พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

๖. ปฐมสีลสูตร ว่าด้วยบุคคล ๔ จําพวก

 
บ้านธัมมะ
วันที่  23 ต.ค. 2564
หมายเลข  38928
อ่าน  338

[เล่มที่ 35] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้า 354

ตติยปัณณาสก์

ปุคคลวรรคที่ ๔

๖. ปฐมสีลสูตร

ว่าด้วยบุคคล ๔ จําพวก


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 35]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 27 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้า 354

๖. ปฐมสีลสูตร

ว่าด้วยบุคคล ๔ จำพวก

[๑๓๖] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๔ จำพวกนี้ มีปรากฏอยู่ในโลก ๔ จำพวกเป็นไฉน คือ

บุคคลบางคนเป็นผู้ไม่ทำให้บริบูรณ์ในศีล ไม่ทำให้บริบูรณ์ในสมาธิ ไม่ทำให้บริบูรณ์ในปัญญา ๑

บุคคลบางคนเป็นผู้ทำให้บริบูรณ์ในศีล แต่ไม่ทำให้บริบูรณ์ในสมาธิ ไม่ทำให้บริบูรณ์ในปัญญา ๑

บุคคลบางคนเป็นผู้ทำให้บริบูรณ์ในศีล ทำให้บริบูรณ์ในสมาธิ แต่ไม่ทำให้บริบูรณ์ในปัญญา ๑

บุคคลบางคนเป็นผู้ทำให้บริบูรณ์ในศีล ทำให้บริบูรณ์ในสมาธิ ทำให้บริบูรณ์ในปัญญา ๑

นี้แล บุคคล ๑ จำพวก มีปรากฏอยู่ในโลก.

จบปฐมสีลสูตรที่ ๖

อรรถกถาปฐมสีลสูตร

พึงทราบวินิจฉัยในปฐมสีลสูตรที่ ๖ ดังต่อไปนี้ :-

คนจำพวกที่หนึ่ง ได้แก่โลกิยมหาชน จำพวกที่สอง ได้แก่พระโสดาบันและพระสกทาคามี ผู้บำเพ็ญวิปัสสนาล้วน จำพวกที่สาม ได้แก่ พระอนาคามี จริงอยู่ พระอนาคามีนั้น เพราะเหตุที่ได้ฌานที่ทำอุปบัติให้เกิด

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 27 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้า 355

แม้ขณะนั้น ฉะนั้น ท่านแม้บำเพ็ญวิปัสสนาล้วน ก็ทำให้บริบูรณ์ในสมาธิโดยแท้ จำพวกที่สี่ ได้แก่พระขีณาสพเท่านั้น จริงอยู่ พระขีณาสพนั้น ชื่อว่าทำให้บริบูรณ์ในศีลสมาธิและปัญญาทั้งหมด เพราะท่านละธรรมที่เป็นข้าศึกต่อศีลเป็นต้นทั้งหมดได้แล้ว.

จบอรรถกถาปฐมสีลสูตรที่ ๖