๓. ปฐมวัฑฒิสูตร ว่าด้วยธรรมเป็นเหตุเจริญ ๕ ประการ
[เล่มที่ 36] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม ๓ - หน้า 153
ทุติยปัณณาสก์
สัญญาวรรคที่ ๒
๓. ปฐมวัฑฒิสูตร
ว่าด้วยธรรมเป็นเหตุเจริญ ๕ ประการ
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 36]
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม ๓ - หน้า 153
๓. ปฐมวัฑฒิสูตร
ว่าด้วยธรรมเป็นเหตุเจริญ ๕ ประการ
[๖๓] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกผู้เจริญด้วยธรรมเป็นเหตุเจริญ ๕ ประการ ชื่อว่า ย่อมเจริญด้วยธรรมเป็นเหตุเจริญอย่างประเสริฐ ชื่อว่า เป็นผู้ยึดถือสาระ และยึดถือสิ่งประเสริฐแห่งกาย ธรรมเป็นเหตุเจริญ ๕ ประการเป็นไฉน คือ ย่อมเจริญด้วยศรัทธา ย่อมเจริญด้วยศีล ย่อมเจริญด้วยสุตะ ย่อมเจริญด้วยจาคะ ย่อมเจริญด้วยปัญญา ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกผู้เจริญด้วยธรรม เป็นเหตุเจริญ ๕ ประการนี้แล ชื่อว่า ย่อมเจริญด้วยธรรม เป็นเหตุเจริญอย่างประเสริฐ ชื่อว่า เป็นผู้ยึดถือสาระ และยึดถือสิ่งประเสริฐแห่งกาย.
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม ๓ - หน้า 154
อริยสาวกผู้ใดย่อมเจริญ ด้วยศรัทธา ศีล สุตะ จาคะ และปัญญา ทั้งสองฝ่าย อริยสาวกผู้เช่นนั้น เป็นสัปบุรุษ มีปรีชา เห็นประจักษ์ ชื่อว่า ย่อมยึดถือสาระแห่ง ตน ในโลกนี้ไว้ได้ทีเดียว.
จบปฐมวัฑฒิสูตรที่ ๓
อรรถกถาปฐมวัฑฒิสูตร
พึงทราบวินิจฉัย ในปฐมวัฑฒิสูตรที่ ๓ ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า วราทายี คือ เป็นผู้ยึดเอาไว้ได้ซึ่งสาระอันสูงสุด. คำที่เหลือ ในสูตรนี้และสูตรที่ ๔ ง่ายทั้งนั้นแล.
จบอรรถกถา ปฐมวัฑฒิสูตรที่ ๓