๙. ตติยปาปธัมมสูตร ว่าด้วยบุคคลผู้มีธรรมลามก
[เล่มที่ 35] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้า 560
วรรคที่ไม่สงเคราะห์เป็นปัณณาสก์
สัปปุริสวรรคที่ ๑
๙. ตติยปาปธัมมสูตร
ว่าด้วยบุคคลผู้มีธรรมลามก
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 35]
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้า 560
๙. ตติยปาปธัมมสูตร
ว่าด้วยบุคคลผู้มีธรรมลามก
[๒๐๙] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงคนมีธรรมชั่วและคนมีธรรมชั่วยิ่งกว่าคนมีธรรมชั่ว กับคนมีธรรมดี และคนมีธรรมดียิ่งกว่าคนมีธรรมดี ท่านทั้งหลายจงฟัง ทำในใจให้ดี เราจักกล่าว
ภิกษุทั้งหลายรับพระพุทธพจน์แล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า คนมีธรรมชั่วเป็นไฉนฃ? บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้ทำปาณาติบาต อทินนาทาน
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้า 561
กาเมสุมิจฉาจาร พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ มีอภิชฌา มีจิตพยาบาท มีความเห็นผิด นี้เรียกว่า คนมีธรรมชั่ว.
คนมีธรรมชั่วยิ่งกว่าคนมีธรรมชั่วเป็นไฉน? บุคคลบางคนตนเองเป็นผู้ทำปาณาติบาต ฯลฯ มีความเห็นผิด ยังชักชวนผู้อื่นให้ทำอย่างนั้นด้วย นี้เรียกว่า คนมีธรรมชั่วยิ่งกว่าคนมีธรรมชั่ว.
คนมีธรรมดีเป็นไฉน? บุคคลบางคนเป็นผู้เว้นจากปาณาติบาต ฯลฯ มีความเห็นชอบ นี้เรียกว่า คนมีธรรมดี.
คนมีธรรมดียิ่งกว่าคนมีธรรมดี เป็นไฉน? บุคคลบางคนตนเองเป็นผู้เว้นจากปาณาติบาต ฯลฯ มีความเห็นชอบ ยังชักชวนผู้อื่นให้เป็นอย่างนั้นด้วย นี้เรียกว่า คนมีธรรมดียิ่งกว่าคนมีธรรมดี.
จบตติยปาปธัมมสูตรที่ ๙
อรรถกถาตติยปาปธัมมสูตร
พึงทรามวินิจฉัยในตติยปาปธัมมสูตรที่ ๙ ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า ปาปธมฺมํ ได้แก่ ธรรมลามก. บทว่า กลฺยาณธมฺมํ ได้แก่ ธรรมอันไม่มีโทษ. คำที่เหลือในสูตรนี้ง่ายทั้งนั้น.
จบอรรถกถาตติยปาปธัมมสูตรที่ ๙