๖. สมาปัตติสูตร ว่าด้วยธรรมที่เป็นปฏิปักษ์กัน
[เล่มที่ 36] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม ๓ - หน้า 8
ปฐมปัณณาสก์
เสขพลวรรคที่ ๑
๖. สมาปัตติสูตร
ว่าด้วยธรรมที่เป็นปฏิปักษ์กัน
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 36]
พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม ๓ - หน้า 8
๖. สมาปัตติสูตร
ว่าด้วยธรรมที่เป็นปฏิปักษ์กัน
[๖] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การถึงอกุศลย่อมไม่มี ตลอดเวลาที่ศรัทธาในกุศลธรรม ยังตั้งมั่นอยู่ แต่เมื่อใด ศรัทธาเสื่อมหายไป อัสสัทธิยะ (ความไม่เชื่อ) ย่อมกลุ้มรุม เมื่อนั้น การถึงอกุศล ย่อมมีการถึงอกุศลย่อมไม่มี
พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม ๓ - หน้า 9
ตลอดเวลา ที่หิริในกุศลธรรม ยังตั้งมั่นอยู่ แต่เมื่อใด หิริเสื่อมหายไป อหิริกะ (ความไม่ละอาย) ย่อมกลุ้มรุม เมื่อนั้น การถึงอกุศลย่อมมี การถึงอกุศลย่อมไม่มี ตลอดเวลา ที่โอตตัปปะ ในกุศลธรรม ยังตั้งมั่นอยู่ แต่เมื่อใดโอตตัปปะ เสื่อมหายไป อโนตตัปปะ (ความไม่สะดุ้งกลัว) ย่อมกลุ้มรุม เมื่อนั้น การถึงอกุศลย่อมมี การถึงอกุศลย่อมไม่มี ตลอดเวลาที่วิริยะในกุศลธรรม ยังตั้งมั่นอยู่ แต่เมื่อใด วิริยะเสื่อมหายไป โกสัชชะ (ความเกียจคร้าน) ย่อมกลุ้มรุม เมื่อนั้นการถึงอกุศลย่อมมี การถึงอกุศลย่อมไม่มีตลอดเวลา ที่ปัญญายังตั้งมั่นอยู่ แต่เมื่อใดปัญญาเสื่อมหายไป ปัญญาทรามย่อมกลุ้มรุม เมื่อนั้นการถึงอกุศลย่อมมี.
จบสมาปัตติสูตรที่ ๖
อรรถกถาสมาปัตติสูตร
พึงทราบวินิจฉัย ในสมาปัตติสูตรที่ ๖ ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า อกุสลสฺส สมาปตฺติ ได้แก่ ความพรั่งพร้อม ด้วยความเข้าถึงอกุศลธรรม. บทว่า ปริยุทฺธาย ติฏฺติ ได้แก่ ครอบงำอยู่.
จบอรรถกถา สมาปัตติสูตรที่ ๖