้งแต่เกิดมา จนกระทั่งถึงดี๋ยวนี้ ชอบหมดเลยหรือเปล่า จาก การสนทนา ... โกสลสูตร ว่าด้วยการเจริญสติปัฏฐาน ๔

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้าที่ 382 เมื่อวันเสาร์ที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๕๐


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
wannee.s
วันที่ 2 มิ.ย. 2550

กว่าจะละความหวั่นไหว ความหวาดกลัวได้ ต้องอบรมปัญญาถึงขั้นพระอนาคามี จึงจะดับโทสะได้เป็นสมุจเฉท ผู้ที่เป็นปุถุชนเป็นธรรมดาย่อมมีความหวั่นไหว และหวาดกลัว เพราะถูกอวิชชาปกปิด ไม่ให้เห็นสภาพธรรม ตามความเป็นจริง ถ้าเราอบรมปัญญาตั้งแต่เดี๋ยวนี้คือ ฟังธรรมทุกวันเท่าที่มีโอกาส เพราะการฟังธรรม คือการอบรมปัญญา ถ้าเรายิ่งมีปัญญา ความหวั่นไหวหรือความหวาดกลัว ก็จะลดลงไปตามความเข้าใจค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
study
วันที่ 2 มิ.ย. 2550
ขออนุโมทนา
 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
medulla
วันที่ 3 มิ.ย. 2550

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 3 มิ.ย. 2550

ขออนุโมทนาครับ

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 2 มี.ค. 2567

ยินดีในกุศลจิตค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ