๑๐. จตุตถปาปธัมมสูตร ว่าด้วยบุคคลผู้มีธรรมลามก
[เล่มที่ 35] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้า 562
วรรคที่ไม่สงเคราะห์เป็นปัณณาสก์
สัปปุริสวรรคที่ ๑
๑๐. จตุตถปาปธัมมสูตร
ว่าด้วยบุคคลผู้มีธรรมลามก
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 35]
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้า 562
๑๐. จตุตถปาปธัมมสูตร
ว่าด้วยบุคคลผู้มีธรรมลามก
[๒๑๐] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงคนมีธรรมชั่วและคนมีธรรมชั่วยิ่งกว่าคนมีธรรมชั่ว กับคนมีธรรมดี และคนมีธรรมดียิ่งกว่าคนมีธรรมดี ท่านทั้งหลายจงฟัง ทำในใจให้ดี เราจักกล่าว
ภิกษุทั้งหลายรับพระพุทธพจน์แล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า คนมีธรรมชั่ว เป็นไฉน? บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้มีความเห็นผิด ดำริผิด เจรจาผิด ทำการงานผิด เลี้ยงชีวิตผิด เพียรผิด ตั้งสติผิด ทำสมาธิผิด มีญาณผิด มีวิมุตติผิด นี้เรียกว่า คนมีธรรมชั่ว.
คนมีธรรมชั่วยิ่งกว่าคนมีธรรมชั่ว เป็นไฉน? บุคคลบางคนตนเองเป็นผู้มีความเห็นผิด ฯลฯ มีวิมุตติผิด ยังชักชวนผู้อื่นให้เป็นอย่างนั้นด้วย นี้เรียกว่า คนมีธรรมชั่วยิ่งกว่าคนมีธรรมชั่ว.
คนมีธรรมดี เป็นไฉน? บุคคลบางคนเป็นผู้มีความเห็นชอบ ฯลฯ มีวิมุตติชอบ นี้เรียกว่า คนมีธรรมดี.
คนมีธรรมดียิ่งกว่าคนมีธรรมดี เป็นไฉน? บุคคลบางคนตนเอง เป็นผู้มีความเห็นชอบ ฯลฯ มีวิมุตติชอบ ยังชักชวนผู้อื่นให้เป็นอย่างนั้นด้วย นี้เรียกว่า คนมีธรรมดียิ่งกว่าคนมีธรรมดี.
จบจตุตถปาปธัมมสูตรที่ ๑๐
จบสัปปุริสวรรคที่ ๑
แม้ในอรรกถาจตุตถปาปธัมมสูตรที่ ๑๐ ก็มีนัยนี้เหมือนกัน. ในวรรคนี้ ท่านกล่าวถึงปฏิปทาของผู้ครองเรือนในสูตรแม้ทั้ง ๑๐. หากคฤหัสถ์ เป็นพระโสดาบัน พระสกทาคามี ย่อมควรเหมือนกัน.
จบสัปปุริสวรรควรรณนาที่ ๑
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้า 563
รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้ คือ
๑. สิกขาปทสูตร ๒. อัสสัทธสูตร ๓. สัตตกัมมสูตร ๕. ทสกัมมสูตร ๕. อัฏฐังคิกสูตร ๖. ทสมัคคสูตร ๗. ปฐมปาปธัมมสูตร ๘. ทุติยปาปธัมมสูตร ๙. ตติยปาปธัมมสูตร ๑๐. จตุตถปาปธัมมสูตร และอรรถกถา.