พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

๑๓. ตติยโมรนิวาปสูตร ว่าด้วยผู้ประเสริฐเพราะมีธรรม ๓ อย่าง

 
บ้านธัมมะ
วันที่  22 ต.ค. 2564
หมายเลข  38778
อ่าน  327

[เล่มที่ 34] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้า 585

ตติยปัณณาสก์

โยธาชีวรรคที่ ๔

๑๓. ตติยโมรนิวาปสูตร

ว่าด้วยผู้ประเสริฐเพราะมีธรรม ๓ อย่าง


จบโยธาชีวรรคที่ ๔


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 34]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 27 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้า 585

๑๓. ตติยโมรนิวาปสูตร

ว่าด้วยผู้ประเสริฐเพราะมีธรรม ๓ อย่าง

[๕๘๕] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๓ ประการ เป็นผู้สำเร็จถึงที่สุด ฯลฯ เป็นผู้ประเสริฐแห่งเทวดามนุษย์ทั้งหลาย ธรรม ๓ ประการ คืออะไรบ้าง คือ สัมมาทิฏฐิ (ความเห็นชอบ) สัมมาญาณ (ความรู้ชอบ) สัมมาวิมุตติ (ความพ้นชอบ) ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๓ ประการนี้แล เป็นผู้สำเร็จถึงที่สุด ฯลฯ เป็นผู้ประเสริฐแห่งเทวดามนุษย์ทั้งหลาย

จบตติยโมรนิวาปที่ ๑๓

จบโยธาชีวรรคที่ ๔

อรรถกถาตติยโมรนิวาปสูตร

พึงทราบวินิจฉัยในตติยโมรนิวาปสูตรที่ ๑๓ ดังต่อไปนี้ :-

บทว่า สมฺมาทิฏฺิยา ได้แก่ ด้วยสัมมาทิฏฐิที่เกิดแต่วิปัสสนา เพื่อประโยชน์แก่ผลสมาบัติ. บทว่า สมฺมาาเณน ได้แก่ ด้วยผลญาณ บทว่า สมฺมาวิมุตฺติยา ได้แก่ ธรรม คือ ผลสมาบัติที่เหลือ. ในสูตรแม้ทั้ง ๓ เหล่านี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสหมายถึงพระขีณาสพอย่างเดียว ฉะนี้แล.

จบอรรถกถาตติยโมรนิวาปสูตรที่ ๑๓

จบโยธาชีววรรควรรณนาที่ ๔

รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้ คือ

๑. โยธสูตร ๒. ปริสาสูตร ๓. มิตตสูตร ๔. อุปปาทสูตร ๕. เกสกัมพลสูตร ๖. สัมปทาสูตร ๗. วุฑฒิสูตร ๘. ปฐมอัสสสูตร ๙. ทุติยอัสสสูตร ๑๐. ตติยอัสสสูตร ๑๑. ปฐมโมรนิวาปสูตร ๑๒. ทุติยโมรนิวาปสูตร ๑๓. ตติยโมรนิวาปสูตร และอรรถกถา.